พรหมลิขิต Soft Power ที่น่าชื่นชมแต่เสียดายที่ไปไม่สุด..

จบไปแล้วสำหรับพรหมลิขิตและหลากหลายกระแสใน 26 ep ที่ผ่านมา กระทู้นี้ขอชื่นชมและฝากข้อคิดบางอย่างไว้สำหรับละครไทยโดยรวม

ก่อนอื่นขอชื่นชมว่าละครทำได้ดีในหลายส่วน 

1  เสื้อผ้าหน้าผม ฉากและ CG ทำได้ดีมาก เนรมิตกรุงศรีอโยธยาเมื่อหลายร้อยปีก่อนมาให้ดูสวยงามตระการตามาก เสื้อผ้านักแสดง ฉากในวังสวยงามไร้ที่ติ ที่ประทับใจส่วนตัวคือฉากพระราชพิธีจองเปรียง เห็นชัดว่าทางทีมงานลงทุน research ข้อมูลมาอย่างดี ถ้าไม่มีฉากนี้พวกเราคนรุ่นหลังหลายๆคนคงไม่รู้จักพิธีโบราณนี้แน่ๆ ฉากตอนต้นเรื่องที่เจ้าฟ้าพรมอบบังลังค์คืนให้พระเจ้าท้ายสระ ฉากนี้ยิ่งใหญ่อลังการและสื่ออารมณ์นักแสดงได้ดีมาก ดูแล้วขนลุก 

2  เพลงประกอบละคร ชอบมากๆทั้งสามเพลง ข้ามเวลา พรหมลิขิต และ เคียงขวัญ ทั้งเนื้อร้องและศิลปินถ่ายทอดเพลงออกมาสวยงามมาก ฟังครั้งแรกติดหูทั้งสามเพลง ดนตรีไพเราะ เนื้อแต่งได้เข้ากับเรื่องมาก ขอยกเครดิตให้พี่หนึ่ง ณรงวืทย์ เจ้าพ่อเพลงละครแห่งยุค ขอให้เพลงประกอบละคร พรหมลิขิต ได้รับรางวัลจากทุกสถาบันในหมวด เพลงประกอบละครดีเด่น 

3 นักแสดง แม้บทจะไม่ส่งแต่นักแสดงล้วนแล้วแต่ทำหน้าที่ตัวเองได้ดีมาก ทั้งนักแสดงนำและสมทบ ทั้งโป๊ปและเบลล่า แบกรับตัวละคร 2-3 ตัวได้ดีเยี่ยมแม้ว่าบทพระเอกริดจะไม่ส่งเสริมโป๊ปเท่าที่ควรอย่างที่รู้ๆกัน แอบคิดว่านักแสดงเรื่องนี้ล้นไปหน่อย ตัวละครลับหลายๆตัวก็ไม่มีความจำเป็นเลย ออกมาฉากสองฉากจนงง เสียดายนักแสดงรับเชิญตอนทวารวดีมากๆ ภณ เพื่อน คณิน น้ำหวาน หลิงหลิง ล้วนเป็นนักแสดงแถวหน้าของช่อง มารับเชิญทั้งทีอย่างน้อยได้แสดงฝีมือเต็มๆสักตอน นี่โผล่มาแค่เบรคเดียวพูดกันคนละ 1-2 ประโยคแล้วหายไปเลย เสียดายจัง

4 การเผยแพร่ Soft Power ปลื้มมากที่เห็นข่าวมีคนตามรอยละครไปเที่ยวอยุธยาและสถานที่ต่างๆ สนใจศึกษาประวัติศาสตร์ไทยมากขึ้น ใส่ชุดไทยตามตัวละคร โดยเฉพาะชาวต่างชาติ ที่เห็นกับตาคือมีโอกาสผ่านไปทางท่าเรือมหาราชเมื่อวันก่อนเห็นนักท่องเที่ยวเช่าชุดไทยถ่ายภาพตรงท่าเรือที่มีฉากหลังเป็นวัดสำคัญๆกันเพียบ อาจจะไม่ใช่อิธิพลของละครทั้งหมดแต่เชื่อว่ากระแสละครมีส่วนแน่นอน ฉากทำอาหารอาจจะดูเฝือสำหรับหลายๆคน แต่ถ้าคนต่างชาติหรือใครดูแล้วอยากกินข้าวกระเพราไก่ ส้มตำหรือปลาทอดแบบไทยๆขึ้นมาบ้างก็ดีใจมากๆ ขนาดเราดูซีรี่ย์เกาหลีเห็นตัวละครนั่งกินไก่พูดคุยกัน เรายังรีบโทรสั้งไก่ทอดเกาหลีกับกิมจิมากินเลย ถ้าพรหมลิขิตมี effect เดียวกับสำหรับอาหารไทย ขอชื่นชมและขอบคุณละครเรื่องนี้จากใจจริงในฐานะคนไทย 

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นบทละครถือว่าเป็นจุดบอดของละครเรื่องนี้อย่างที่หลายๆคนได้วิจารณ์ไว้แล้ว เคยตั้งกระทู้พร้อมแสดงความเห็นเรื่องนี้ไว้เยอะเลยไม่ขอพิมพ์ซ้ำแต่อยากฝากไว้นิดว่า ถ้าหากเราคาดหวังให้ละครไทยได้ส่งออกและเป็นที่ยอมรับในวงกว้างละครไทยต้องออกจากวังวน น้ำเน่า เดิมๆได้แล้ว การเขียนบทวกวนเน้นการจิ้นฟินล้มทับสบตา ขายนักแสดง โดยไม่คำนึงถึงความ realistic ของเรื่องราว ขาดความต่อเนื่อง และบทหลายตอนที่ไม่ make sense อย่างแรงกับบริบทของเนื้อเรื่องและตัวละคร สำหรับละครพีเรียดในปีนี้หากต้องให้รางวัลจริงๆ ขอโทษที่ต้องเปรียบเทียบแต่เรื่อง บุษบาลุยไฟ ทาง Thai PBS และแม้แต่หมอหลวงทางช่องเดียวกันเหมาะสมกับรางวัลละครดีเด่นมากกว่าพรหมลิขิตด้วยองค์ประกอบรวมๆโดนเฉพาะบท การลำดับเรื่อง และการกำกับ แม้ว่าบุษบาลุยไฟจะไม่ mass เท่า ไม่ได้ขายจิ้นนักแสดงระดับท๊อปและไม่ได้เผยแพร่ทางช่องที่คนดูเยอะมากเท่าพรหมลิขิต 

ไม่แน่ใจว่าผู้จัดหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับละครจะสนใจ feedback เล็กๆน้อยๆจากผู้ชมหรือสนใจแค่เรตติ้ง ต้วเลขและเม็ดเงินจากโฆษณา ในฐานะแฟนละครไทยส่วนตัวอยากเห็นละครบ้านเราได้เทียบมาตรฐานกับของต่างประเทศจริงๆ เพราะ production ของเราเทียบเขาได้สบายมาก และเชื่อว่าคนไทยก็มีศักยภาพพอที่จะทำผลงานละครดีๆ ขอแค่คิดใหม่ทำใหม่สร้างสรรค์ผลงานที่ก้าวออกนอกกรอบละครน้ำเน่าแบบเดิมๆบ้าง อย่าลืมว่าตอนนี้คนดูมีทางเลือกกับ content ที่หลากหลายโดยเฉพาะคนดูรุ่นใหม่ แต่ถ้าละครไทยยังติดอยู่กับ mindset เดิม การดำเนินเรื่องในวังวนน้ำเน่า ตัวละครที่แบนสนิท เนื้อเรื่องที่ยืดเยื้อ มุกตลกฝืดๆที่ซ้ำซาก คงยากที่ละครบ้านเราจะพัฒนาได้มากไปกว่านี้ ..

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่