การวางบทบาทของกษัตริย์ที่ พังมาก ในพรหมลิขิต

ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่าเป็นคนที่ชอบละครเรื่องบุพเพสันนิวาสมาก เพราะเป็นละครเพียงไม่กี่เรื่องในชีวิตที่ทำให้ย้อนกลับไปดูได้เป็นร้อยๆรอบ แน่นอนว่าความคาดหวังในภาคต่อของหนังที่เราชอบมากๆ มันก็จะต้องคาดหวังค่อนข้างสูงเป็นปกติ แต่พอออกมาก็ตามที่เห็น คนชอบก็มี แต่คนไม่ชอบก็เยอะเหลือเกิน ส่วนมากไม่ชอบในตัวบทของพระเอก และ ตัวร้ายอย่างแม่กลิ่น และบางคนบอกว่าบทมันไม่ไปใหน วนๆเวียนๆอยู่เรื่องเดิมๆ แต่จริงๆแล้วอีกอย่างนึงที่พรหมลิขิตสอบไม่ผ่านอย่างรุนแรง คือ การวางบทบาทของขุนหลวงท้ายสระ ที่แทบจะเรียกได้ว่าไม่มีโอกาสเกิดขึ้นได้จริงในประวัติศาสตร์เลย คือไอ้ที่ทำตามประวัติศาสตร์ รายละเอียดต่างๆเช่น พระองค์ชอบตกปลา ชอบกินปลาตะเพียน อันนี้เหมือนเป๊ะ ก็ต้องยอมเรื่องการเก็บรายละเอียดในส่วนที่สื่อออกมาตามประวัติศาสตร์ แต่บางอย่างที่ละครทำให้ตัวละครขุนหลวงท้ายสระดูผิดจากความเป็นจริง คือ ความปล่อยเนื้อปล่อยตัวของขุนหลวง มันจะมีอยู่ฉากนึงที่ยายปริกถึงขั้นดึงหัวของขุนหลวงลงมา อันนั้นค่อนข้างจะเกินความจริงไปหน่อย มันกลายเป็นละครเรื่องนี้ได้ทำให้ภาพจำของกษัตริย์สมัยอยุธยาที่ดูน่าเกรงขามหายไปชั่วขณะ ถ้ายังมองไม่ออกกันก็ลองเปรียบเทียบการวางบทบาทของขุนหลวงทั้ง 3 พระองค์ในดูสิ พระนารายณ์ พระเพทราชา พระเจ้าเสือ ละครเรื่องก่อนวางลักษณะนิสัยว่าเป็นคนน่าเกรงขาม น่ากลัว ประชาชนต้องเคารพ หรือ ต้องเกรงกลัว พอมาเป็นขุนหลวงท้ายสระกลับวางบทบาทให้ดูแรงน้อยกว่าขุนหลวงคนอื่นๆ เพราะถ้าเอาตามประวัติศาสตร์จริง ขุนหลวงท้ายสระก็พอๆกับพระเจ้าเสือเลย 
น่าเสียดายตรงที่ บุพเพสันนิวาสสร้างภาพจำของกษัตริย์สมัยอยุธยาว่าน่ากลัวและน่าเกรงขามไปแล้ว พอมายุคขุนหลวงท้ายสระกลับทำให้ดูเบาลงกว่าแต่ก่อนมาก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่