ขอเล่าประสบการณ์แต่งงาน 7 ปี

ผมไม่เคยพูดเรื่องผมเลย  ตั้งแต่แต่งงาน  บอกเอา100,000  พอจะถึงวันแต่ง ไม่ถึงเดือนบอก 200,000  อีก 100,000 เดียวยืมป้า (ป้านี้ฝั่งแม่ยายนะครับ) แล้วเดียวพี่ค่อยใช้แม่เอา สรุปผมติดหนี้ แบบ งง  พออยู่กันไป ต้องเสียค่าไฟเอง ส่งเสียแฟนเรียน ตอนปวช 3 จนจบ ปวส อีก 
ตอนนั้นก็พูดแล้วนะ  ปกติ  แม่กับพ่อต้องส่งเขาไม่ใช่เหรอ  แต่นี่ไม่ให้เรารับผิดชอบแต่เราก็ไม่ได้คิดมากเพราะว่าเราแต่งงานกับเขาแล้วเราก็สามารถส่งเสียเขาได้ พอมาอยู่ด้วยกันผมก็ว่าขอมาอยู่สร้างเนื้อสร้างตัว แล้วผมต้องมาทำงาน ช่วยพ่อแม่แฟนอีก เสาร์-อาทิตย์ ก็ไม่หยุด ขนาดที่ทำงาน หยุด ผมต้องมาทำงานแทนเขาเลย  เหนื่อยแค่ไหนก็ไม่เคยบ่น แม้กระทั่งไปทำงานแม้กระทั่งไปทำงานตอนตีสามผมยังไปทำ 
กินข้าวกินปลา ไม่เคยเรียก  เหมือนไม่เคยมีผมในสายตา  ( เราจะอยู่ในสายตาเขาก็ต่อเมื่อเค้าเห็นความสำคัญเรา  เราจะอยู่ในสายตาเขาก็ต่อเมื่อเค้าเห็นความสำคัญเราเช่นขอยืมรถ กลับบ้านต่างจังหวัดหรือให้เราไปทำงาน  กลับบ้านต่างจังหวัดหรือให้เราไปทำงานแทน  หรือเวลาเราไปเที่ยวแล้วไม่มีเงินขอยืมเงินเรา )บ้างทีก็คิดนะ ผมมาเป็นขีข่า เขาหรือป่าว 
จนมีลูก ไม่มีคนเลี้ยง ก็ให้แฟนออกงานมาเลี้ยงลูก 2 ปีเกือบ3ปี  กัน2 คน ผมหาเงินเกือบตาย ผมทำงาน ผมทำงานทุกอย่างที่ได้ตังค์ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของในตลาดรับงานล้างแอร์รับงานเดินไฟรับงานซ่อมเครื่องซักผ้ารับงานซ่อมเครื่องจักรตามบ้านหรือโรงงานแทบจะไม่มีวันหยุดบางทีทำงาน ไม่ว่าจะเป็นเข็นของในตลาดรับงานล้างแอร์รับงานเดินไฟรับงานซ่อมเครื่องซักผ้ารับงานซ่อมเครื่องจักรตามบ้านหรือโรงงานแทบจะไม่มีวันหยุดบางทีทำงาน จนถึงปีสองสามก็มีแล้วต้องมาทำงาน  จนถึงตีสองตีสามก็มีแล้วต้องมาทำงานปกติอีกตัวเองอีก แต่ละวัน ไม่เคยที่จะบ่นเลย  คิดถึงแต่ลูก  จนทุกวันนี้อยู่กันมาเจ็ดปีแล้วบางทีเราก็น้อยใจนะเวลาไปเที่ยวเค้าก็ถ่ายรูปครอบครัวกันซึ่งเราเป็นคนไทยให้เขาตลอดแต่ที่เราอยู่เพราะว่าเรารักลูกเราไม่เคยมีพ่อแม่เราอยู่กับตายายมาตลอด  จนทุกวันนี่ ผมเคยคิดที่จะแยกกันอยู่กับแม่แฟน แต่แฟนผมเค้าไม่ยอมเพราะว่าเค้าสงสารแม่เขาเราก็ต้องยอมเจ็บใจอยู่คนเดียวของบางอย่างเราก็ต้องซื้อเข้ามาในบ้านเองเพื่อเราอยากให้ลูกเราสบายบ้านที่เป็นห้องเช่าโทรมโทรมเราก็ทำห้องแต่แฟนผมเค้าไม่ยอมเพราะว่าเค้าสงสารแม่เขาเราก็ต้องยอมเจ็บใจอยู่คนเดียวของบางอย่างเราก็ต้องซื้อเข้ามาในบ้านเองเพื่อเราอยากให้ลูกเราสบายบ้านที่เป็นห้องเช่าโทรมโทรมเราก็ทำห้องจนมันน่าอยู่เพราะว่าเรามีลูก
ที่ต้องดูและ ส่วนเรื่องโทรศัพท์คนเรามันก็ต้องมีมุมส่วนตัวเราบ้างเราเป็นคนเฮฮาเราอาจจะคุยกับคนนั้นคนนี้มากเกินไปจนทำให้ ส่วนเรื่องโทรศัพท์คนเรามันก็ต้องมีมุมส่วนตัวเราบ้างเราเป็นคนเฮฮาเราอาจจะคุยกับคนนั้นคนนี้มากเกินไปจนทำให้เขาน้อยใจถ้าเกิดเค้ามาดูโทรศัพท์เราแต่เราก็บริสุทธิ์ใจเราไม่ได้ลบแชทอะไรทั้งนั้น เช่นวันหนึ่งแฟนเห็นเราคุยกับน้องคนนึงซึ่งเราก็ไม่ได้อะไรมากเพราะว่าเราก็มีแฟนมีลูกแล้วน้องที่เราคุยก็คือเราคุยเล่นเล่นกันผมไม่เคยล่วงเกินน้องคนนั้นเลยแต่แฟนผมก็คิดไปใหญ่จนไปเล่าให้แม่เค้าฟังแม่เค้าก็บ่น แม่เค้าก็เชิญบ่นว่าจะรักทำไมแม่เค้าก็เชิงบ่นว่าจะรักทำไมผู้ชายคนนี้เราอายุยังน้อยมีสิทธิ์ที่จะเจอคนอื่นแม่เลี้ยงมาจน 20 กว่าปี จะไปรักทำไม จะไปรักทำไมผู้ชายแบบนี้ เค้าบ่นให้ผมเยอะมากพูดให้เราเสียเสียหายหายแล้วก็สนับสนุนแฟนให้เลิกเลิกไปเลยแต่แปลก  แม่เขาว่าผมทุกวัน ด่าให้ผมได้ยิน ผมไม่เคยมีในหัวเลย ว่าเลิก แต่แม่เขา บอกว่าหาผู้ชายที่รักเขาเยอะแยะ    แต่แปลกนะ  คนทางบ้านผมไม่ มีแต่ให้กำลังใจมีแต่ให้กำลังใจไม่มีใครพูดเลยว่า ให้เลิก มีแต่บอกค่อยๆๆคุยกัน  แปลกน่อ ผู้ชายอย่างผม ทำไมทนได้ว่ะ 
เค้าด่าเราเหมือนหมูเหมือนหมา  ถ้าเป็นคนอื่น เขาคงไปนานและ ตอนนี้ที่มันคล้ำอยู่ตอนนี้ที่มันคล้ำอยู่ในหัวคือลูกผมพูดตรงตรงผมรักลูกผมมาก (ผมลืมไปผมแต่งงานแต่ยังไม่จดทะเบียนนะ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่