เราเข้าใจแล้วว่าทำไมการเลือกมหาลัยจึงสำคัญ

สวัสดีค่ะชาวพันทิปทุกคนยิ้ม​เราเรียบเรียงเรื่องราวนี้นานมากกว่าเราจะกล้าออกมาเล่าให้ทุกคนฟังในพันทิป​ เราอยากแค่จะมาระบายเลยค่ะ​ อยากให้ทุกคนคอมเม้นตอบกลับด้วยความสุภาพแล้วก็ไม่หยาบคายนะคะ;)
เราเป็นเด็กอายุ19คนนึงที่เรียนม.หนึ่งทางภาคใต้​ ภูมิลำเนาเราเป็นคนจังหวัดนครศรีฯแต่เราเดินทางไปเรียนจังหวัดนึงที่ไกลจากบ้านเรา​ จริงๆคณะนี้เรามั่นใจกึ่งๆนะว่าเราจะเรียนได้ตอนนั้นเราไม่ได้เลือกมหาลัยนี้เลย​ แต่ตอนนั้นเราจำเป็นน่ะค่ะเหมือนทางบ้านไม่เข้าใจบวกกับช่วงนั้นหางานยากเราเลยไม่ได้ออกไปทำงานหาเงินจึงจำเป็นต้องมาทั้งที่จริงๆอยากจะดรอปสักหนึ่งปีเต็มๆก่อนที่จะไปเรียนต่อ
เราปลอบใจตัวเองมาตลอดเลยนะคะว่าที่นี่อาจจะใขดีกับเราถึงมันจะไม่ใช่ทางที่เราอยากไปก็เถอะนะ​ ทางมอมีเรียนปรับพื้น​ฐานเราก็ได้เราก็ไปเรียนปกติทุกวันแต่ก็รู้สึกว่ามันโอเคดีนะ​ สนุกดี​ พอเราไปเริ่มเรียนจริงจังมันก็โอเคดีค่ะ​ รู้สึกเรียนชิวๆเหมือนเราชอบพวกตัดต่ออะไรพวกนี้อยู่ด้วย​ แต่พอเวลามันผ่านไปสักพักแหล้ะค่ะพอดีวันวันนั้นเป็นไข้ทับระดูค่ะก็เลยลาอาจารย์ไปเพราะเป็นหนัก​ ทุกครั้งที่เราปวดประจำเดือนเป็นงี้บ่อยมากเลยค่ะ​ ต้องไปหาหมอตลอด​ แต่เหมือนโรงพยาบาลจะอยู่ไกลจากหอนิดนึงค่ะนี่เรียนปีแรกเลยไม่ได้พารถไปจึงอยากแค่จะนอนพักให้ดีขึ้นสักหน่อย​ จริงๆก็ไม่ได้ขาดเรียนบ่อยขนาดนั้นนะคะแต่บางทีร่างกายมันก็ไม่ไหวจริงๆค่ะเลยแบบต้องลาบ้างอะไรบ้าง​ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นที่ไม่เข้าเรียนเลยนะคะ​ แต่จากที่เราลาในวันนั้นเพราะเรื่องปจด.มันกลายเป็นว่าอาจารย์ท่านนึงบอกว่าเราเอามันมาเป็นข้ออ้าง​ มันจะไปเป็นหนักอะไรขนาดนั้น​ เรารู้เราผิดค่ะที่อาจจะลาเพราะสาเหตุนี้แต่เราไม่เคยเอามันมาเป็นข้ออ้างเลยเราไม่อยากจะขาดเรียนเลยด้วยซ้ำ แต่ตอนนั้นเราก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับคำพูดพวกนั้นค่ะเราก็พยายามไปเรียนให้บ่อยขึ้น​ แล้วเหมือนเราเป็นคนหน้านิ่งค่ะจริงๆเราก็ยิ้มบ่อยนะคะ​ อาจารย์ท่านนึงได้กล่าวไว้ว่าเราไม่เข้าสังคม​ อันนี้เราไม่อะไรเลยนะคะเราอาจจะลำบากใจกับการเจอคนกลุ่มใหญ่แต่เราก็เป็นคนคุยเก่งคนนึงเหมือนกันเราก็เข้าได้กับเพื่อนทุก​คนเลยนะคะ​ แต่ที่เราตีตัวออกห่างเพราะเราเคยไปสนิทกับพวกเขาแล้วมันไม่มีใครจริงใจกับเราเลย  เราเลยถอยออกมา​ ตอนนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไรเหมือนกันค่ะก็เข้าใจได้ว่าเขาอยากให้เราเข้าสังคม​ ปีหนึ่งมันไม่มีอะไรมากเลยค่ะจนกระทั่งปีสองนี่แหล้ะที่เราเริ่มรู้สึกว่าเราอึดอัด​ คือมันเริ่มจากวันนั้นค่ะพอดีเรามีธุระเล็กน้อยระหว่างทางที่เดินทางไปทำกิจกรรมเราเลยได้ลาอาจารย์ที่เป็นหัวหน้ากิจกรรมเรียบร้อยแล้วว่าเราอาจจะไม่สะดวกไปในวันนี้จึงขอลา​ แต่เผอิญว่าตอนเย็นเขามีการดูหนังฟรีค่ะ​ ตอนนั้นเราก็เพิ่งทำธุระเสร็จตอนแรกกะจะลาเลยค่ะกลัวจะไปไม่ไหวเพราะเหนื่อยมากวันนั้นแต่เหมือนอาจารย์จะเชิงบังคับให้ไปนี่ก็ไป​ แต่เหมือนเขาไม่น่าจะพอใจเรื่องที่เราลากิจกรรมด้วยค่ะแต่เราก็ไม่อยากลานะคะมันจำเป็นจริงๆเราก็พอจะเข้าใจว่าเขาอาจจะโกรธเรา​ ตอนนั้นเราก็พยายามไม่อะไรนะคะก็เข้าใจว่าเราคงผิดเหมือนกัน​ เหตุการณ์​ล่าสุดก็เหมือนอาจารย์ท่านนั้นเรียกไปรวมประชุมแล้วพูดประมาณคนบางคนกิจกรรมดันลาแต่หนังฟรีดันไปดู​ ตอนนั้นเราก็รู้ตัวเลยค่ะเพราะคงเป็นใครไม่ได้นอกจากเรานั่นแหล้ะ​ จริงๆอาจารย์จะว่าไรเราเราไม่ว่าเลยค่ะแต่เราไม่ชอบที่มาว่าเราต่อหน้าคนอื่นเราขายหน้ามากวันนั้นแล้วมันก็มีหลายครั้งมากที่เราโดนงี้​ แต่เราขอไม่ลงดีเทลนะคะ​ เราเข้าใจนะคะว่าส่วนนึงมันผิดที่เราเองแต่คำพูดที่ดีกว่านี้ก็น่าจะมี​ อย่างล่าสุดที่ประเมินอาจารย์เราประเมินไปว่าอยากให้ลดคำพูดที่แรงกว่านี้หน่อยได้มั้ยเราไม่ได้ใช้คำหยาบใดๆในการประเมินเลยแต่ก็ถูกไปสอบสวนเหมือนกันว่าทำไมถึงประเมินแบบนั้น​ คืออันนี้เราขอสอบถามนะคะ**อันนี้เราไม่มีสิทธิ์​จะวิจารณ์เลยเหรอคะหรือยังไงคะมออื่นเป็นแบบนี้กันมั้ย**สังคมเรื่องเพื่อนก็ไม่ค่อยจะโอเคเท่าไหร่เหมือนกันค่ะแต่เราขอไม่ลงดีเทลนะคะ​ จริงๆก็หลายเรื่องเลยค่ะเหมือนสาขาที่เราเรียนพอยิ่งเรียนไปมันก็ยิ่งทรมานตัวเองด้วย​ ตอนนี้เรากำลังคิดหาทางออกอยู่ค่ะ​ ตอนนี้เรากลับบ้านมาพักใจค่ะ​ แต่ยังไม่ได้ลองคุยกับที่บ้านเลยส่วนนึงมันก็อาจจะเป็นที่เราก็ได้ค่ะเเต่เราแค่อยากไปมอแบบเอนจอยบ้างเราไม่สัมผัสความรู้สึกแบบนี้มานานเลย  เราเข้าใจแล้วแหล้ะว่าการเลือกมหาลัยมันก็สำคัญเราคิดมาตลอดว่าอยากที่จะซื้อสังคมให้ตัวเอง​ เราก็หวังว่าทุกอย่างมันจะดีขันมากกว่านี้ค่ะ​ ขอบคุณที่รับฟังนะคะ;)​ถ้าไม่ชอบหรือรำคาญก็เลื่อนผ่านไปได้เลยค่ะถ้าจะคอมเม้นท์​อะไรแย่ๆอย่าเลยนะคะ​ เราไม่อยากรับรู้ขนาดนั้นตอนนี้เราก็ว่าเราก็รู้สึกแย่เกินพอเลย​ ยาวหน่อยนะคะขอบคุณที่รับฟังน้าา
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ชีวิตวัยรุ่น ปัญหาวัยรุ่น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่