อย่าให้ธุรกิจซื้อขายของขวัญ ไฟประดับร้านรวง และงานเทศกาลทางโลก บดบังความชื่นชมยินดีแท้จริงแห่งแก่นแท้คริสต์มาสไปจากเรา

“ อย่าให้ธุรกิจซื้อขายของขวัญ ไฟประดับร้านรวง
และงานเทศกาลทางโลก บดบังความชื่นชมยินดีแท้จริง
แห่งแก่นแท้คริสต์มาสไปจากเรา “
วันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 4 เตรียมรับเสด็จพระคริสตสมภพ

     บทอ่านที่ 1 หนังสือซามูเอลฉบับที่ 2 ( 2 ซมอ 7:1-5,8-11 ,16 ) พระเจ้าตรัสกับกษัตริย์ดาวิดผ่านทางประกาศกนาธันประโยคสำคัญของคริสต์มาสดังนี้ “เราจะสร้างราชวงศ์ให้ท่าน ราชวงศ์และอาณาจักรของท่านจะมั่นคงอยู่ต่อหน้าเราตลอดไป อำนาจปกครองของท่านจะตั้งมั่นอยู่ตลอดไป” ใครอยากจะเชื่อ เพราะในประวัติศาสตร์ ชาติอิสราเอลต้องล้มลุกคลุกคลาน แตกแยกเป็นฝ่ายเหนือฝ่ายใต้ ปี 721 ก.ค.ศ. อาณาจักรเหนือถูกอัสซีเรียตีเอาไป พอปี 586 ก.ค.ศ. อาณาจักรใต้ถูกอาณาจักรบาบิโลนตี เผาทำลายพระวิหาร กวาดต้อนผู้คนไปเป็นเชลยที่กรุงบาบิโลน 50 ปี  ได้รับอิสรภาพกลับบ้านได้ไม่นานก็ถูกอาณาจักรกรีกมายึดครอง ต่อด้วยพวกโรมัน หลังจากนั้นชาวยิวก็แตกฉานซ่านเซ็นไปทั่วโลก สงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกเยรมันฮิตเลอร์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อย่างน่าสะเทือนใจ ตายไปราว 6 ล้านคน ทุกวันนี้พวกเขากระจายกันอยู่ทั่วโลก ในประเทศอิสราเอลมีพลเมืองก็จริง แต่เชื้อสายกษัตริย์ดาวิดจะตั้งมั่นคงตลอดไปที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้อยู่ที่ใดเล่า? เราจึงมองเห็นได้ทันทีว่าการที่พระเยซูเจ้าประสูติมาในเชื้อสายกษัตริย์ดาวิดนี้เอง เป็นหนทางที่พระวาจาซึ่งพระเจ้าตรัสไว้เป็นจริงและคงอยู่ตลอดไป นักบุญยอแซฟและพระนางมารีย์ ต่างก็สืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์กษัตริย์ดาวิด การสืบเชื้อสายนี้เป็นไปในลักษณะเหนือธรรมชาติแต่นักบุญยอแซฟก็เป็นบิดาเลี้ยงของพระองค์  เมื่อพระเยซูเจ้ากลับคืนพระชนมชีพจากความตาย พระองค์ทรงเปลี่ยนให้ราชวงศ์กษัตริย์ดาวิดเป็นสมณราชตระกูล เป็นชนชาติศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถกลับคืนชีพเช่นเดียวกับพระองค์ และด้วยวิธีนี้เองที่ราชวงศ์กษัตริย์ดาวิดจะตั้งมั่นเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าตลอดไป

     เตรียมสมโภชคริสต์มาส พระศาสนจักรนำบทอ่านนี้มาอ่านเพื่อเตือนใจสัตบุรุษว่าพระกุมารเจ้าที่ประสูติมาเป็นพระเจ้าผู้เสด็จลงมาบังเกิดเพื่อทรงทำให้ทุกสิ่งที่พระเจ้าตรัสไว้ในพระคัมภีร์เป็นความจริง แต่เชื้อสายกษัตริย์ดาวิดคงอยู่ตลอดไปมิใช่เพียงแค่สำหรับชาวยิวหรือมีความหมายทางกายภาพในโลกเท่านั้น แต่เป็นความรอดพ้นตลอดไปของมวลมนุษยชาติ ด้วยวิธีนี้เท่านั้นเราจึงเข้าใจได้ว่าการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวประชากรของพระเจ้าทุกยุคทุกสมัยไม่ใช่จุดสิ้นสุดความหวังในคำสัญญาของพระเจ้า เพราะพระกุมารเจ้าทำให้ประชาชาติใหม่เกิดขึ้นคือคริสตชนประชากรของพระเจ้าทั่วแผ่นดิน

     เพลงสดุดีที่ 89 ในวันนี้ชัดเจนที่สุด “ข้าพเจ้าจะขับร้องสรรเสริญความรักมั่นคงขององค์พระผู้เป็นเจ้าตลอดไป “ “เราจะรักษาความรักมั่นคงของเราไว้กับเขาเสมอ พันธสัญญาของเรากับเขาจะตั้งมั่นตลอดไป” “พระเจ้าตรัสว่า เราทำพันธสัญญากับผู้ที่เราเลือกสรรไว้ สาบานกับดาวิดผู้รับใช้ของเราว่า ‘ เราจะให้เชื้อสายของท่านมั่นคงอยู่ทุกยุคทุกสมัย’ “

     จดหมายนักบุญเปาโลถึงชาวโรม (โรม 16:25-27) บอกชาวโรมว่าข่าวดีที่ท่านนำมาให้พวกเขาเป็นธรรมล้ำลึกที่ปิดบังกับคนในอดีตตลอดมา แต่บัดนี้เปิดเผยแก่ทุกคนแล้ว ธรรมล้ำลึกคือเรื่องที่เข้าใจได้บ้างแต่ไม่อาจเข้าใจได้ทั้งหมด เรื่องนั้นก็คือพระเจ้าทรงเรียกทุกคนให้เข้ามาเป็นประชากรของพระองค์ เป็นสมณราชตระกูล เป็นเชื้อชาติศักดิ์สิทธ์ แต่ก่อนไม่มีใครรู้ คิดว่าพระเจ้าทรงเรียกแต่ชาวยิวพวกเดียว แต่พอพระเยซูเจ้าประสูติมา นับเป็นข่าวดีที่ทุกคนเข้ามาร่วมในกองมรดกเดียวกัน เชื้อสายของกษัตริย์ดาวิดตั้งมั่นคงอยู่ตลอดนิรันดรด้วยการที่ประชาชาติเข้ามารับศีลล้างบาปเป็นลูกของพระเจ้า อาศัยพระเยซูเจ้าผู้บังเกิดมาในเชื้อสายกษัตริย์ดาวิด

     พระวรสารนักบุญลูกา ( ลูกา 1:26-38 ) มีประโยคสำคัญที่เชื่อมกับบทอ่านที่ 1 คือ“พระเจ้าทรงส่งฑูตสวรรค์กาเบรียลมายังเมืองหนึ่งในแคว้นกาลิลีชื่อเมืองนาซาเร็ธ มาพบหญิงพรหมจารีคนหนึ่งซึ่งหมั้นอยู่กับชายชื่อโยเซฟ ในราชวงศ์ของกษัตริย์ดาวิด “ และอีกประโยคหนึ่งที่ฑูตสวรรค์กาเบรียลกล่าวแก่พระนางมารีย์ “...เขาจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่และพระเจ้าผู้สูงสุดจะทรงเรียกเขาเป็นบุตรของพระองค์องค์พระผู้เป็นเจ้าจะประทานพระบัลลังก์ของกษัตริย์ดาวิดบรรพบุรุษให้แก่เขา เขาจะปกครองตระกูลของยาโคบตลอดไปและพระอาณาจักรของเขาจะไม่สิ้นสุดเลย” พอแม่พระตอบฑูตสวรรค์ว่า “ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้า ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่านเถิด” ทันทีโลกและสวรรค์ก็กลับเชื่อมต่อกัน หลังจากที่อาดัมเอวาทำบาปและตัดสายสัมพันธ์ความรอดพ้นในพระเจ้าทิ้งไป เราไม่สงสัยเลย ธรรมล้ำลึกสวดสายประคำวันจันทร์และวันเสาร์ เขาจึงตั้งชื่อว่า “ธรรมล้ำลึกภาคชื่นชมยินดี”  ข้อรำพึงที่ 1 “พระนางมารีย์รับแจ้งข่าวจากฑูตสวรรค์กาเบรียลให้เป็นพระมารดาของพระบุตร” เหตุการณ์นี้นำความชื่นชมยินดีมาสู่มนุษยชาติ ข้อรำพึงที่ 2 “พระนางมารีย์เสด็จเยี่ยมนางเอลีซาเบ็ธ”  สตรีที่กำลังจะเป็นแม่สองคนทักทายกันมีแต่เรื่องอัศจรรย์น่ายินดีในชีวิตของตนมาพุดคุยกันถึงลูกที่จะเกิดมาว่าเป็นความรอดพ้นของนานาชาติ  และพอถึงข้อรำพึงที่ 3 “พระเยซูเจ้าบังเกิดมาเป็นมนุษย์ท่ามกลางชาวเรา” นับเป็นจุดสูงสุดของความชื่นชมยินดีสำหรับโลกและสวรรค์ที่กลับมาเป็นหนึ่งเดียวกัน

     อย่าให้ธุรกิจซื้อขายของขวัญ ไฟประดับร้านรวงและงานเทศกาล บดบังความชื่นชมยินดีแท้จริงแห่งแก่นแท้คริสต์มาส ในชีวิตคริสตชนของเรา อย่าลืมสอนลูกๆให้ไห้วพระรูปพระกุมารด้วยความสุขใจ เล่าประวัติของพระองคให้พวกเขาฟัง พ่อแม่ที่เล่าเรื่องพระกุมารบังเกิดให้ลูกฟังก็เท่ากับเล่าให้ตัวเองฟัง ใครเล่าให้ตัวเองฟังคนนั้นกำลังชื่นชมอุ้มกอดพระกุมารเจ้าองค์ความรอดพ้นไว้ในชีวิตของตนได้สำเร็จ

///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////



CR. : https://www.facebook.com/share/zhSZ9Co5mZNZY88v/?mibextid=I6gGtw
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่