โปรโมชั่นมือถือจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ โปรหลักและโปรเสริม ทุกซิมจะมีโปรหลัก อัตราค่าบริการจะคิดตามโปรหลัก ถ้าไม่มีโปรเสริม
ตัวอย่างตามรูป
แบบเติมเงินถ้าไม่มีโปรเสริมจะเจออาการเน็ตรั่ว ซึ่งแพงมาก
ลองอ่านดูค่าบริการในกระทู้นี้
https://ppantip.com/topic/42583528 ** ข้อมูลอาจจะไม่อัพเดท สอบถามกับผู้ให้บริการอีกครั้งนะครับ ***
ส่วนใครไม่อยากเจอเน็ตรั่วลองอ่านกระทู้นี้
https://ppantip.com/topic/41942814
การขายโปรอินเตอร์เน็ตของเครือข่ายมือถือเท่าที่เห็นตอนนี้จะมีอยู่ 3 รูปแบบ
1. เน็ตแบบปริมาณ (GB) ตัวอย่าง 1GB ใช้ได้ 3 วัน (โปรมีอายุ 3 วัน ใช้เน็ตหมดก่อนครบ 3 วัน ก็ต้องซื้อใหม่ ใช้ไม่หมดระบบตัดทิ้งทันที) เมื่อใช้ครบ 1GB เน็ตจะเล่นไม่ได้หรือช้าลงขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแพคเกจ ความเร็วที่ได้จะเป็นความเร็วสูงสุดที่เครือข่ายและอุปกรณ์ที่ใช้งานทำได้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการดาวโหลดเร็วๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นที่การใช้งานด้วยครับ
2. เน็ตจำกัดปริมาณและจำกัดความเร็ว (GB+Mbps) ตัวอย่าง ความเร็ว 15Mbps ปริมาณ 30GB เดือนละ 200 บาท เมื่อใช้ครบ 30GB จะเล่นไม่ได้หรือช้าลงขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแพคเกจ
3. เน็ตแบบจำกัดความเร็ว (Mbps) ตัวอย่าง 20Mbps เดือนละ 200 บาท สามารถใช้งานได้ทั้งเดือนความเร็วตามแพคเกจ อาจจะโดนลดความเร็วลงบ้างในช่วง 17.00-23.00น. โดยผู้ให้บริการมักอ้างว่าเพื่อจัดการเครือข่ายให้มีประสิทธิภาพเหมาะสมกับผู้ใช้โดยรวม บลาๆ
และแบบสุดท้ายขอยกข้อความตามที่ คห.1 เพิ่มไว้
4.ไม่จำกัดทั้งปริมาณและความเร็ว (ไม่จำกัด GB และ Mbps) โปรฯ แนวนี้จะไม่มี FUP และไม่จำกัดช่วงเวลาการใช้งานครับ แต่มักมีข้อจำกัดว่าห้ามแชร์เน็ตไปยังอุปกรณ์อื่น ความเร็วที่ทดสอบได้จึงขึ้นอยู่กับ spec มือถือและความแรงของสัญญาณ
โปรโมชั่นจะมีอายุใช้งาน 3 เดือน 6 เดือน 12 เดือนบ้าง แล้วแต่ช่วง พอครบกำหนดก็อาจต้องหาโปรใหม่หรือทางค่ายอาจต่อโปรเดิมให้แล้วแต่การตลาดในตอนนั้น ถ้าได้โปรไม่ถูกใจก็ย้ายค่ายเบอร์เดิมวนไปครับ วิธีย้ายค่ายผมเคยเขียนไว้แล้วในกระทู้นี้
https://ppantip.com/topic/42245751
สำหรับคนที่ใช้งานเน็ตค่อนข้างเยอะ แต่ไม่ต้องการความเร็วมากแนะนำให้ใช้งานโปรในแบบความเร็วคงที่ เช่น 2Mbps เดือนละ 100 บาท 20Mbps 200 บาท ความเร็วที่เหมาะสมในการดูคลิปหรือยูทูปในระดับ HD (ความละเอียดสูง) จะอยู่ที่ 6Mbps ขึ้นไป
เน็ต 1GB สามารถดูยูทูป/ติ๊กตอก/เฟส ได้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับคุณภาพของวิดีโอ
สำหรับการใช้งานอินเตอร์เน็ตความเร็วขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ (มือถือ)และปัจจัยอื่นๆ เช่น
- ขึ้นอยู่กับมือถือรองรับความเร็วได้แค่ไหน
- ระยะห่างของ “จุดที่กำลังใช้บริการ “กับ “ จุดปล่อยสัญญาณ (สถานีฐาน)
- จำนวนของผู้ใช้งานในช่วงเวลานั้น
- เว็บเบราเซอร์ของผู้ให้บริการแต่ละราย (เช่น เว็บไซต์ของต่างประเทศอาจจะมีส่วนทำให้ช้าลง)
- การใช้บริการอยู่ในพื้นที่ๆ มีสิ่งกีดขวาง (เช่นอาคารหนาแน่น)
- แพคเกจที่ใช้งาน
ถ้าอยู่ในพื้นที่สัญญาณอ่อน ใช้โปรไหนก็ได้ความเร็วไม่ต่างกัน เพราะคุณภาพสัญญาณมันไม่ดี ลองทดสอบความเร็วของเครือข่ายโดยใช้แอป speed test
https://www.speedtest.net/ ก็จะรู้ว่า
ความเร็วของเครือข่ายทำได้ประมาณไหน
ส่วนเว็บนี้ไว้ดูว่าความเร็วมาตามโปรหรือไม่
https://fast.com/
แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าค่ายไหนสัญญาณดี ตอบแบบตรง ๆ คือ ต้องลองเองเท่านั้นถึงจะรู้เพราะมันมีหลายปัจจัยมาเกี่ยวข้องตามที่บอกข้างบน
ถ้าอยู่ต่างจังหวัดเสาไม่เยอะมาก จะดูง่ายหน่อย ก็สังเกตว่าเสาค่ายไหนอยู่ใกล้บ้านก็ซื้อซิมค่ายนั้นมาลองก่อน
หน้าตาเสาโทรศัพท์ก็ประมาณนี้ (ภาพประกอบจากเน็ต)
เขียนเท่าที่นึกออก เผื่อบางคนไม่เข้าใจว่าจะเลือกโปรแบบไหนในการใช้งานดี
ท่านใดอยากเพิ่มเติมอะไรก็คอมเม้นต์มาได้ครับ
ใช้โปรเน็ตแบบไหนดี มาดูกัน
ลองอ่านดูค่าบริการในกระทู้นี้ https://ppantip.com/topic/42583528 ** ข้อมูลอาจจะไม่อัพเดท สอบถามกับผู้ให้บริการอีกครั้งนะครับ ***
ส่วนใครไม่อยากเจอเน็ตรั่วลองอ่านกระทู้นี้ https://ppantip.com/topic/41942814
การขายโปรอินเตอร์เน็ตของเครือข่ายมือถือเท่าที่เห็นตอนนี้จะมีอยู่ 3 รูปแบบ
1. เน็ตแบบปริมาณ (GB) ตัวอย่าง 1GB ใช้ได้ 3 วัน (โปรมีอายุ 3 วัน ใช้เน็ตหมดก่อนครบ 3 วัน ก็ต้องซื้อใหม่ ใช้ไม่หมดระบบตัดทิ้งทันที) เมื่อใช้ครบ 1GB เน็ตจะเล่นไม่ได้หรือช้าลงขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแพคเกจ ความเร็วที่ได้จะเป็นความเร็วสูงสุดที่เครือข่ายและอุปกรณ์ที่ใช้งานทำได้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการดาวโหลดเร็วๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นที่การใช้งานด้วยครับ
2. เน็ตจำกัดปริมาณและจำกัดความเร็ว (GB+Mbps) ตัวอย่าง ความเร็ว 15Mbps ปริมาณ 30GB เดือนละ 200 บาท เมื่อใช้ครบ 30GB จะเล่นไม่ได้หรือช้าลงขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแพคเกจ
3. เน็ตแบบจำกัดความเร็ว (Mbps) ตัวอย่าง 20Mbps เดือนละ 200 บาท สามารถใช้งานได้ทั้งเดือนความเร็วตามแพคเกจ อาจจะโดนลดความเร็วลงบ้างในช่วง 17.00-23.00น. โดยผู้ให้บริการมักอ้างว่าเพื่อจัดการเครือข่ายให้มีประสิทธิภาพเหมาะสมกับผู้ใช้โดยรวม บลาๆ
และแบบสุดท้ายขอยกข้อความตามที่ คห.1 เพิ่มไว้
4.ไม่จำกัดทั้งปริมาณและความเร็ว (ไม่จำกัด GB และ Mbps) โปรฯ แนวนี้จะไม่มี FUP และไม่จำกัดช่วงเวลาการใช้งานครับ แต่มักมีข้อจำกัดว่าห้ามแชร์เน็ตไปยังอุปกรณ์อื่น ความเร็วที่ทดสอบได้จึงขึ้นอยู่กับ spec มือถือและความแรงของสัญญาณ
โปรโมชั่นจะมีอายุใช้งาน 3 เดือน 6 เดือน 12 เดือนบ้าง แล้วแต่ช่วง พอครบกำหนดก็อาจต้องหาโปรใหม่หรือทางค่ายอาจต่อโปรเดิมให้แล้วแต่การตลาดในตอนนั้น ถ้าได้โปรไม่ถูกใจก็ย้ายค่ายเบอร์เดิมวนไปครับ วิธีย้ายค่ายผมเคยเขียนไว้แล้วในกระทู้นี้ https://ppantip.com/topic/42245751
สำหรับคนที่ใช้งานเน็ตค่อนข้างเยอะ แต่ไม่ต้องการความเร็วมากแนะนำให้ใช้งานโปรในแบบความเร็วคงที่ เช่น 2Mbps เดือนละ 100 บาท 20Mbps 200 บาท ความเร็วที่เหมาะสมในการดูคลิปหรือยูทูปในระดับ HD (ความละเอียดสูง) จะอยู่ที่ 6Mbps ขึ้นไป
เน็ต 1GB สามารถดูยูทูป/ติ๊กตอก/เฟส ได้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับคุณภาพของวิดีโอ
สำหรับการใช้งานอินเตอร์เน็ตความเร็วขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ (มือถือ)และปัจจัยอื่นๆ เช่น
- ขึ้นอยู่กับมือถือรองรับความเร็วได้แค่ไหน
- ระยะห่างของ “จุดที่กำลังใช้บริการ “กับ “ จุดปล่อยสัญญาณ (สถานีฐาน)
- จำนวนของผู้ใช้งานในช่วงเวลานั้น
- เว็บเบราเซอร์ของผู้ให้บริการแต่ละราย (เช่น เว็บไซต์ของต่างประเทศอาจจะมีส่วนทำให้ช้าลง)
- การใช้บริการอยู่ในพื้นที่ๆ มีสิ่งกีดขวาง (เช่นอาคารหนาแน่น)
- แพคเกจที่ใช้งาน
ถ้าอยู่ในพื้นที่สัญญาณอ่อน ใช้โปรไหนก็ได้ความเร็วไม่ต่างกัน เพราะคุณภาพสัญญาณมันไม่ดี ลองทดสอบความเร็วของเครือข่ายโดยใช้แอป speed test https://www.speedtest.net/ ก็จะรู้ว่าความเร็วของเครือข่ายทำได้ประมาณไหน
ส่วนเว็บนี้ไว้ดูว่าความเร็วมาตามโปรหรือไม่ https://fast.com/
แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าค่ายไหนสัญญาณดี ตอบแบบตรง ๆ คือ ต้องลองเองเท่านั้นถึงจะรู้เพราะมันมีหลายปัจจัยมาเกี่ยวข้องตามที่บอกข้างบน
ถ้าอยู่ต่างจังหวัดเสาไม่เยอะมาก จะดูง่ายหน่อย ก็สังเกตว่าเสาค่ายไหนอยู่ใกล้บ้านก็ซื้อซิมค่ายนั้นมาลองก่อน
ท่านใดอยากเพิ่มเติมอะไรก็คอมเม้นต์มาได้ครับ