-ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า
-ร้านขายเฟอร์นิเจอร์
-ร้านขายเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า (เช่น รองเท้าผ้าใบ,รองเท้าแตะ ฯลฯ) และเครื่องแต่งกายทั่วๆไป
-ร้านขายชุดนักเรียน เครื่องแบบข้าราชการ ฯลฯ
-ร้านขายเครื่องเขียน อุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์การทำงานในออฟฟิศ
-ร้านกิ๊ฟช็อป
-ร้านขายวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ซ่อมแซมเบ็ดเตล็ด (ที่ไม่ไช่ร้านใหญ่แบบที่มีหิน ปูนทราย ฯลฯ ขายด้วย)
-ร้านประดับยนต์
ย่านแถวบ้าน (กทม. ฝั่งธน) ยังคงเห็นร้านเหล่านี้อยู่ แต่ไม่ได้พีคเหมือนสมัย 20-30 ปีก่อนแล้ว
หลายร้านลดสเกลให้เล็กลง สินค้าน้อยลง และด้วยความที่ส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าของตึก/อาคารอาคารพาณิชย์เอง
กิจการเลยยังพออยู่กันได้เพราะไม่มีค่า Fixed cost
แต่ทั้งย่านก็เงียบกว่าสมัยก่อนมาก แถวนั้นมีอยู่แค่ไม่กี่กิจการที่ยังคงคึกคัก
หนึ่งในนั้นคือขายอาหาร ร้านที่ขายดีๆก็ยังมีลูกค้าแน่นร้านอยู่ทุกวัน
ธุรกิจที่มีหน้าร้านเหล่านี้ ในความคิดเห็นของคุณ อนาคตจะมีอันไหนที่ได้ไปต่อ/ไม่ได้ไปต่อบ้างครับ
หมายถึงว่ายังสามารถเติบโตทางการขายแบบมีหน้าร้านได้ โดยไม่โดนออนไลน์หรือช่องทางอื่นๆมา Disrupt ไปจนหมด
ขอบคุณทุกความคิดเห็นมากครับ
ธุรกิจที่มีหน้าร้านเหล่านี้ ในอนาคตมีอันไหนที่ได้ไปต่อ/ไม่ได้ไปต่อ บ้างครับ
-ร้านขายเฟอร์นิเจอร์
-ร้านขายเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า (เช่น รองเท้าผ้าใบ,รองเท้าแตะ ฯลฯ) และเครื่องแต่งกายทั่วๆไป
-ร้านขายชุดนักเรียน เครื่องแบบข้าราชการ ฯลฯ
-ร้านขายเครื่องเขียน อุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์การทำงานในออฟฟิศ
-ร้านกิ๊ฟช็อป
-ร้านขายวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ซ่อมแซมเบ็ดเตล็ด (ที่ไม่ไช่ร้านใหญ่แบบที่มีหิน ปูนทราย ฯลฯ ขายด้วย)
-ร้านประดับยนต์
ย่านแถวบ้าน (กทม. ฝั่งธน) ยังคงเห็นร้านเหล่านี้อยู่ แต่ไม่ได้พีคเหมือนสมัย 20-30 ปีก่อนแล้ว
หลายร้านลดสเกลให้เล็กลง สินค้าน้อยลง และด้วยความที่ส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าของตึก/อาคารอาคารพาณิชย์เอง
กิจการเลยยังพออยู่กันได้เพราะไม่มีค่า Fixed cost
แต่ทั้งย่านก็เงียบกว่าสมัยก่อนมาก แถวนั้นมีอยู่แค่ไม่กี่กิจการที่ยังคงคึกคัก
หนึ่งในนั้นคือขายอาหาร ร้านที่ขายดีๆก็ยังมีลูกค้าแน่นร้านอยู่ทุกวัน
ธุรกิจที่มีหน้าร้านเหล่านี้ ในความคิดเห็นของคุณ อนาคตจะมีอันไหนที่ได้ไปต่อ/ไม่ได้ไปต่อบ้างครับ
หมายถึงว่ายังสามารถเติบโตทางการขายแบบมีหน้าร้านได้ โดยไม่โดนออนไลน์หรือช่องทางอื่นๆมา Disrupt ไปจนหมด
ขอบคุณทุกความคิดเห็นมากครับ