หลังจากที่ผมขายเจ้า FTBn ไป ผมก็เหลือกล้องฟิล์มแค่เจ้า Canonet และ Ricohflex ตอนนั้นผมเล็งกล้อง Rangfinder รัสเซียอย่างพวก Zorki หรือ Fed แต่ถึงแบบนั้นผมก็ยังทำใจกับอาการ Parallax ไม่ได้ คือตั้งใจจะถ่ายจุดนี้จุดเดียวแต่ดั้นถ่ายติดสิ่งไม่พึงประสงค์มาด้วยซะงั้น บวกกับผมอยากได้กล้องฟิล์มอะไรสักอย่างที่ถ่ายได้ง่ายและได้ภาพคม อย่างน้อยก็ต้องคมกว่า Canonet และผมก็รีเสิร์ชเจอกล้องตัวนึงที่เป็น SLR ยุคต้น 90 สามารถใช้เลนส์บางตัวร่วมกับกล้องดิจิตอลได้ มีความสามารถรอบตัว แถมชื่อยังใกล้เคียงกับ 650D ดิจิตอลคู่มือของผมด้วย กล้องตัวนั้นคือ canon EOS 650 



    ผมได้กล้องตัวนี้มาในราคาที่ค่อนข้างถูก จากการเอาเลนส์ FD 50 f1.4 ไปเทิร์น ได้มาพร้อมกับเลนส์ EF 28-80 f3.5-5.6 เป็นเลนส์ซูมมาตรฐาน



    หลังจากได้มาไม่นาน ผมก็จับยัดฟิล์มไปลองถ่ายก่อนเลย แรกเริ่มก็ลองถ่ายด้วยฟิล์มหนัง 250D



    รูปแรกของผมจากกล้องตัวนี้ ช่อดอกคูณสายรุ้งในบ้านผมนี่เอง ชุดสุดท้ายของปีนี้



    กับดอกอะไรสักอย่างอยู่หลังบ้าน



    ที่ทำงานใครไม่รู้ แถว ๆ นี้แหละ



    ยามบ่ายหลังเลิกงาน ไปเดินถ่ายรูปที่ตลาดบางคุลัดซะหน่อย



    แมวส้ม ๆ



    ขับมอไซคค์ออกมาจากตลาด ผ่านทาง 3 แยกหลังวัดต้นเชือก มีนาบัวอยู่ตรงนั้น แวะซะหน่อย



    จับยัดเลนส์ซูมระยะไกลที่ใช้ด้วยกันได้ เป็น EF 75-300 f4-5.6



    ฟิล์มม้วนที่ 2 ก็ยังเป็น 250D อยู่ 



    แวะเอาฟิล์มไปล้าง พี่ที่ร้านแนะนำว่ากล้องฟิล์มที่มีระบบขึ้นฟิล์มอัตโนมัติหรือ Auto Rewind ไม่เหมาะกับฟิล์มหนัง เพราะฟิล์มหนังแผ่นหนากว่าฟิล์มธรรมดา เดี๋ยวระบบจะพังเอา ผมก็เลยจะถ่ายม้วนนี้ให้หมด แล้วหลังจากนี้ก็จะใช้ฟิล์มสี โชคคดีที่ตอนนี้ฟิล์มสีราคาเริ่มลงมาแล้ว



    จัดสุกี้ซะหน่อย



    กลับมาจัดกาแฟในร้านแถวบ้าน รูปสุดท้ายจากฟิล์ม 250D 



    จับยัด Ultramax 400 ได้เวลาลองฟิล์มสีแล้ว



    ริมน้ำล้ง 1919 



    บัวบาน บานจนจะร่วงแล้ว



    พามา Icon Siam ซะหน่อย ครั้งแรกของผมเลยนะ กับไอค่อนสยาม



    ตรงข้ามเป็นสถานทูตโปรตุเกส



    มีนิทรรศการของอาร์ทติสจีนอยู่ข้างล่าง งานเขาผมชอบนะ เป็นงานที่ดูง่าย ไม่ต้องคิดเยอะ เห็นแล้วยิ้ม เพราะขนาดแม่ผมที่ไม่อินอะไรกับงานอาร์ท ดูแล้วยังยิ้มได้



    นั่งเรือข้ามมา Asiatique นี่ก็ครั้งแรกของผมอีกเหมือนกัน ธรรมดาไปแต่ท้องนา วันนี้เดินเล่นในกรุงเทพฯ บ้าง



    เอา 2 โลครับลุง



    เบอร์เกอร์เนื้อ อาหย่อย 



    พาเข้าวัดเข้าวาซะหน่อย



    บัวขาวคู่



    คราวนี้เปลี่ยนมาเป็น Colorplus 200 บ้าง กับวันตักบาตรเทโว



    เดินกลับมาฝั่งบ้านยาย ถ้าไม่มีท่อน้ำรูปน่าจะดูดีกว่านี้นะ



    ไปไหว้พระวัดไร่ขิง ผ่านร้านกาแฟน่านั่ง แวะสิครับ ผมยกให้รูปชุดนี้เป็นรูปที่ดีที่สุดจากกล้องตัวนี้ จากฟิล์ม Gold 200



    แสงสวยมากวันนั้น



    ผีเสื้อตัวน้อย



    นุ่ม ๆ ฟู ๆ กลางแจ้ง



    ชบาแดงแจ๋



    บัวเผื่อสีม่วง ๆ



    สะพานพระราม 8 วันเมฆสวย



    คราวนี้มาลองใช้ฟิล์ม Lomography 100 ดูบ้าง



    มุมโดดเดี่ยว



    พวงทองกลางแดด



    ต่อด้วยลีลาวดี



    ไปเยาวราชกันหน่อย



    จากเยาวราช ก็มาต่อกันที่หัวลำโพง



    หลังจากนั้น ผมก็สอยเลนส์ EF 50 f1.8 ก่ะจะมาไว้ใช้ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอโดยเฉพาะ



    ยิ่งได้ฮูดเหลี่ยมมาใส่ได้ด้วย อย่างเจ๋ง 



    รูปแรกด้วยฟิล์มจากเลนส์ตัวนี้ พวงครามในบ้าน ครามตรงไหม ม่วงชัด ๆ



    พาออกภาคสนามซะหน่อย จะเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจาก ท้องนาบางเลน



    ยงโย่ยงหยกเล็งอยู่ตั้งนานกว่าจะได้รูปนี้



    ทดแสงลง 1.5 สต็อป



    ริมน้ำลำพญา



    และมาต่อกันที่ร้านกาแฟร้านประจำย่านนครชัยศรี



    ที่ริมทางรถไฟงิ้วราย



    รูปล่าสุดจากล้องตัวนี้

    นั่นแหละครับคือทั้งหมดจากกล้องฟิล์มตัวล่าสุดของผม ผมยกให้เขาเป็นกล้องฟิล์มที่ดีที่สุดที่ผมมี ดีในการใช้งานนะ ไม่ได้ดีในการพกพา เพราะเอาจริง ๆ ตัวเขาใหญ่และหนักกว่า 650D ที่เป็นดิจิตอลซะอีก แต่ถึงแบบนั้น รูปแบบการใช้งานและการคำนวนวัดแสงของตัวกล้อง มันใกล้เคียงกับกล้องดิจิตอลมาก ใช้ง่ายในโหมด P หรือถ้าใช้วิธีของผม ผมใช้ TV บวกกับการชดเชยแสง TV หรือ Time Valuable ก็คือ Shutter Priority นั่นแหละครับ วิธีเดียวกันกับที่ผมใช้กับเจ้า Canonet ข้อเสียของเขามี 2 อย่างก็คือ การที่เขาเป็นกล้องไฟฟ้าเต็มระบบ และการที่เขาไม่เหมาะกับฟิล์มหนัง แต่ผมก็ใช้วิธีแก้ปัญหาง่าย ๆ ก็คือเอาถ่านสำรองไปด้วย และใช้ฟิล์มสี ซึ่ง พอผมมาคำนวนดูแล้ว ราคาฟิล์มสีที่ผมหาได้ตอนนี้อาจแพงก็จริง แต่ราคาค่าล้างมันถูก พอรวมกันแล้ว ค่าใช้จ่ายก็พอ ๆ กันกับราคาฟิล์มหนังบวกกับค่าล้างพอดี ฟิล์มหนังนั้น ถึงราคาจะถูกแต่ค่าล้างจะแอบแพงกว่าเพราะการล้างจะยุ่งยากและใช้เวลามากกว่า



    และนั่นก็คือทั้งหมดจาก canon EOS 650 กล้องฟิล์มที่ดีที่สุดที่ผมมีครับ

    ก่อนจากกัน ผมมีอะไรตลก ๆ มาเล่าให้ฟังครับ หลังจากที่ได้ 650 มา ผมก็โหยหาครับ คือเขาถ่ายง่าย ง่ายเกินไป พอมันไม่มีการขึ้นฟิล์มแล้ว มันโหวง ๆ ยังไงชอบกล ผมก็เลยกลืนน้ำลายตัวเองโดยการซื้อ Canon FTB คืนครับ เพราะถึงจะใช้ไม่เข้ามือมากนัก แต่มันกล้องที่ถ่ายสนุกมาก ได้ขึ้นฟิล์ม ได้หมุน F ได้หมุนสปีดเอง แถมเสียงกล้องยังดังสะใจโจ๋มาก แต่สงสัย นี่จะเป็นอาถรรพ์กล้องตัวที่ 13 (เพราะตัวนี้ตัวที่ 13 พอดี) เพราะว่า ในการกดสั่งซื้อครั้งแรกจากในอินเตอร์เน็ต บริษัทขนส่งเขาไม่มาส่งให้ผมซะทีครับ บริษัทขนส่งเจ้านี้ผมเคยโดนเขากินตังค์ฟรี ๆ ด้วยจากการซื้อหูฟัง เพิ่งจะได้ตังค์คืนไม่นานมานี้เอง และเมื่อการจัดส่งไม่สำเร็จในครั้งที่ 2 ผมตัดสินใจแคนเซิล ชิงยกเลิกการสั่งซื้อซะเลย แต่ถึงแบบนั้นผมก็ยังคงรู้สึกโหยหา ก็เลยกดสั่งซื้อกล้องตัวนี้จากอีกร้านหนึ่ง ร้านนี้อยู่เชียงใหม่ (พอบอกแบบนี้ ผมว่าหลาย ๆ ท่านน่าจะรู้แล้วนะครับว่าร้านไหน) FTBn ตัวแรกของผมก็มาจากร้านนี้แหละครับ ซึ่งได้มาสภาพก็ไม่ค่อยดี เลนส์ขอบบุบอีกตังหาก ก็เลยเอาไป CLA และซื้อเลนส์ใหม่ ก่อนที่จะขายออกไปตามที่เคยเล่าให้ฟังน่ะนะครับ คราวนี้ก่อนกดสั่งซื้อผมก็ถามร้านเขาตรง ๆ ว่าตัวนี้สภาพดีใช่ไหม เต็มระบบแน่นะ แล้วผมก็เฝ้ารอ ด้วยความที่ตอนนี้ใกล้ปีใหม่ ขนส่งของเยอะ ส่งไม่ทัน ผมก็ลงทุนไปรับเองเลยเพราะ DC เขาอยู่ใกล้ ๆ บ้าน ปรากฏว่า พอแกะกล่องออกมา นี่คือสภาพที่ผมได้ครับ







    ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเละแบบนี้จากขนส่งหรืออะไร เพราะแม้กระทั่งเลนส์ ผมกดสั่งซื้อตัวเลนส์หน้าเงิน แต่ผมกลับได้เลนส์หน้าดำ แถมดูช่องวิวไฟน์เดอร์สิ





    ได้ของมาบ่ายวันนั้น ผมแพ็กกลับลงกล่อง แล้วส่งคืนทันที หลังจากนี้ผมคงจะซื้อกล้องจากหน้าร้านอย่างเดียวละครับ ถึงจะแพงกว่าแต่อย่างน้อยก็สบายใจกว่าเยอะ ซึ่งตอนนี้ผมก็เล็ง FTBn จากร้าน ๆ นึงในเมกะพลาซ่าอยู่ ไว้ได้ตังค์แล้วค่อยว่ากัน

    และนั่นแหละครับคือทั้งหมดของกระทู้นี้ แล้วพบกันครั้งหน้า สวัสดีครับ