แชร์ประสบการณ์ความคิดแปลกในการเริ่มทำธุรกิจ

ต้องขอโทษล่วงหน้าถ้าการเล่ามันดูงงนะคะ แต่อยากมาแชร์ประสบการณ์การที่ทั้งงงและแปลกจากเพื่อนที่เราชวนทำร้านอาหารด้วย ไม่ได้เน้นการถกเถียงหรืออะไรกัน

เรื่องมันเริ่มจากการที่วันหยุดถ้าอยู่บ้านเราจะสั่งเดลิเวอรี่กินตลอด แล้วอยู่ๆวันนึงเราก็นึกอะไรก็ไม่รู้อยากทำร้านอาหารแบบเดลิเวอรี่ที่ไม่ได้มีหน้าร้าน เราตัดสินใจลุกขึ้นมาร่างแผนธุรกิจต่างๆ คำนวณค่าใช้จ่าย ฝึกทำอาหาร วางระบบ(ลองเจ๊งในกระดาษก่อน)อยู่ประมาณ5วันถ้วน(ไม่คิดจะทำร้านใหญ่)

คือเรากะแค่จะเปิดร้านระยะสั้นๆตอนที่ว่างเพราะโรงเรียนเราปิดเทอมตั้งแต่วันที่22(เสาร์)ธันวา พอดีเป็นโรงเรียนเอกชน(คริส)เลยปิดลากตั้งแต่Christmasยันปีใหม่เลย แต่ไปไหนไม่ได้เพราะน้องสาวเรียนรัฐบาลแล้วเค้าสอบช่วงนี้พอดีเลยอดเที่ยว เพื่อนๆที่โรงเรียนก็มีtripไปเที่ยวกับครอบครัวแล้ว (กะจะเปิดแค่6-7วันก่อนหยุดยาวปีใหม่)

เราร่างทุกอย่างครบหมดแล้ว ทุนก็มีแล้ว(เพราะเอาแผนธุรกิจไปขอเงินคุณพ่อมา) อมยิ้ม07 เราเลยว่าจะใช้ช่วงนี้ทำอาหารแบบทดลองไปให้เพื่อนชิมเพราะเรายังไม่หยุด(เหลือเวลาอีกหนึ่งอาทิตย์) เราไปตกลงกับเค้าว่าจะฝากให้น้องเอาอาหารไปให้ชิมกับเพื่อนๆในห้องเค้าแล้วให้เค้าช่วยจดFeedbackจากคนอื่นที่ได้ชิมมาให้หน่อย(เราชิมเองแล้วไม่ท้องเสียค่ะ)

ต้องบอกก่อนว่าเพื่อนคนนี้เป็นเพื่อนสมัยประถมที่ยังสนิทกันอยู่จนม.ปลายแล้วบังเอิญเค้าอยู่โรงเรียนเดียวกับน้องเราพอดี เค้าเป็นคนนิสัยน่ารักมาก

เราไม่ได้ให้เค้าช่วยฟรีๆนะคะ เราบอกเค้าว่าถ้าร้านได้กำไรเราจะแบ่งให้เค้า30%เพราะเค้าช่วยจดfeedbackให้ หรือถ้าร้านไม่มีกำไรจริงๆเราจะเข้าเนื้อให้เค้า500เป็นค่าน้ำใจ คือเราก็อยากให้เค้ามาเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจเพราะเห็นเจ้าเข้าคณะบริหารเหมือนกันแล้วเป็นช่วงเก็บผลงานพอร์ต แต่เค้าก็บอกอย่างได้เป็นค่าจ้างตอนนั้นแทน เราเลยบอกว่าตอนนี้มีอยู่5000แล้วเอาไปคำนวณทุนหมดแล้วน่าจะยังให้ไม่ได้ เราก็เลยว่าเค้าก็คงจะไม่ว่างจริงๆเราก็เลยบอกว่าไม่อยากจะรบกวนเค้า(คืออย่างที่ว่ามันเป็นตอนสอบแล้วเวลาทุกคนมีค่า)

หลังจากนั้นเมื่อวานเค้าก็หายไปทั้งวัน วันนี้เราตื่นเช้ามาเจอเพื่อนที่โรงเรียนเค้าทักมาหาเรา มันไม่ได้หยาบคายนะคะแต่เหมือนเค้าจะพิมพ์กันประมาณว่าเราจะไปใช้งานเพื่อนเค้า(เพื่อนเรา)ฟรีๆ(ไม่รู้ไปเข้าใจกันยังไง) เราก็ไล่ตอบไป2-3คนเพราะเราไม่ชอบให้เรื่องโดนเข้าใจผิด คนเราไม่สามารถมองในมุมเดียวกันได้อยู่แล้วอันนี้เข้าใจ เราไปก็เคลียร์กับเค้าเพราะเป็นเพื่อนกันมานานไม่อยากให้เข้าใจผิด(เค้านิสัยดี) สรุปคือเค้าแค่ไม่เข้าใจความคิดของเราว่าเรามีทุนเยอะขนาดนั้นแต่จ่ายให้เค้าไม่ได้เฉยๆ เราแค่อยากให้เค้ารอดูก่อนเผื่อเราจะมีกำไรแล้ว30%เค้าอาจจะได้เยอะกว่า500 แต่สุดท้ายเราก็เลือกที่จะจ่ายให้500ไปเลย(ด้วยเงินเราไม่เกี่ยวกับทุน)เพราะไม่คอดจะมีปัญหากัน

สรุปเรื่องนี้เราก็ได้เรียนรู้หลายอย่างว่าเรื่องแปลกๆสามารถเกิดขึ้นได้ ถามว่าแล้วตรงไหนที่แปลก ตรงนั้นคือการที่เค้าเลือกที่จะหายไปคุยกับเพื่อนเค้าที่ไม่เกี่ยวข้องก่อนจนเพื่อนเค้ามาตามมีปัญหากับเราทั้งๆแค่เคลียร์กับเราตั้งแต่แรกก็พอแล้วไม่ต้องรอนานด้วย เรานั่งงงไปหลายนาทีและพยายามทำความเข้าใจเค้าจริงๆค่ะ

>>>แต่ทุกคนมองในมุมมองที่ต่างกัน ความคิดความเข้าใจต่างกัน ไม่มีทางที่คนสองคนจะมีการเข้าใจที่เหมือนกันได้ แต่เราสามารถคุยและปรับให้มันลงตัวได้ไม่ยาก ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนมีทางออกที่ดีแค่ไหน ไม่ใช่แค่เพื่อนคนนี้แต่เรายังเจอหลายคนที่ไม่ค่อยทำความเข้าใจอะไรจริงๆแต่ตีไปในทางที่แย่ไปแล้ว ขนาดน้องเรายังเคยเจอเรื่องแบบนี้จนโดนเพื่อนในห้องแบนเป็นเดือนๆเลย(ส่วนตัวยังไม่เคยเจอกันคนใกล้ชิดในสังคมโรงเรียนตัวเอง ส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนห่างๆ)


น้ำอาจจะเยอะกว่าเนื้อแต่อย่างที่ว่าเราไม่ชอบให้คนเข้าใจเราผิดเราเลยเล่าตั้งแต่เริ่ม

ปล1.ไม่ได้ตั้งกระทู้ขึ้นมาเพื่อให้เกิดการถกเถียงหรือทะเลาะกันแค่มาเล่าประสบการณ์ค่ะ แสดงความคิดเห็นหรือเล่าเรื่องของตัวเองได้ตามสบายเลยนะคะ ขอบคุณค่ะ

ปล2.แต่ในแง่ธุระกิจเราอยากให้เค้าร่วมกับเรามากกว่านะเพราะ30%เค้าไม่ต้องมาแบกรับความเสี่ยงเลย เค้าแค่ต้องลุ้นว่าจะได้มากหรือได้น้อยไม่มีไม่ได้ เราถามเค้าแล้วว่าทำไมถึงรีบแต่เค้าก็ไม่ได้ตอบ เราก็เลิกสนใจเพราะเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ใช่ประเด็นหลักของกระทู้นี้ เป็นเรื่องแง่มุมธุรกิจอีกแบบอมยิ้ม36

ปล.3ขอติดSMEหน่อยเพราะถือเป็นอีกเรื่องที่เจอได้เวลาอยากทำธุรกิจกับเพื่อนที่ยังไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่