เมื่อคืนเวสต์แฮมพยายามเล่นรับแล้วรอสวนกลับ (เห็นตัวอย่างจากนัดแดงเดือด)
แต่เวสต์แฮมไม่มีกองหลังระดับโลกแบบวาราน (ที่วันนั้นดูเกะกะไปหมด)
และลิเวอร์พูลก็มีประสบการณ์จากนัดแดงเดือดมา จึงเปลี่ยนรูปแบบการเล่นไป
ให้นูนเญซมายืนหน้าฝั่งซ้าย ซึ่งก็ทำได้ดี เพราะมีพื้นที่เล่นมากกว่าตอนยืนเป็นหน้าเป้า
นัดนี้ให้กั๊กโปยืนตำแหน่งหน้าเป้าแทน และเอเลียตยืนหน้าขวาแทนซาล่าห์
ประตูแรกมาเร็ว (นาทีที่ 28)ที่เวสต์แฮมก็รับอย่างอดทน แต่ก็หาโอกาสสวนยังไม่ได้ เพราะหลังลิเวอร์พูลวิ่งมาตัดบอลเร็วเมื่อเสียการครองบอล
ลูกที่โซบอสซไลยิงเบิกร่องขึ้นนำนั้นก็มาจากโจ โกเมซ วิ่งกลับมาจิ้มบอล ทำให้เวสต์แฮมเสียจังหวะที่จะโต้กลับไป จากนั้นเจ้าหนูควอนซ่าห์ก็ทำได้ 1 แอสซิส
สถิติเมื่อเทียบกับนัดแดงเดือดก็ใกล้เคียงกัน ทั้งการครองบอลการยิงประตูและการยิงตรงกรอบ

แต่นัดนี้คล็อปแก้ตัวจากนัดแดงเดือดคือเพิ่มการยิงไกลเข้าไปมากขึ้น (เหมือนการปรับปรุงแก้ไขมาจากนัดที่แล้ว) ทำให้กองหลังเวสต์แฮม จับตัวไม่ถูกว่าจะปิดใคร มีทั้งโซบอสซไล เอเลียต โจนส์ (น่าจะรวมถึงกั๊กโปด้วย)

กองหลังเวสต์แฮมประกบห่างด้วย ทำให้ลิเวอร์พูลมีโอกาสส่องไกลมากขึ้น แถมลิเวอร์พูลจับนูนเญซมายืนด้านข้าง ก็ช่วยดึงกองหลังเวสต์แฮมออกมาได้อีก 2 คน

ลูกนี้เลยได้ซัดเข้าข้อเต็มๆ
(วันแดงเดือด ถ้าลิเวอร์พูลขึ้นนำได้ในครึ่งแรก สกอร์ก็อาจจะไหลไปได้มากกว่า 1 ลูก แต่พอไม่ได้ลูกแรก ลิเวอร์พูลก็เลยกดดันไปเรื่อยๆ)
เกมนี้พอลิเวอร์พูลขึ้นนำ ผู้เล่นคนอื่นๆ ก็เลยคลายความกดดันไปด้วย แสดงออกกันได้เต็มที่ และโจนส์เกมนี้ก็ได้แสดงให้เห็นถึงสกิลกระชากลากเลื้อยได้อย่างอิสระ รวมถึงนูนเญซก็มีพื้นที่เล่นกับบอลได้มากขึ้น ทำให้เกมบุกของลิเวอร์พูลไหลลื่นมากขึ้น

นูนเยซถือว่าเล่นมีประโยชน์กับทีมได้มาก ป่วนกองหลังเวต์แฮมได้ดี
เสียดายลูกนี้แม่นเสาไปหน่อย

แถมบอลยังเป็นใจกระดอนมาให้โมซ้ำ แต่หลุดกรอบออกไป (สุดเหยียดไปนิด)
ครึ่งแรกลุงพลได้โหม่ง (คงมัวแต่คิดถึงโทษจำคุก 20 ปีอยู่) เลยโหม่งหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย

แต่มาแก้ตัวได้ในครึ่งหลัง ที่ยิงอย่างคม ลูกบอลเสียบหน้าต่างเข้าประตู

เกมนี้หลังจากปลี่ยนเทร้นต์ลงมานาทีที่ 60 ก็แผลงฤทธิ์ ทำไป 2 แอสซิส
จ่ายให้โมหลุดเดี่ยวไปยิง นาทีที่ 82 และคิลเลอร์พาสให้โจนส์ยิงปิดท้าย นาทีที่ 84
ปล.จากหัวข้อกระทู้ที่บอกว่ากั๊กโปยิงคมกว่านูนเญซ ถ้าดูจากประตูที่ทำได้ก็น่าจะจริง (กั๊กโป 13, นูนเญซ 7)
แต่ความแตกต่างในการเล่นเป็นทีม ผมว่าบอสคงมองที่ประโยชน์ในการเล่นเป็นทีมมากกว่า
ที่นูนเญซสามารถป่วนกองหลังได้ดีกว่า และลงมาช่วยเกมรับได้มากกว่ากั๊กโป
จึงไม่น่าแปลกใจที่นูนเญซจะได้เป็นตัวเลือกแรกๆ มากกว่ากั๊กโปครับ
กั๊กโปยิงคมกว่านูนเญซ
แต่เวสต์แฮมไม่มีกองหลังระดับโลกแบบวาราน (ที่วันนั้นดูเกะกะไปหมด)
และลิเวอร์พูลก็มีประสบการณ์จากนัดแดงเดือดมา จึงเปลี่ยนรูปแบบการเล่นไป
ให้นูนเญซมายืนหน้าฝั่งซ้าย ซึ่งก็ทำได้ดี เพราะมีพื้นที่เล่นมากกว่าตอนยืนเป็นหน้าเป้า
นัดนี้ให้กั๊กโปยืนตำแหน่งหน้าเป้าแทน และเอเลียตยืนหน้าขวาแทนซาล่าห์
ประตูแรกมาเร็ว (นาทีที่ 28)ที่เวสต์แฮมก็รับอย่างอดทน แต่ก็หาโอกาสสวนยังไม่ได้ เพราะหลังลิเวอร์พูลวิ่งมาตัดบอลเร็วเมื่อเสียการครองบอล
ลูกที่โซบอสซไลยิงเบิกร่องขึ้นนำนั้นก็มาจากโจ โกเมซ วิ่งกลับมาจิ้มบอล ทำให้เวสต์แฮมเสียจังหวะที่จะโต้กลับไป จากนั้นเจ้าหนูควอนซ่าห์ก็ทำได้ 1 แอสซิส
สถิติเมื่อเทียบกับนัดแดงเดือดก็ใกล้เคียงกัน ทั้งการครองบอลการยิงประตูและการยิงตรงกรอบ
แต่นัดนี้คล็อปแก้ตัวจากนัดแดงเดือดคือเพิ่มการยิงไกลเข้าไปมากขึ้น (เหมือนการปรับปรุงแก้ไขมาจากนัดที่แล้ว) ทำให้กองหลังเวสต์แฮม จับตัวไม่ถูกว่าจะปิดใคร มีทั้งโซบอสซไล เอเลียต โจนส์ (น่าจะรวมถึงกั๊กโปด้วย)
กองหลังเวสต์แฮมประกบห่างด้วย ทำให้ลิเวอร์พูลมีโอกาสส่องไกลมากขึ้น แถมลิเวอร์พูลจับนูนเญซมายืนด้านข้าง ก็ช่วยดึงกองหลังเวสต์แฮมออกมาได้อีก 2 คน
ลูกนี้เลยได้ซัดเข้าข้อเต็มๆ
(วันแดงเดือด ถ้าลิเวอร์พูลขึ้นนำได้ในครึ่งแรก สกอร์ก็อาจจะไหลไปได้มากกว่า 1 ลูก แต่พอไม่ได้ลูกแรก ลิเวอร์พูลก็เลยกดดันไปเรื่อยๆ)
เกมนี้พอลิเวอร์พูลขึ้นนำ ผู้เล่นคนอื่นๆ ก็เลยคลายความกดดันไปด้วย แสดงออกกันได้เต็มที่ และโจนส์เกมนี้ก็ได้แสดงให้เห็นถึงสกิลกระชากลากเลื้อยได้อย่างอิสระ รวมถึงนูนเญซก็มีพื้นที่เล่นกับบอลได้มากขึ้น ทำให้เกมบุกของลิเวอร์พูลไหลลื่นมากขึ้น
นูนเยซถือว่าเล่นมีประโยชน์กับทีมได้มาก ป่วนกองหลังเวต์แฮมได้ดี
เสียดายลูกนี้แม่นเสาไปหน่อย
แถมบอลยังเป็นใจกระดอนมาให้โมซ้ำ แต่หลุดกรอบออกไป (สุดเหยียดไปนิด)
ครึ่งแรกลุงพลได้โหม่ง (คงมัวแต่คิดถึงโทษจำคุก 20 ปีอยู่) เลยโหม่งหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย
แต่มาแก้ตัวได้ในครึ่งหลัง ที่ยิงอย่างคม ลูกบอลเสียบหน้าต่างเข้าประตู
เกมนี้หลังจากปลี่ยนเทร้นต์ลงมานาทีที่ 60 ก็แผลงฤทธิ์ ทำไป 2 แอสซิส
จ่ายให้โมหลุดเดี่ยวไปยิง นาทีที่ 82 และคิลเลอร์พาสให้โจนส์ยิงปิดท้าย นาทีที่ 84
ปล.จากหัวข้อกระทู้ที่บอกว่ากั๊กโปยิงคมกว่านูนเญซ ถ้าดูจากประตูที่ทำได้ก็น่าจะจริง (กั๊กโป 13, นูนเญซ 7)
แต่ความแตกต่างในการเล่นเป็นทีม ผมว่าบอสคงมองที่ประโยชน์ในการเล่นเป็นทีมมากกว่า
ที่นูนเญซสามารถป่วนกองหลังได้ดีกว่า และลงมาช่วยเกมรับได้มากกว่ากั๊กโป
จึงไม่น่าแปลกใจที่นูนเญซจะได้เป็นตัวเลือกแรกๆ มากกว่ากั๊กโปครับ