Prague เมืองในฝัน ที่โคตรโรแมนติก

เพี้ยนไม่อยากจะเล่าPragueเพี้ยนออกทริปเพี้ยนแช๊ะ

เมืองในฝัน "Prague ปราก" ตลอดการเดินทางของชีวิตเป้าหมายที่ยังคงอยู่ในใจเสมอมาคือ เมืองปราก สาธารณรัฐเซ็ก และตั้งใจไว้ว่าจะเดินทางไปกับภรรยา ถ้าไปคนเดียวก็จะไม่ไปเด็ดขาด ผมมีความฝันอยากเที่ยวรอบโลกแต่ด้วยเป็นมนุษย์เงินเดือนก็ต้องค่อยๆเก็บเงินไปทีละปี ในเอเชียก็เดินทางเกือบครบทุกประเทศที่อยากไปแล้ว ส่วนในยุโรปเพิ่งเริ่มได้เที่ยวจริงๆเมื่อปีที่แล้วกับภรรยาคือ ตุรกี แต่ส่วนตัวผมเคยได้ทุนมาอบรมที่สถาบันวิทยาการโอลิมปิกนานาชาติ International Olympic Academy เมืองโอลิมเปีย ประเทศกรีซ ก็พอได้เที่ยวอยู่บ้างแต่ไม่มากมายอะไรนัก ปรากเป็นประเทศที่ 4 ในทริปเดินทางครั้งนี้ของผม ผมเดินทางใช้เวลาทั้งสิ้น 14 วัน ซึ่งนัดกับพี่อั้ม ภรรยาของผมจะบินไปหาและเดินทางจากกรีซไปเนเธอร์แลนด์ด้วยกันเพื่อเยี่ยมครอบครัว และเราสองคนจะเดินทางไปเที่ยวปรากกัน 2 คืน หลังจากที่เราได้เยี่ยมเยียนครอบครัวของพี่อั้มคือคุณยายที่หนีภัยสงครามระหว่างพม่าและกะเหรี่ยงมาตั้งแต่สมัยเมื่อ 20 ปีที่แล้ว กลายเป็นผู้ลี้ภัยมายังเนเธอร์แลนด์ พอได้ยินเรื่องราวต่างๆที่คุณยายวันเพ็ญและคุณตาเสือเล่าให้ฟังก็ได่ความรู้มากๆในการดูแลผู้อพยพของประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเขาดูแลดีมากตลอดจนลูกๆของคุณยายก็กลายเป็นพลเมืองของเนเธอร์แลนด์ทั้งหมด เพราะไปเกิดและเติบโตที่เนเธอร์แลนด์ทั้งหมด เราถึงเนธอร์แลนด์ในวันที่ 18 พ.ย. เวลา เที่ยงคืน จึงทำให้เราได้เที่ยวเนเธอร์แลนด์  2 วันเต็ม และเราสองคนเดินทางออกจากเนเธอร์แลนด์มายังเมืองปรากในคืนวันที่ 21 พ.ย. ด้วยการเดินทางกับ Flix bus ข้ามประเทศจากอัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ ไป ยังปราก สาธารณรัฐเช็ก เรียกว่าเดินทางผ่าเยอรมันาเลยทีเดียว ออกเดินทางจากอัมสเตอร์ดัม เวลา 19.30 มา ปราก ช่วงเช้าเวลาประมาณ 7.30 น. เปลี่ยนรถที่เมือง นูรัมเบิร์ก เยอรมัน 1 ครั้ง (เขียนรีวิวไว้ในการเที่ยวอัมสเตอร์ดัม) เมื่อมาถึงปราก เราสองคนก็ต้องเข้าที่พักก่อน ซึ่งเราจองที่พักไว้ที่ Gregory House เป็นห้องเดี่ยว เตียงควีนไซค์ 2 คืน วันที่ 22  - 24 พ.ย. เป็นเงินไทยประมาณ 2500 บาท เฉลี่ยคืนละ 1250 บาท ซึ่งห้องพักดีมากๆ ไกลจากสถานีรถราง Viktoria Zizkov เพียง 550 เมตร การเข้าออกเป็นระบบ คีย์การ์ดความเป็นส่วนตัวดีมาก แต่ไม่มีอาหารเช้านะครับแนะนำว่าไปหาทานที่ร้านดีกว่าในเมืองปรากมีร้านอาหารเช้าน่ากินอยู่พอสมควร วันแรกที่ไปถึงคือวันที่ 22 พ.ย. ผมเข้าไปที่ถึงที่พักประมาณ 8.15 น. ก็เข้าไปขอเช็คอิน แต่ด้วยเราต้องเข้าก่อนเวลาซึ่งปรกติต้องเช็คอินเวลา 14.00 ซึ่งทางโรงแรมก็เสนอมาว่าจะมีค่าบริการ หากจะเข้าก่อนเวลา คือ 5 ยูโร ไม่ต้องคิดมากเลยครับผมตอบทันทีว่า OK เพราะคือเดินทางข้ามคืนด้วยรถบัสถึงจะได้นอนแต่ก็นอนไม่เต็มที่อยากจะเข้าห้องอาบน้ำอุ่นนอนพักสักแปบเพื่อจะออกไปเที่ยวก็เลยจัดการชำระ 5 ยูโร แล้วเข้าห้องพัก ที่พักมีหลายชั้นเป็นตึกซึ่งภายนอกดูเก่านิดหน่อย แต่ภายในคือใหม่และสะอาดมากดีมากจริงๆ หลังจากผมเข้าห้องพักเพื่อนอนพักสัก 2 ชั่วโมง ก็ออกมาหาอะไรทานพร้อมกับวางแผนจะไปเที่ยวที่แรกคือ ปราสาทปราก ซึ่งการเดินทางก็ง่ายมากคือ ผมมาขึ้นรถราง ที่สถานี Viktoria Zizkov ขึ้นรถรางหมายเลข 15 ซึ่งจริงๆสามารถไปได้หมายเลขนะครับแต่ต้องดูว่าคุณขึ้นจากสถานนีไหน ผมขึ้นหมายเลข 15 ไปลงสถานี Malostranska ซึ่งสถานีนี้จะห่างจากปราสาทประมาณ 800 เมตร แต่ใครอยากเดินน้อยๆก็ทำได้เพราะมีสถานี่รถรางที่จอดใกล้กับตัวแปราสาทคือสถานี  Prazsky hrad แต่ต้องเปลี่ยนรถราง 1 ครั้ง ผมไม่อยากเปลี่ยนและตั้งใจอยากจะเดินชมวิวถ่ายรูปไปด้วย และก็สมประสงค์ดังใจเลยคือตลอดทางเดินมีวิวสวยงามมาก หลังจากนั้นเราก็เดินไปถึงตัวปราสาท เราสามารถเข้าถึงตัวบริเวณปราสาทโดยไม่เสียค้าใช้จ่าย แต้หากเราจะเข้าไปในสถานที่สำคัญภายในตัวปราสาทซึ่งมีหลายแห่งจะต้องเสียเงินค่าเข้า (ผมจำไม่ได้ว่าเท่าไหร่แต่เสียเถอะไปถึงแล้ว)  ผมใช้เวลาที่นั่นนานมากๆ แต่ด้วยวันนั้นฟ้าไม่เปิด ฝนครึ้มนิดหน่อยทำให้มีเวลาถ่ายรูปได้ไม่มากนัก และที่เราตัดสินใจไปที่นี่ไม่ไป สะพานชาร์ลส์ Charles Bridge เพราะเราดูพยากรณ์อากาศก่อนออกมาว่าวันนี้ฟ้าจะไม่เปิด แต่วันพรุ่งนี้ฟ้าจะเปิดช่วงเช้าถึงบ่าย เราจึงเก็บสะพาน สะพานชาร์ลส์ ไว้ไปเที่ยวพรุ่งนี้แทนเพราะอยากได้รูปสวยๆบ้าง เราใช้เวลาที่ปราสาทปรากพอสมควรก็เริ่มหิวจึงตัดสินใจเดินลงมาแต่ทางออกคนละทางกับทางที่มาจึงต้องหาเส้นทางใหม่ ปราสาทปรากกับ สะพานชาร์ลส์ ไม่ห่างกันแต่ผมยังไม่เดินไปเราตัดสินใจไปหาร้านอาหารทางกันซึ่งอยากบอกว่าอาหารอร่อยมาก ค่าครองชีพก็ถือว่าสูงสำหรับเราหล่ะแต่ก็ไม่แพงมากจนเกินไป หลังจากทานข้าวเสร็จเราก็กลับที่พักกัน 
บรรยากาศปราสาทปรากค้าบ



เริ่มวันที่ 2 ของการเที่ยวปราก และวันนี้เป็นวันที่เราจะไปเที่ยว สะพานชาร์ลส์ ในตำนานกันตื่นเต้นมากอย่างแรกที่ผมทำหลังตื่นคือ เปิดหน้าต่างดูแสงพระอาทิตย์ ในช่วงเช้าแสงแดดยังไม่ออกก็แอบผิดหวังเล็กน้อยแต่ก็ตั้งใจว่าอย่างไรก็จะไปและพยากรอากาศไม่น่าพลาด สิ่งแรกที่ทำคือตั้งใจไปหาร้านอาหารเช้าทานกันที่กลางเมืองบริเวณประตูเมืองเก่า (Powder Gate) เพราะตั้งใจจะเดินยาวไปจนถึงสะพานชาร์ลส์ เราขึ้นรถรางลงที่สถานี Prasna brana เดินไปจนถึงประตูเมืองก็ไปพบร้านอาหารใหญ่มาก น่าจะชื่อร้าน Eilles ร้านอยู่ติดประตูเมืองเลยครับในตึกนั้นมีร้านอาหารใหญ่ๆประมาณ 4-5 ร้านเลยทีเดียว เราสองคนก็เข้าไปวันนี้ตั้งใจจะกินหรูสักวันก็ได้เมนูกันทั้งสองคน

อยากบอกว่า ชา อร่อยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ละมุนและหอมมาก หลังจากทานเสร็จเราสองคนก็เดินผ่านประเมืองเก่าไปเรื่อยเพื่อไปจตุรัส ตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยตึกสวยเก่าและร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหารเราสองคนก็พยายามจำไว้ว่าร้านไหนน่าทานจะได้กลับมาทานมื้อกลางวันกัน นี่เป็นบรรยากาศประตูเมืองเก่าครับ

เดินออกจากประตูเมืองเก่าไปเรื่อยๆเราก็จะไปถึง โบสถ์ติน (Church of our Lady Before Týn)  ซึ่งจะอยู่บริเวณเดียวกับ มหาวิหารเซนต์วิตุส และ หอนาฬิกาดาราศาสตร์ (Astronomical Clock) ซึ่งตรงนี้สวยงามมาก มีมุมให้ถ่ายรูปสวยๆเยอะมากๆ 


เดินต่อไปอีกประมาณ 500 เมตร เราก็จะไปถึง สะพานชาลส์ สถานที่ที่เราอยากมามากที่สุดแห่งหนึ่งในชีวิตพร้อมกับภรรยา ถึงตรงนี้ไม่มีอะไรที่จะเสียดายอีกแล้ว ภารกิจเสร็จสิ้นนะตรงนั้น สะพานที่โรแมนติกที่สุดของเราสองคน 

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่