จากกระทู้ที่แล้วที่เรามีปัญหากับงานพาร์ทไทม์ตอนนี้ทำมาได้จะ2เดือนแล้วค่ะ ตอนนี้กำลังคิดอยู่ว่าจะลาออกดีไหม เนื่องจากโดนกดดันหนักมากและผู้จัดการที่ทำงานก็ชอบหาเรื่องจับผิดเราตลอด เรื่องมีอยู่ว่ายอดขายที่ร้านค่อนข้างน้อยในช่วงวันธรรมดา ผู้บริหารก็เลยมาเข้าร้าน มาดูนู่นนี่นั่น บางวันเราก็ต้องไปยืนตะโกนเรียกลูกค้าอยู่หน้าร้าน โดยพนักงานที่มายืนเรียกลูกค้าก็จะวนกันคนละ2ชม. เราเป็นคนขี้อายพูดน้อยและก็เป็นคนพูดเสียงไม่ดังอยู่แล้วค่ะ แต่อันนี้เราก็พยายามตะโกนอยู่ตลอดตอนที่มีคนเดินผ่านไปมาหน้าร้าน และก็มีผู้ชายคนนึงที่มากับทีมผู้บริหารไม่แน่ใจว่าทำตำแหน่งอะไร แต่เป็นฟีลแบบประสานงานประมาณนี้ค่ะ เขาก็มาคุยกับเราบอกว่า ผมไม่ได้ยินเสียงคุณเลย บ่นอะไรงุบงิบๆ ผมต้องเอาโทรโข่งมาให้คุณมั้ย และก็ถามต่ออีกว่าเรียนอยู่ปีไหน เราก็ตอบไปว่าอยู่ปี2 แล้วเขาบอกว่าแบบนี้จะไปเป็นพี่ชาวบ้านเขาได้ยังไง จะไปทำอะไรกิน เราก็เลยงงไปเลยค่ะว่าต้องว่าถึงขนาดนั้นเลยเหรอแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรไปค่ะ และก็ตอนที่ยืนอยู่หน้าร้านก็มีเด็กนักเรียนมาถามทาง พอเด็กเดินไป ผจก.ก็ปรี่เข้ามาหาเราเลยค่ะถามแบบเสียงแข็งๆค่ะ ว่าเด็กมาคุยอะไร เราคิดว่าเขาน่าจะมาว่าเราว่าเออทำไมไม่พูดขายของให้ลูกค้าเข้าร้าน เพราะตอนที่เด็กมาถามทางผู้บริหารก็อยู่ด้วย แต่เราก็ตอบไปว่าน้องเขามาถามหาร้านเครื่องปริ้นท์ค่ะ แล้วผจก.ก็เดินเข้าไปบอกผู้บริหารต่อ และเขาก็พยายามเดินมาบอกเราบ่อยๆว่าเออตะโกนเรียกลูกค้าด้วย ทั้งๆที่เราก็ตะโกนอยู่ตลอดแต่เสียงมันไม่เข้าไปในร้านเพราะร้านเปิดเพลงด้วยและก็มีกระจกคั้นตรงประตูทางเข้าไว้ด้วย จากที่เราสังเกตมาคือพอคนอื่นๆไปเป็นคนยืนอยู่หน้าร้านก็ไม่เห็นมีใครเดินไปบอกว่าให้ตะโกนเรียกลูกค้าเลย บางคนก็เสียงตะโกนเบากว่าเราอีกค่ะ เราก็เลยค่อนข้างหนักใจและก็เกร็งมากเวลาทำงานเพราะพี่เขาชอบคอยจับผิดจู้จี้เราตลอด ก็เลยคิดอยู่ว่าจะทำถึงสิ้นเดือนนี้ เพื่อนๆมีความเห็นยังไงบ้างคะ
ลาออกดีไหม