เคย OverStay Schengen Visa และไปขอวีซ่าเยี่ยมเยียนใหม่จากสวีเดนมา ในฐานะ Freelancer

สวัสดีค่ะ วันนี้อยากมาแบ่งปันสั้นๆเพื่อเป็นกรณีศึกษาให้เพื่อนๆนะคะ ใน 3 กรณี
1. เคย Overstay แล้วจะส่งผลต่อการขอวีซ่าใหม่ไหม
2. รีวิวการขอวีซ่าเยี่ยมเยียนสวีเดน ต้องใช้ไรบ้าง
3. การยื่นเอกสารการเงินในฐานะ Freelancer

ก่อนอื่นตัวจขกท.เคยมีวีซ่าเชงเก้นทั้งหมด 7 วีซ่า โดยเคยทำแบบ national visa (study), tourism และ visting friend/family (ใช้อันนี้บ่อยสุด) ค่ะ
และเคยได้วีซ่า  2 ปีก่อนโควิดจากประเทศเยอรมันด้วยค่ะ

[เคย Overstay แล้วจะส่งผลต่อการขอวีซ่าใหม่ไหม]
ทั้งนี้วีซ่ารอบที่ 7 ของเรา เราขอจากสถานทูตเยอรมัน ได้ตามจำนวนวันที่เข้า-ออก งงมากทำไมไม่ได้รายปีอีกสักครั้ง ทีนี้ด้วยความที่ตั๋วเราซื้อมานานมากจากสายการบิน Saudi Airline ส่งผลให้วันบินของเราถูกเลื่อน และท้ายที่สุดเรานับวันผิด คือเราอยู่ไม่เกินกำหนดวีซ่า แต่เราอยู่เกินจำนวนวันตามที่วีซ่าให้ โดยที่เรารู้ตัวตอนกำลังจะออกตม.ออกจากประทศสวีเดนค่ะ 

จนท.ตม. : ทำไมคุณถึงอยู่เกินจำนวนวัน
จขกท. : ไม่ได้อยู่เกินค่ะ วีซ่าหมดวันพรุ่งนี้
จนท.ตม. : เธอเข้าใจผิดแล้ว เธอต้องดูจำนวนวันที่วีซ่ากำหนดมาให้ด้วย ไม่ใช่ดูแค่วันที่เพียงอย่างเดียว เธออยู่เกินมา 7 วัน รอบนี้ฉันจะให้ผ่านไปก่อน แต่ประวัติของเธอจะถูกบันทึกไว้ 

จากนั้นตม.ก็ปั๊มขาออกให้ และไม่ได้มีใบเตือน เสียค่าปรับ หรือเข้าห้องเย็นอะไรทั้งสิ้น ทั้งหมดจบแค่สนทนาตามด้านบนเท่านั้น
อย่างไรก็ตามจขกท.หน้าแห้งมากๆ กลัวขั้นสุด และกลัวว่าจะโดน Blacklist และกลัวว่าผ่านตม.มาแล้วจะโดนอะไรอีกไหม

ระหว่างรอเครื่องบินจขกท.ก็พยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องผลกระทบจากการ Overstay ทั้งจากใน pantip, gonoguide.com, reddit และquora แต่ข้อมูลค่อนข้างหลากหลายเนื่องจากมันขึ้นอยู่กับกฎของแต่ละประเทศ และดุลยพินิจของจนท.ตม.

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเดือนมิถุนายน 2566 และเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม จขกท.ไปสมัครวีซ่าเยี่ยมเยียนใหม่ ก็ไม่ได้เขียนอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ และก็ได้วีซ่ามาปกติ ขอไป 43 วันได้มา 44 วัน 

โดยสรุปโดนแค่เตือนด้วยวาจา ไม่มีผลกระทบเพิ่มเติม


[รีวิวการขอวีซ่าเยี่ยมเยียนสวีเดน]
จากเหตุผลข้างต้นทำให้การขอวีซ่าครั้งนี้ตื่นเต้นกว่าปกติมาก และค่อนข้างวิตกกังวลสูง และครั้งนี้เราขอพร้อมคุณแม่ด้วยค่ะ
โดยของเราให้แฟนเชิญ และเราดูเเลเรื่องการเงินของตัวเองค่ะ

อันดับแรกเราก็จองวันล่วงหน้าที่ https://visa.vfsglobal.com/tha/en/swe/login โดยยังไม่มีการขำระเงินใดๆทั้งสิ้น 
และเราสามารถจองได้ล่วงหน้า 6 เดือนเลยค่ะ ถ้าสมมติต้องเปลี่ยนวันก็สามารถเปลี่ยนได้ด้วยเช่นกัน

ทีนี้มาเตรียมเอกสารกันค่ะ

ผู้สมัคร
- ใบจองจาก VFS
- Check List  อันนี้ต้องเซ็นด้วย
- Schengen Visa Application Form เราพิมพ์ และเซ็นสดเอาค่ะ
- หน้าพาสปอร์ต 2 ใบ และวีซ่าเชงเก้น + แสตมป์การเข้า-ออก ในรอบ 59 เดือน และเซ็นด้วย
- รูปถ่าย พื้นขาว 2 นิ้ว หรือประมาณ 35-40 มม.
- ประกันการเดินทาง เราใช้ของ MSIG ตัวถูกสุด
- (ไม่ได้ระบุจากสถานทูต) เราเขียน Statement of Purpose ประกอบไปด้วย 
      - Purpose of Visit พร้อมระบุแพลนที่จะทำโดยคร่าวๆ 
      - Duration of Stay
      - Accomodation
     - Financial Mean ตรงนี้ให้อธิบายหน้าที่การงานของเรา และเงินหมุนเวียนควรเพียงพอต่อการดูแลตัวเองที่นู่น ถ้าเยี่ยมเยียนประมาณ 2,000 บาทต่อวัน ถ้าท่องเที่ยว 4,000 บาทต่อวัน และเราเขียนไปเพิ่มเติมด้วยว่าเรามี pre-paid accomodation and flights ไปด้วยค่ะ 
     - Return Ticket
     - Ties to Home Country (เรามี Business trip + ต้องช่วยทำธุรกิจของแม่ ซึ่งแนบรูปตอนทำงานด้วยกันไปด้วย)
     - Previous Travel History เน้นพวกเชงเก้น อเมริกา และออสเตรเลีย
ตลอดจนเรามีการแนบพวกตั๋วเครื่องบิน หรือโรงแรมไปด้วย เราจองเลย จ่ายจริง เพราะคิดว่าได้แน่นอน ถ้าไม่ได้ก็คิดว่าอุทรธ์ก็น่าจะได้
- เอกสารทางการเงิน (Letter of Employment, Bank Statement (ุ3-6 เดือน), Business Certificate, Work Contract and etc.)

ผู้เชิญ
- ใบเชิญ ของเราพิมพ์ และเซ็นแบบดิจิตัล และทางเราปริ้นออกมา
- Population Registration Certificate (Personbevis)
- หน้าพาสปอร์ต พร้อมปั๊มขาเข้า-ออกจากตม.ประเทศไทย 
- (ไม่ได้ระบุจากสถานทูต) จดหมายเชิญ โดยมีรายละเอียดว่าทำไมอยากเชิญมา และมีแพลนอย่างไรบ้าง
- ใบแสดงความสัมพันธ์ โดยของเราเป็นแฟนกัน เราก็เขียนคำอธิบายประมาณ 1 หน้ากระดาษก่อนว่าเจอกันที่ไหน คุยกันอย่างไร ความสัมพันธ์เป็นอย่างไรบ้าง จากนั้นเราแนบเป็นตารางการพบปะกันพร้อมกับรูป แคปแชท ตั๋วเครื่องบิน ใบจองโรงแรม อะไรประมาณนั้นค่ะ สิริรวมแล้ว 11 หน้าได้

เรายื่นวันที่ 6 ธันวาคม  2566  และวันที่ 8 ธันวาคม 2566 ได้รับเล่มคืนแล้วค่ะ เอกสารของทางเราครบถ้วนดี 

ปล.
1. ให้ตรวจทานใบเสร็จให้ดี บางทีเจ้าหน้าที่ชอบใส่บริการ SMS ไปให้ ซึ่งไม่จำเป็นเลย
2. ห้ามใช้กระดาษรียูส แต่ปริ้นหน้า-หลังได้
3. ทางสวีเดนไม่รับเอกสารภาษาไทยเลย และไม่สามารถแปลเองได้ ต้องไปแปลที่เขาระบุ (เราไม่มีอะไรต้องแปล เลยไม่มีปสก.ส่วนนี้)


[การยื่นเอกสารการเงินในฐานะ Freelancer]

อันดับแรกเราเป็น Freelancer ทำงานเป็นโปรเจคค่ะ โดยเรามีการแนะนำอาชีพของเราใน SOP จากนั้นเราบอกว่าให้ดูเอกสารแนบ โดยเราแนบ contract ในการทำงานของเราที่มีชื่อเรา ย้อนไปประมาณ 6 เดือน และแนบ Bank Statement 2 ธนาคาร โดยขอจากทางแอพ และซีรอกหน้าบัญชีเพิ่มแค่นั้น โดยบัญชีแรกมีเงินหมุนเวียนประมาณ 1 - 2 แสน อีกฉบับมีประมาณหลักพัน แต่บางช่วงอาจมีถึงหลักแสนต้นๆบ้าง โดยเราเคยยื่นแบบนี้ทั้งสถานทูตเยอรมันกับสวีเดน ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลยค่ะ และส่วนใหญ่ contract เราเป็นภาษาอังกฤษกับหน่วยงานทีมีความนานาชาติในระดับนึง

ส่วนคุณแม่ของเราเป็น Self-Employ โดยแม่เรามีธุรกิจค้าขายส่วนตัว โดยเราขอใบรับรองนิติบุคคลจากที่ https://encert.dbd.go.th/ โดยมีราคาอยู่ที่ 1,200 บาท และใช้เวลาไม่เกิน 1-2 วัน และเราก็แนบรูปหน้าร้านไปด้วย และเขียนอธิบายธุรกิจคร่าวๆใน SOP ของแม่เราค่ะ และแม่เราก็ยื่น Bank Statement จาก 2 ธนาคาร โดยมีเงินหมุนเวียนมากกว่าเรามากๆ

ทั้งเราและแม่ ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ถามเอกสารอะไรเพิ่มเติมเลยค่ะ



สุดท้ายนี้
เราไม่ค่อยได้ใช้ pantip เป็นประจำอาจจะตอบ inbox ช้าหน่อยนะคะ เรายินดีให้คำปรึกษาเบื้องต้นได้ หรือช่วยร่างเอกสารให้ได้ค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่