**เนื่องจากเราไม่สามารถเปลี่ยนหัวข้อได้ เราจะให้ผู้อ่านทราบตรงนี้หัวข้อด้านบนมันผิด หัวข้อที่จะพูดต่อไปนี้คือ
"ประสบการณ์ชีวิตวัยรุ่นที่ทำให้เพื่อนไม่ชอบเรา"
สวัสดีค่ะ เราชื่อ ดาว ปัจจุบันตอนนี้อยู่ปี 2 ใกล้จะขึ้นปี 3 แล้ว
เรามีเรื่องราวนึงที่จะมาเล่าให้ทุกคนได้อ่าน ขอให้ทุกคนอ่านโดยคิดให้ถี่ถ้วน ช่วยกันตัดสินใจ และอ่านในสิ่งที่เราจะพิมพ์ต่อจากนี้ให้ดีๆ
เพราะนี่คือมุมมองของเรา ความรู้สึกเรา อารมณ์ของเรา ณ ตอนนี้ เราไม่ได้หวังให้ทุกคนเข้าข้างเราฝ่ายเดียวหรือมาองว่า ฝ่ายนั้นผิด
เราแค่ต้องการความช่วยเหลือที่จะหลุดพ้นไปจากตรงนี้ งั้นขอเริ่มเล่าเลยนะคะ
เราเป็นบ้านแฟนคลับให้กับดาราท่านนึง ดาราคนนี้ค่อนข้างมีชื่อเสียงมากในระดับนึงหากเอ่ยชื่อ แต่เราขออนุญาติไม่เอ่ยนาม เนื่องจากตัวของดาราไม่ได้มีความผิดในส่วนตรงนี้ เราเริ่มทำบ้านแฟนคลับต่อจากน้องม.3 ที่กำลังจะขึ้นม.4 โดยที่ตอนนั้นบ้านแฟนคลับมีแค่น้องคนเดียว พอเรามารับหน้าที่ตรงนี้กลายเป็นว่าตอนนี้เราเลยทำอยู่คนเดียว แต่ปัจจุบันเราได้หาทีมงานมาเพิ่ม ซึ่งก็ได้คนที่ไว้ใจมาได้แค่คนเดียว แต่น้องทีมงานคนนี้เขาอยู่ต่างจังหวัด เลยอาจจะไม่ได้มาช่วยหน้างานมากเท่าไหร่ เพราะน้องเขาอยู่ฝ่ายอาร์ต แต่ปัญหาใหญ่มันเริ่มจากตรงนี้..
ช่วงนั้นใกล้เข้ากับวันเกิดของดาราที่เราเป็นบ้านแฟนคลับให้ ปัญหาในตอนนั้นคือ เราไม่เคยทำบ้านแฟนคลับมาก่อน เลยไม่รู้ว่า พอวันเกิดดารา เราต้องทำอะไรบ้าง เลยได้ตามส่องบ้านอื่นๆที่อยู่ค่ายเดียวกับน้องดารา ซึ่งตอนนั้นเราเห็นว่าแต่ละบ้านมีเปิดแฟนมีตวันเกิดดารา มีจัดคาเฟ่แล้วน้องไปหาที่ร้านนั้น ซึ่งตอนนั้น เหมือนค่ายจะแจ้งประมาณว่า จะมีแค่ปีนี้เท่านั้นที่เด็กในค่ายของเขาจะมีไปงานคาเฟ่ หรือ จัดมีตวันเกิด เราค่อนข้างเครียดมากๆ เพราะว่าดาราที่เราเป็นบ้านแฟนคลับ เขาเพิ่งมาใหม่ แต่แฟนคลับน้องก็เยอะพอตัว เลยทำให้คิดว่าอยากจะจัดคาเฟ่วันเกิดให้น้องเขา ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามันต้องมีรายละเอียดอย่างไรบ้างถ้าจะจัด ตอนนั้นเราคิดแค่ว่า อยากได้แค่พื้นที่เล็กๆ ไม่ต้องมีพื้นที่อะไรมาก อาจเป็นร้านที่รับ take away ซื้อแบบรับกลับจบๆ จะได้ไม่ต้องยุ่งยาก เพราะไหนจะเรื่องค่าใช้จ่ายอะไรอย่างอื่นอีกค่อนข้างเยอะ ทั้งค่า cup slvee ค่าของแถมที่แฟนคลับไปหลังซื้อน้ำ ค่อนข้างที่จะใช้เงินเยอะมากๆ แล้วทางบ้านแฟนคลับของเราก็ไม่ได้มีเงินด้วยในตอนนั้น จนกระทั้ง...
เรามีเพื่อนคนนึงซึ่งนางอยู่ในสาขาเดียวกับเรา ขอเรียกนางว่า เนย นางคือเพื่อนในสาขาที่เรารู้สึกว่า นางค่อนข้างมีประสบการ์ณมากๆในเรื่องของบ้านดารา เพราะว่านางก็เป็นทีมงานของบ้านดาราเหมือนกัน แต่ว่าอยู่คนละค่ายกับที่เราดูลบ้านแฟนคลับนะ เราปรึกษานางเรื่องจะจัดคาเฟ่วันเกิดของดาราตัวเองแต่ว่าไม่รู้จะต้องเริ่มยังไง ซึ่งตอนนั้นนางก็ให้คำปรึกษาที่ดีมากๆ แล้วเราก็รับฟัง จนนางบอกขอดูว่าดาราที่เราเป็นบ้านแฟนคลับคือใคร เราก็ให้ดู สรุปคือนางบอกว่า น้องหล่อมาก สนใจน้อง เราก็เลยชวนๆนางมาเป็นทีมงานด้วยกัน ซึ่งตอนนั้นนางเหมือนจะอยู่ระหว่างกึ่งกลางของคำว่า "ตกลง" เหมือนจะโอเค แต่ก็ไม่ได้ขนาดนั้น ไปๆมาๆ นางก็ตกลงยอมที่จะช่ยเหลือ ตัวเราก็สบายใจไปเปราะนึง เพราะว่ามีคนที่เขามีประสบการณ์มาช่วย แต่...มันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คิดซะทุกอย่างนะ
ด้วยความที่ทางบ้านที่เราดูแล มันไม่มีงบในการจัดคาเฟ่วันเกิดเลย เพราะการที่จะจัดคาเฟ่วันเกิดได้ คือต้องไปหาร้านที่คาเฟ่ที่เขารับแจกของให้ ซึ่งแต่ละร้านเขาก็จะมีเงื่อนไขที่ต่างกันว่า ต้องซื้อเหมา 100 แก้ว ราคา 2,500 หรือเหมา 100 แก้ว ราคา 3,500 คือหายากมากๆ และไหนจะต้องหาร้านที่ใกล้เคียงกับการเดินทางเพื่อสดวกต่อแฟนคลับด้วยแล้วคือยากมาก และเนื่องจากงบบ้านที่ไม่มี เนยเลยเสนอมาว่า ให้ทำ give away donate โดยการเปิดรับโดเนทสำหรับจัดคาเฟ่ และให้ของทีระลึก สำหรับผู้ที่โดเนทเข้ามา ตอนนั้นเนยบอกเราว่า ต้องเอาเซทที่มันคุ้มๆให้เขา ไม่งั้นถ้าให้ไม่คุ้มระวังจะโดนแฟนคลับเอาไปวีนในทวิตลับหลัง เป็นเราได้ยินแบบนั้นก็กลัวๆ ประกอบกับในใจเราตอนนั้นคือ อยากให้แฟนคลับของน้องโอเคและมีความสุขกับของที่ได้ เพราะเราคิดไว้เสมอว่า "แฟนคลับของน้องก็เหมือนคนที่น้องรักมากๆ" เราก็ต้องดูแลคนที่น้องรักให้ได้มากที่สุด เราเห็นด้วยกับเนยในส่วนของที่ระลึกสำหรับโดเนท ซึ่งหลังจากที่เราตกลงกันเรียบร้อยเรื่องของที่ระลึก นางก็แทบจะเป็นคนจัดการเกือบทุกอย่าง บางอย่างเราไม่รู้ นางก็ไม่บอกนะ จะเช่น ป้ายที่เอาไว้ทำเพื่อแจกแจงแฟนคลับว่า คนที่โดเนทมาเท่านี้จะได้ของอะไรบ้าง นางไม่เคยบอกเรา มีแต่บอกเป็นข้อมูลรายละเอียดของที่ระลึก แต่ไม่เคยบอกเรื่องป้ายเลย แล้วของที่ระลึกบางทีทำออกมา แล้วนางไม่ถูกใจก็เสียตังของตัวเองไปทำเองโดยที่ไม่บอกอะไรเราเลยเหมือนกัน ซึ่งมันก็ค่อนข้างจะหลายอย่างที่นางเอาเงินตัวเองออกโดยที่ไม่บอกอะไรเราเลย ยกตัวอย่างเช่น เรามีน้องฝ่ายอาร์ตอยู่ เราให้น้องฝ่านอาร์ตเป็นคนออกแบบเซทของที่ระลึก ซึ่งพอน้องทำออกมา ก็ดันไม่ถูกใจนาง แต่นางก็ให้น้องทำไปนะ แต่ไอป้ายที่แจกแจงของที่ระลึก จริงๆสามารถให้น้องฝ่ายอาร์ตทำให้ได้ แต่นางคงเห็นฝีมือน้องเขาแล้วคงไม่ถูกใจ เลยไปเสียตังตัวเองแทน เราก็แอบหงุดหงิดแหละ แต่ขอยอมรับว่า ของที่นางเสียตังค์ไปแต่ละอย่างมันดีและมันสวยนะ ซึ่งเราเถียงไม่ค่อยออก แต่ที่หนักสุดๆแล้วรู้สึกว่า ไร้เหตุผลแบบโง่ๆเลย คือ โพลารอยด์ คือเราเคยขายโพลารอยด์มาก่อน แล้วกระดาษที่เราขายก็เป็นกระดาษ Photo แบบมัน ซึ่งสำหรับที่เป็นเจ้าของกระดาษเราโอเคที่จะให้ทำโพราลอยด์เอาไปแจกในงานคาเฟ่ได้ แต่ว่านางไม่เอา เนยบอกว่า มันเสียวฟัน คือในหัวเราตอนนั้นคือ ห้ะ เหตุผลคือแค่นี้หรอ คือใส่ซองแก้วมันก็ไม่เสียวฟันแล้วไหม เราบอกกับนางไปว่า อันนี้มันปัญหาของนะ ไม่ใช่ปัญหาของแฟนคลับ นางก็ตอบกลับมาว่า ก็ไม่ชอบอะ เราด้วยความที่ขี้เกียจเถียงด้วย ก็เลยบอกไปว่า งั้นแล้วแต่ละกัน เสียตังค์เองนะ กระดาษก็มีให้ สรุปคือของที่เป็นของแจกประเภทกระดาษนางก็ไปซื้อมา แล้วใช้เครื่องปริ้นเราในการทำของแจก เราไม่ติดเรื่องเครื่องปริ้น ติดแค่อีกระดาษที่นางไปซื้อมา มันค่อนข้างแพง และยิ่งทำให้ต้นทุนมันสูงขึ้นในการจัดคาเฟ่ แล้วนางเสียเงินไปเยอะมาก คือเราก็มองแล้วก็ได้แต่สงสัยว่านางทำงานอะไรทำไมเงินเยอะจัง แอบสืบๆมา คือรู้ว่านางรับแลกเปลี่ยนเงินตรา คือเราก็ตกใจอยู่นะ รับแลกเปลี่ยนเงินตราคืองานที่แบบต้องมีใบที่เขาไว้สำหรับอนุญาตให้แลกเปลี่ยนเงินตราได้ ซึ่งนางไม่มี แล้วมันเท่ากับว่านางกำลังทำผิดกฎหมาย โดยปัจจุบันนี้นางบอกว่า ไปทำใบมาเรียบร้อยแล้ว แต่เท่าที่เราไปตามส่องมา เหมือนนางจะมีแค่ใบที่บอกว่าเปิดเป็นบริษัทที่รับพรีออเดอร์ของจากต่างประเทศเท่านั้น แต่ไม่มีใบเกี่ยวกับแลกเปลี่ยนเงินตราเลยเท่าที่เราทราบ ซึ่งหลังจากนั้นเราก็ไม่ร็เรื่องอะไรของนางมากแล้ว
และเนื่องจากนางใช้เงินไปมากกับการเสียเงินเรื่องจัดคาเฟ่ เราก็เคยที่จะยื่นมือไปช่วยเรื่องการจ่ายเงิน คือเราพร้อมจ่ายมากๆ เพราะด้วยความที่เราเป็นหัวแอดมินของบ้านแฟนคลับ ถ้าเกิดมีปัญหาเรื่องเงินนางก็สามารถบอกได้ แต่นางไม่ค่อยบอก หรือไม่พูดอะไรเรื่องเงินเลย ก็มีบ้างที่เราเคยถามนางว่า เงินพอไหม หรือใช้เงินบ้านจ่ายได้นะ ซึ่งนางตอบกลับมาประโยคนึงก็ทำเอาจุกอยู่คือ "เงินบ้านจ่ายยังไงก็ไม่พอหรอก แค่เสื้อตัวนึงก็หมดงบละ" เราเหมือนโดนว่าว่ว่า "ไม่มีปัญญาจ่ายหรอก" ช่วงนั้นก็ทำเอาเราซึมเหมือนกัน แต่เราก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ก็ได้แต่เงียบๆ จนเมื่อใกล้วันงาน...
นางก็ไปช่วยตกแต่งร้าน จัดข้าวของให้ตามปกติ และสิ่งที่เซอร์ไพร์คือ ดาราที่เราเป็นบ้านแฟนคลับให้ น้องจะมาที่คาเฟ่ ตอนนั้นเราดีใจมากเลยนะ ที่น้องจะมา ไม่คิดว่า บ้านเล็กๆที่พยายามซัพพอร์ตน้องน้องจะมาด้วย ในวันที่น้องมา แฟนคลับมากันเต็มร้าน ทำให้ตอนนั้นคิดว่าพื้นที่คงไม่พอสำหรับแฟนคลับในจำนวนเยอะขนาดนี้ แถมน้องก็คงเดินเข้ามาในคาเฟ่ลำบากด้วย เราก็มีคุยกับเจ้าของร้านว่าอาจจะขอพื้นที่ใหญ่อีกทีให้สำหรับแฟนคลับ ขอเก้าอี้ แล้วก็ขอห้องที่เป็นห้องแอร์ให้แฟนคลับ ตอนนั้นเราร็แค่ว่า อย่าทำให้แฟนคลับที่มารอน้องต้องมารอด้วยความเหนื่อยเปล่า ต้องให้เขาสดวกสบายให้ได้มากที่สุด วันนั้นหลังจากที่ติดต่อกับเจ้าของร้าน เจ้าของร้านก็ใจดีมาก หาห้องที่มีแอร์ให้ แต่ว่าเก้าอี้ไม่มีในห้องนั้น ซึ่งถ้าจะให้แฟนคลับนั่งพื้นเราคิดว่าคงไม่โอเค เราเลยวิ่งไปกับเจ้าหน้าที่แถวนั้น ขึ้นลิฟไปชั้นเกือบบนสุด แบกเก้าอี้มาประมาณ 10 20 กว่าตัวเพื่อให้แฟนคลับที่ยืนรอได้นั่ง เราจัดเก้าอี้ให้ เช็ดฝุ่นออกจากเก้าอี้เพื่อให้แฟนคลับได้นั่ง เราเดินวนไปมาที่คาเห่และก็ที่ห้องที่มีแฟนคลับไปค่อนข้างหลายรอบ เพื่อคอยรายงานให้แฟนคลับฟังว่า น้องใกล้ถึงละนะ น้องจะมาละนะ เชื่อไหมว่าตอนนั้น เนยดูแค่แฟนคลับที่อยู่ในร้านคาเฟ่ ไม่ได้มาช่วยเราแบกเก้าอี้ หรือเทคแคร์แฟนคลับเท่าไหร่ ซึ่งเราก็พยายามเข้าใจว่า ให้นางอยู่ตรงนั้นอาจจะดีแล้วเพราะเผื่อมีแฟนคลับถามเรื่องน้องจะได้มีนางคอยบอกได้
จนกระทั้งจังหวะที่น้องมาแล้ว แฟนคลับบางส่วนก็น่ารักมากๆที่คอยน้องอยู่ในห้อง จำได้ว่าวันนั้นมีเค้กให้น้องไปเป่าด้วย แต่เรากับเนยไม่ได้ถือ เพราะมองกันว่าหากเราใครคนใดคนนึงได้ถือ อาจะทำให้แฟนคลับไม่พอใจ เลยตัดสินใจให้ผจก.ของน้องเป็นคนถือไปหาให้น้อง แล้วให้แฟนคลับเป็นคนคนล่อให้น้องหันหลังรอจังหวะเค้กมาแทน ภาพตอนวันนั้นสำหรับเรา คือ มีความสุขมาก ได้ทำส่วนตรงนี้คือมีความสุขที่สุด แฟนคลับยิ้ม น้องก็ยิ้ม พอใจ ทุกอย่างในวันนั้นมันผ่านไปได้ด้วยดี โคตรจะมีความสุขแบบสุดๆ
แต่หลังจากวันนั้น 1 วัน ซึ่งก็คือวันสุดท้ายที่จะเก็บคาเฟ่ เราเป็นคนเดียวที่ได้เก็บคาเฟ่ เรานั่งเก็บข้าวของในคาเฟ่คนเดียว ไม่มีใครมาช่วยเก็บ เจ้าของร้านก็มีมาช่วยเก็บบ้างประปรายแต่เขาก็ต้องเก็บในส่วนของเขาด้วย วันนั้นเราเหนื่อยมาก แอบน้อยใจที่ทำไม เนย ไม่มาช่วยเก็บเลย ในเมื่อของบางอย่างที่นางซื้อ นางสามารถเอาไปใช้ได้เลย แต่นางเลือกที่จะให้เราเก็บ เชื่อไหมว่า ตั้งแต่วันแรกที่จัดคาเฟ่ นางไม่เคยมาเฝ้าที่ร้านคาเฟ่จนปิดร้านเลย มีมาแค่สองสามวัน คือ วันจัดร้าน วันที่สองนางมาแต่ก็มาครึ่งวัน และวันที่น้องมา แค่นั้นเลย ตัวเราเองก็เข้าใจ คิดแค่ว่า ไอเนยมันทำให้เยอะมามากพอละ ไม่อยากรบกวนมันอีก
ที่นี้ปัญหาที่ตามมาคือ ทุกคนยังจำได้ใช่ไหมคะ ว่าเราเปิดโดเนทและมีของที่ระลึกให้กับแฟนคลับที่โดเนทด้วย ใช่ค่ะ นี่แหละคือปัญหา ด้วยความที่นางบอกนางจะเป็นคนจัดการเองในส่วนตรงนี้ เพราะมันก็มีที่เคยจะยื่นมือเข้าไปช่วยเลือกหาของให้ ซึ่งนางก็บอกว่า มีแล้วอันนี้ไม่ต้อง หรือ กุมีร้านอยู่เดี๋ยวกุดูเอง เราเคยบอกนางว่า ส่งชื่อร้านมาก็ได้นะ จะได้ช่วยเลือกกันได้ คือนางไม่ส่งมา แล้วพอเราถามบ่อยๆนางก็คิ้วขมวด จนเราไม่ถามเพราะไม่อยากให้นางโมโห หรือโกรธ เพราะถ้ามีขึ้นมามันจะเป็นเรื่องใหญ่ และมันก็เป็นเรื่องใหญ่จริงๆค่ะทุกคน
ด้วยความที่เราให้อภิสิทธิ์ให้นางเป็นคนหาของมาเอง เราก็ถามนางเกือบทุกวัน บางวันก็ไม่ได้ถามเพราะเกรงใจ เรื่องที่เราถามนางก้คือ เนย ของโดนเนทเป็นไงบ้าง มาถึงหรือยังอะ? เราถามนางด้วยดี ไม่ได้ขึ้นเสียง เพราะเรารู่ว่านางเป็นที่เซ้นซิทิฟเรื่องคำพูดมากๆ แต่สิ่งที่นางตอบเรากลับมา ทุกครั้งเลย คือ ยัง ยังไม่มา,ของยังไม่ถึง นางจะตอบปัดๆ ห้วนๆ เป็นเฉิงแบบไม่ต้องถามอีก แต่นางจะรู้ไหม ว่าเราเครียดมาก เพราะนางไปบอกแฟนคลับว่าของจะได้หลังงานคาเฟ่น้อง ซึ่งช่วงที่เราถามตอนนั้นมันผ่านมาประมาน 2-3 เดือนแล้ว แล้วแฟนคลับก็ถามมาเช่นกันว่า ยังไม่ได้ของเลย เราต้องกรอกอะไรเพิ่มไหม เราก็กลัวว่าแฟนคลับจะคิดว่า เราโกงเงิน เลยพยามบอกแฟนคลับทุกอย่างว่ามีปัญหาเรื่องของที่ยังไม่มา เราก็บอกแฟนคลับไปตามจริง ว่ามีปัญหาเรื่องของเพราะเนยบอกเรามาแบบไหน เราก็บอกแฟนคลับไปแบบนั้น จนกระทั้ง...
เราเครียด เครียดมาก จนเผลอไปบ่นให้คนๆนึงฟัง ซึ่งคนนั้นเขาเป็นพี่รหัสเรา แต่พี่รหัสของเราคนนี้ทั้งสาขาไม่มีใครชอบเขาเลย เพราะเขาเป็นคนที่เล่าเรื่องแบบใส่สีมากกว่าที่เล่า แบบเล่าจาก 1 เป็น 100 แต่พี่รหัสคนนี้เรารู้สึกว่าเขาเป็นค
แชร์ประสบการ์ณชีวิตมหาลัยที่ไม่เป็นอย่างที่คิด
"ประสบการณ์ชีวิตวัยรุ่นที่ทำให้เพื่อนไม่ชอบเรา"
สวัสดีค่ะ เราชื่อ ดาว ปัจจุบันตอนนี้อยู่ปี 2 ใกล้จะขึ้นปี 3 แล้ว
เรามีเรื่องราวนึงที่จะมาเล่าให้ทุกคนได้อ่าน ขอให้ทุกคนอ่านโดยคิดให้ถี่ถ้วน ช่วยกันตัดสินใจ และอ่านในสิ่งที่เราจะพิมพ์ต่อจากนี้ให้ดีๆ
เพราะนี่คือมุมมองของเรา ความรู้สึกเรา อารมณ์ของเรา ณ ตอนนี้ เราไม่ได้หวังให้ทุกคนเข้าข้างเราฝ่ายเดียวหรือมาองว่า ฝ่ายนั้นผิด
เราแค่ต้องการความช่วยเหลือที่จะหลุดพ้นไปจากตรงนี้ งั้นขอเริ่มเล่าเลยนะคะ
เราเป็นบ้านแฟนคลับให้กับดาราท่านนึง ดาราคนนี้ค่อนข้างมีชื่อเสียงมากในระดับนึงหากเอ่ยชื่อ แต่เราขออนุญาติไม่เอ่ยนาม เนื่องจากตัวของดาราไม่ได้มีความผิดในส่วนตรงนี้ เราเริ่มทำบ้านแฟนคลับต่อจากน้องม.3 ที่กำลังจะขึ้นม.4 โดยที่ตอนนั้นบ้านแฟนคลับมีแค่น้องคนเดียว พอเรามารับหน้าที่ตรงนี้กลายเป็นว่าตอนนี้เราเลยทำอยู่คนเดียว แต่ปัจจุบันเราได้หาทีมงานมาเพิ่ม ซึ่งก็ได้คนที่ไว้ใจมาได้แค่คนเดียว แต่น้องทีมงานคนนี้เขาอยู่ต่างจังหวัด เลยอาจจะไม่ได้มาช่วยหน้างานมากเท่าไหร่ เพราะน้องเขาอยู่ฝ่ายอาร์ต แต่ปัญหาใหญ่มันเริ่มจากตรงนี้..
ช่วงนั้นใกล้เข้ากับวันเกิดของดาราที่เราเป็นบ้านแฟนคลับให้ ปัญหาในตอนนั้นคือ เราไม่เคยทำบ้านแฟนคลับมาก่อน เลยไม่รู้ว่า พอวันเกิดดารา เราต้องทำอะไรบ้าง เลยได้ตามส่องบ้านอื่นๆที่อยู่ค่ายเดียวกับน้องดารา ซึ่งตอนนั้นเราเห็นว่าแต่ละบ้านมีเปิดแฟนมีตวันเกิดดารา มีจัดคาเฟ่แล้วน้องไปหาที่ร้านนั้น ซึ่งตอนนั้น เหมือนค่ายจะแจ้งประมาณว่า จะมีแค่ปีนี้เท่านั้นที่เด็กในค่ายของเขาจะมีไปงานคาเฟ่ หรือ จัดมีตวันเกิด เราค่อนข้างเครียดมากๆ เพราะว่าดาราที่เราเป็นบ้านแฟนคลับ เขาเพิ่งมาใหม่ แต่แฟนคลับน้องก็เยอะพอตัว เลยทำให้คิดว่าอยากจะจัดคาเฟ่วันเกิดให้น้องเขา ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามันต้องมีรายละเอียดอย่างไรบ้างถ้าจะจัด ตอนนั้นเราคิดแค่ว่า อยากได้แค่พื้นที่เล็กๆ ไม่ต้องมีพื้นที่อะไรมาก อาจเป็นร้านที่รับ take away ซื้อแบบรับกลับจบๆ จะได้ไม่ต้องยุ่งยาก เพราะไหนจะเรื่องค่าใช้จ่ายอะไรอย่างอื่นอีกค่อนข้างเยอะ ทั้งค่า cup slvee ค่าของแถมที่แฟนคลับไปหลังซื้อน้ำ ค่อนข้างที่จะใช้เงินเยอะมากๆ แล้วทางบ้านแฟนคลับของเราก็ไม่ได้มีเงินด้วยในตอนนั้น จนกระทั้ง...
เรามีเพื่อนคนนึงซึ่งนางอยู่ในสาขาเดียวกับเรา ขอเรียกนางว่า เนย นางคือเพื่อนในสาขาที่เรารู้สึกว่า นางค่อนข้างมีประสบการ์ณมากๆในเรื่องของบ้านดารา เพราะว่านางก็เป็นทีมงานของบ้านดาราเหมือนกัน แต่ว่าอยู่คนละค่ายกับที่เราดูลบ้านแฟนคลับนะ เราปรึกษานางเรื่องจะจัดคาเฟ่วันเกิดของดาราตัวเองแต่ว่าไม่รู้จะต้องเริ่มยังไง ซึ่งตอนนั้นนางก็ให้คำปรึกษาที่ดีมากๆ แล้วเราก็รับฟัง จนนางบอกขอดูว่าดาราที่เราเป็นบ้านแฟนคลับคือใคร เราก็ให้ดู สรุปคือนางบอกว่า น้องหล่อมาก สนใจน้อง เราก็เลยชวนๆนางมาเป็นทีมงานด้วยกัน ซึ่งตอนนั้นนางเหมือนจะอยู่ระหว่างกึ่งกลางของคำว่า "ตกลง" เหมือนจะโอเค แต่ก็ไม่ได้ขนาดนั้น ไปๆมาๆ นางก็ตกลงยอมที่จะช่ยเหลือ ตัวเราก็สบายใจไปเปราะนึง เพราะว่ามีคนที่เขามีประสบการณ์มาช่วย แต่...มันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คิดซะทุกอย่างนะ
ด้วยความที่ทางบ้านที่เราดูแล มันไม่มีงบในการจัดคาเฟ่วันเกิดเลย เพราะการที่จะจัดคาเฟ่วันเกิดได้ คือต้องไปหาร้านที่คาเฟ่ที่เขารับแจกของให้ ซึ่งแต่ละร้านเขาก็จะมีเงื่อนไขที่ต่างกันว่า ต้องซื้อเหมา 100 แก้ว ราคา 2,500 หรือเหมา 100 แก้ว ราคา 3,500 คือหายากมากๆ และไหนจะต้องหาร้านที่ใกล้เคียงกับการเดินทางเพื่อสดวกต่อแฟนคลับด้วยแล้วคือยากมาก และเนื่องจากงบบ้านที่ไม่มี เนยเลยเสนอมาว่า ให้ทำ give away donate โดยการเปิดรับโดเนทสำหรับจัดคาเฟ่ และให้ของทีระลึก สำหรับผู้ที่โดเนทเข้ามา ตอนนั้นเนยบอกเราว่า ต้องเอาเซทที่มันคุ้มๆให้เขา ไม่งั้นถ้าให้ไม่คุ้มระวังจะโดนแฟนคลับเอาไปวีนในทวิตลับหลัง เป็นเราได้ยินแบบนั้นก็กลัวๆ ประกอบกับในใจเราตอนนั้นคือ อยากให้แฟนคลับของน้องโอเคและมีความสุขกับของที่ได้ เพราะเราคิดไว้เสมอว่า "แฟนคลับของน้องก็เหมือนคนที่น้องรักมากๆ" เราก็ต้องดูแลคนที่น้องรักให้ได้มากที่สุด เราเห็นด้วยกับเนยในส่วนของที่ระลึกสำหรับโดเนท ซึ่งหลังจากที่เราตกลงกันเรียบร้อยเรื่องของที่ระลึก นางก็แทบจะเป็นคนจัดการเกือบทุกอย่าง บางอย่างเราไม่รู้ นางก็ไม่บอกนะ จะเช่น ป้ายที่เอาไว้ทำเพื่อแจกแจงแฟนคลับว่า คนที่โดเนทมาเท่านี้จะได้ของอะไรบ้าง นางไม่เคยบอกเรา มีแต่บอกเป็นข้อมูลรายละเอียดของที่ระลึก แต่ไม่เคยบอกเรื่องป้ายเลย แล้วของที่ระลึกบางทีทำออกมา แล้วนางไม่ถูกใจก็เสียตังของตัวเองไปทำเองโดยที่ไม่บอกอะไรเราเลยเหมือนกัน ซึ่งมันก็ค่อนข้างจะหลายอย่างที่นางเอาเงินตัวเองออกโดยที่ไม่บอกอะไรเราเลย ยกตัวอย่างเช่น เรามีน้องฝ่ายอาร์ตอยู่ เราให้น้องฝ่านอาร์ตเป็นคนออกแบบเซทของที่ระลึก ซึ่งพอน้องทำออกมา ก็ดันไม่ถูกใจนาง แต่นางก็ให้น้องทำไปนะ แต่ไอป้ายที่แจกแจงของที่ระลึก จริงๆสามารถให้น้องฝ่ายอาร์ตทำให้ได้ แต่นางคงเห็นฝีมือน้องเขาแล้วคงไม่ถูกใจ เลยไปเสียตังตัวเองแทน เราก็แอบหงุดหงิดแหละ แต่ขอยอมรับว่า ของที่นางเสียตังค์ไปแต่ละอย่างมันดีและมันสวยนะ ซึ่งเราเถียงไม่ค่อยออก แต่ที่หนักสุดๆแล้วรู้สึกว่า ไร้เหตุผลแบบโง่ๆเลย คือ โพลารอยด์ คือเราเคยขายโพลารอยด์มาก่อน แล้วกระดาษที่เราขายก็เป็นกระดาษ Photo แบบมัน ซึ่งสำหรับที่เป็นเจ้าของกระดาษเราโอเคที่จะให้ทำโพราลอยด์เอาไปแจกในงานคาเฟ่ได้ แต่ว่านางไม่เอา เนยบอกว่า มันเสียวฟัน คือในหัวเราตอนนั้นคือ ห้ะ เหตุผลคือแค่นี้หรอ คือใส่ซองแก้วมันก็ไม่เสียวฟันแล้วไหม เราบอกกับนางไปว่า อันนี้มันปัญหาของนะ ไม่ใช่ปัญหาของแฟนคลับ นางก็ตอบกลับมาว่า ก็ไม่ชอบอะ เราด้วยความที่ขี้เกียจเถียงด้วย ก็เลยบอกไปว่า งั้นแล้วแต่ละกัน เสียตังค์เองนะ กระดาษก็มีให้ สรุปคือของที่เป็นของแจกประเภทกระดาษนางก็ไปซื้อมา แล้วใช้เครื่องปริ้นเราในการทำของแจก เราไม่ติดเรื่องเครื่องปริ้น ติดแค่อีกระดาษที่นางไปซื้อมา มันค่อนข้างแพง และยิ่งทำให้ต้นทุนมันสูงขึ้นในการจัดคาเฟ่ แล้วนางเสียเงินไปเยอะมาก คือเราก็มองแล้วก็ได้แต่สงสัยว่านางทำงานอะไรทำไมเงินเยอะจัง แอบสืบๆมา คือรู้ว่านางรับแลกเปลี่ยนเงินตรา คือเราก็ตกใจอยู่นะ รับแลกเปลี่ยนเงินตราคืองานที่แบบต้องมีใบที่เขาไว้สำหรับอนุญาตให้แลกเปลี่ยนเงินตราได้ ซึ่งนางไม่มี แล้วมันเท่ากับว่านางกำลังทำผิดกฎหมาย โดยปัจจุบันนี้นางบอกว่า ไปทำใบมาเรียบร้อยแล้ว แต่เท่าที่เราไปตามส่องมา เหมือนนางจะมีแค่ใบที่บอกว่าเปิดเป็นบริษัทที่รับพรีออเดอร์ของจากต่างประเทศเท่านั้น แต่ไม่มีใบเกี่ยวกับแลกเปลี่ยนเงินตราเลยเท่าที่เราทราบ ซึ่งหลังจากนั้นเราก็ไม่ร็เรื่องอะไรของนางมากแล้ว
และเนื่องจากนางใช้เงินไปมากกับการเสียเงินเรื่องจัดคาเฟ่ เราก็เคยที่จะยื่นมือไปช่วยเรื่องการจ่ายเงิน คือเราพร้อมจ่ายมากๆ เพราะด้วยความที่เราเป็นหัวแอดมินของบ้านแฟนคลับ ถ้าเกิดมีปัญหาเรื่องเงินนางก็สามารถบอกได้ แต่นางไม่ค่อยบอก หรือไม่พูดอะไรเรื่องเงินเลย ก็มีบ้างที่เราเคยถามนางว่า เงินพอไหม หรือใช้เงินบ้านจ่ายได้นะ ซึ่งนางตอบกลับมาประโยคนึงก็ทำเอาจุกอยู่คือ "เงินบ้านจ่ายยังไงก็ไม่พอหรอก แค่เสื้อตัวนึงก็หมดงบละ" เราเหมือนโดนว่าว่ว่า "ไม่มีปัญญาจ่ายหรอก" ช่วงนั้นก็ทำเอาเราซึมเหมือนกัน แต่เราก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ก็ได้แต่เงียบๆ จนเมื่อใกล้วันงาน...
นางก็ไปช่วยตกแต่งร้าน จัดข้าวของให้ตามปกติ และสิ่งที่เซอร์ไพร์คือ ดาราที่เราเป็นบ้านแฟนคลับให้ น้องจะมาที่คาเฟ่ ตอนนั้นเราดีใจมากเลยนะ ที่น้องจะมา ไม่คิดว่า บ้านเล็กๆที่พยายามซัพพอร์ตน้องน้องจะมาด้วย ในวันที่น้องมา แฟนคลับมากันเต็มร้าน ทำให้ตอนนั้นคิดว่าพื้นที่คงไม่พอสำหรับแฟนคลับในจำนวนเยอะขนาดนี้ แถมน้องก็คงเดินเข้ามาในคาเฟ่ลำบากด้วย เราก็มีคุยกับเจ้าของร้านว่าอาจจะขอพื้นที่ใหญ่อีกทีให้สำหรับแฟนคลับ ขอเก้าอี้ แล้วก็ขอห้องที่เป็นห้องแอร์ให้แฟนคลับ ตอนนั้นเราร็แค่ว่า อย่าทำให้แฟนคลับที่มารอน้องต้องมารอด้วยความเหนื่อยเปล่า ต้องให้เขาสดวกสบายให้ได้มากที่สุด วันนั้นหลังจากที่ติดต่อกับเจ้าของร้าน เจ้าของร้านก็ใจดีมาก หาห้องที่มีแอร์ให้ แต่ว่าเก้าอี้ไม่มีในห้องนั้น ซึ่งถ้าจะให้แฟนคลับนั่งพื้นเราคิดว่าคงไม่โอเค เราเลยวิ่งไปกับเจ้าหน้าที่แถวนั้น ขึ้นลิฟไปชั้นเกือบบนสุด แบกเก้าอี้มาประมาณ 10 20 กว่าตัวเพื่อให้แฟนคลับที่ยืนรอได้นั่ง เราจัดเก้าอี้ให้ เช็ดฝุ่นออกจากเก้าอี้เพื่อให้แฟนคลับได้นั่ง เราเดินวนไปมาที่คาเห่และก็ที่ห้องที่มีแฟนคลับไปค่อนข้างหลายรอบ เพื่อคอยรายงานให้แฟนคลับฟังว่า น้องใกล้ถึงละนะ น้องจะมาละนะ เชื่อไหมว่าตอนนั้น เนยดูแค่แฟนคลับที่อยู่ในร้านคาเฟ่ ไม่ได้มาช่วยเราแบกเก้าอี้ หรือเทคแคร์แฟนคลับเท่าไหร่ ซึ่งเราก็พยายามเข้าใจว่า ให้นางอยู่ตรงนั้นอาจจะดีแล้วเพราะเผื่อมีแฟนคลับถามเรื่องน้องจะได้มีนางคอยบอกได้
จนกระทั้งจังหวะที่น้องมาแล้ว แฟนคลับบางส่วนก็น่ารักมากๆที่คอยน้องอยู่ในห้อง จำได้ว่าวันนั้นมีเค้กให้น้องไปเป่าด้วย แต่เรากับเนยไม่ได้ถือ เพราะมองกันว่าหากเราใครคนใดคนนึงได้ถือ อาจะทำให้แฟนคลับไม่พอใจ เลยตัดสินใจให้ผจก.ของน้องเป็นคนถือไปหาให้น้อง แล้วให้แฟนคลับเป็นคนคนล่อให้น้องหันหลังรอจังหวะเค้กมาแทน ภาพตอนวันนั้นสำหรับเรา คือ มีความสุขมาก ได้ทำส่วนตรงนี้คือมีความสุขที่สุด แฟนคลับยิ้ม น้องก็ยิ้ม พอใจ ทุกอย่างในวันนั้นมันผ่านไปได้ด้วยดี โคตรจะมีความสุขแบบสุดๆ
แต่หลังจากวันนั้น 1 วัน ซึ่งก็คือวันสุดท้ายที่จะเก็บคาเฟ่ เราเป็นคนเดียวที่ได้เก็บคาเฟ่ เรานั่งเก็บข้าวของในคาเฟ่คนเดียว ไม่มีใครมาช่วยเก็บ เจ้าของร้านก็มีมาช่วยเก็บบ้างประปรายแต่เขาก็ต้องเก็บในส่วนของเขาด้วย วันนั้นเราเหนื่อยมาก แอบน้อยใจที่ทำไม เนย ไม่มาช่วยเก็บเลย ในเมื่อของบางอย่างที่นางซื้อ นางสามารถเอาไปใช้ได้เลย แต่นางเลือกที่จะให้เราเก็บ เชื่อไหมว่า ตั้งแต่วันแรกที่จัดคาเฟ่ นางไม่เคยมาเฝ้าที่ร้านคาเฟ่จนปิดร้านเลย มีมาแค่สองสามวัน คือ วันจัดร้าน วันที่สองนางมาแต่ก็มาครึ่งวัน และวันที่น้องมา แค่นั้นเลย ตัวเราเองก็เข้าใจ คิดแค่ว่า ไอเนยมันทำให้เยอะมามากพอละ ไม่อยากรบกวนมันอีก
ที่นี้ปัญหาที่ตามมาคือ ทุกคนยังจำได้ใช่ไหมคะ ว่าเราเปิดโดเนทและมีของที่ระลึกให้กับแฟนคลับที่โดเนทด้วย ใช่ค่ะ นี่แหละคือปัญหา ด้วยความที่นางบอกนางจะเป็นคนจัดการเองในส่วนตรงนี้ เพราะมันก็มีที่เคยจะยื่นมือเข้าไปช่วยเลือกหาของให้ ซึ่งนางก็บอกว่า มีแล้วอันนี้ไม่ต้อง หรือ กุมีร้านอยู่เดี๋ยวกุดูเอง เราเคยบอกนางว่า ส่งชื่อร้านมาก็ได้นะ จะได้ช่วยเลือกกันได้ คือนางไม่ส่งมา แล้วพอเราถามบ่อยๆนางก็คิ้วขมวด จนเราไม่ถามเพราะไม่อยากให้นางโมโห หรือโกรธ เพราะถ้ามีขึ้นมามันจะเป็นเรื่องใหญ่ และมันก็เป็นเรื่องใหญ่จริงๆค่ะทุกคน
ด้วยความที่เราให้อภิสิทธิ์ให้นางเป็นคนหาของมาเอง เราก็ถามนางเกือบทุกวัน บางวันก็ไม่ได้ถามเพราะเกรงใจ เรื่องที่เราถามนางก้คือ เนย ของโดนเนทเป็นไงบ้าง มาถึงหรือยังอะ? เราถามนางด้วยดี ไม่ได้ขึ้นเสียง เพราะเรารู่ว่านางเป็นที่เซ้นซิทิฟเรื่องคำพูดมากๆ แต่สิ่งที่นางตอบเรากลับมา ทุกครั้งเลย คือ ยัง ยังไม่มา,ของยังไม่ถึง นางจะตอบปัดๆ ห้วนๆ เป็นเฉิงแบบไม่ต้องถามอีก แต่นางจะรู้ไหม ว่าเราเครียดมาก เพราะนางไปบอกแฟนคลับว่าของจะได้หลังงานคาเฟ่น้อง ซึ่งช่วงที่เราถามตอนนั้นมันผ่านมาประมาน 2-3 เดือนแล้ว แล้วแฟนคลับก็ถามมาเช่นกันว่า ยังไม่ได้ของเลย เราต้องกรอกอะไรเพิ่มไหม เราก็กลัวว่าแฟนคลับจะคิดว่า เราโกงเงิน เลยพยามบอกแฟนคลับทุกอย่างว่ามีปัญหาเรื่องของที่ยังไม่มา เราก็บอกแฟนคลับไปตามจริง ว่ามีปัญหาเรื่องของเพราะเนยบอกเรามาแบบไหน เราก็บอกแฟนคลับไปแบบนั้น จนกระทั้ง...
เราเครียด เครียดมาก จนเผลอไปบ่นให้คนๆนึงฟัง ซึ่งคนนั้นเขาเป็นพี่รหัสเรา แต่พี่รหัสของเราคนนี้ทั้งสาขาไม่มีใครชอบเขาเลย เพราะเขาเป็นคนที่เล่าเรื่องแบบใส่สีมากกว่าที่เล่า แบบเล่าจาก 1 เป็น 100 แต่พี่รหัสคนนี้เรารู้สึกว่าเขาเป็นค