ลูกเพิ่งหายจากโควิดแต่ต้องกลับบ้านสามีแล้วเรากลัวเสี่ยงต่อการติดอีกทำไงดีคะ?

เคยตั้งกระทู้แล้วค่ะรอบนึงที่บอกไม่อยากกลับบ้านสามีเพราะญาติเขา พาน้องกลับตั้งแต่แรกเกิดจนตอนนี้น้อง8เดือนละ ต้องได้พากลับตลอดทุกๆ2อาทิตย์ ให้สามีกลับคนเดียวนางก็ไม่อยากกลับ ไอ้เราก็เหนื่อยมากเพราะต้องเลี้ยงลูกคนเดียวทำทุกอย่างคนเดียวเพราะวันปกติสามีทำงาน กลับแต่ละรอบแม่ย่าก็จะพาหลานเลาะตามบ้านญาติตัวเอง ที่เราไม่โอเคคือใครขออุ้มก็ให้อุ้ม มือก็ไม่ได้ล้าง มาหอมแก้มลูกเราอีก ไปหาญาติที่เขาไออยู่ ผลสุดท้ายหลังจากกลับมาจากบ้านสามีไม่กี่วันลูกติดโควิดไข้สูงถึง40 ทรมานมากๆใช้เวลาหลายวันกว่าจะหายก็ไม่พ้นพ่อแม่ดูแลเวลาเจ็บป่วยมากอดหลับอดนอนไปเลย2อาทิตย์ ขนาดหายภูมิลูกก็ยังไม่เหมือนเดิม พอเราบอกทางครอบครัวสามีว่าหลานติดโควิดเขาก็บอกว่าไม่ได้พาไปเลาะใกล้คนป่วยนะ เห้อเราจะพูดไงดีแค่ไอก็เข้าใกล้ไม่ได้แล้วปะ บางคนเป็นโควิดมันไม่แสดงอาการก็มี ถ้าถามว่าทำไมไม่ปกป้องลูกละ ตอนนั้นเราไลฟ์ทำงานอยู่ ก็ฝากลูกไว้กับพ่อเขา พอทำงานเสร็จออกมาไม่เจอน้อง แม่ย่าพาเลาะไปที่อื่น เราก็โครตไม่โอเค ทั้งๆที่เคยคุยกับสามีไปแล้ว เขาไม่ปกป้องอะไรลูกเลย ญาติมือไม่ล้างก็ให้เขาอุ้ม พอลูกเราติดโควิดบอกทางครอบครัวสามีก็บอกมันก็เหมือนไข้หวัดธรรมดาแหละ โถ่วงงความคิดสุดๆขนาดผู้ใหญ่เป็นยังเกือบตาย หลังจากลูกติดเราให้แม่และยายเราที่อยู่บ้านไปตรวจATKทันที เพราะเรากับสามีตรวจแล้วไม่พบเชื้อ พอแม่และยายเราตรวจเขาก็ไม่พบเชื้อ ปกติถ้าเราเลี้ยงลูกอยู่บ้านคืออนามัยสุดๆไม่พาลูกไปไหนเพราะรู้ภูมิเขายังต่ำ แต่กลับไปบ้านสามีทีไรคนละเรื่องกันเลย พอบอกว่าครอบครัวเราไม่มีใครติด แม่ย่าก็บอกฝั่งเขาก็ไม่มีใครติด แต่ถามว่าตรวจATKรึยังก็ยังไม่ตรวจแต่บอกว่าไม่มีใครติด55555 งงมาก แล้วตอนนี้เขาก็อยากให้หลานเขากลับไปบ้านเขา แม่หนักใจจริงๆจะจัดการยังไง ปีใหม่นี้ญาติเขากลับมาจากกทม.5-6คนเลย ก็ต้องมาอุ้มน้องอีก จะมีวิธีไหนให้เขาตรวจATKก่อนมาอุ้มดี ยังไม่รวมญาติที่บ้านสามีอีกนับ10กว่าคนที่ต้องมา แม่ย่าก็ต้องพาเลาะอยู่ดี เพราะเขาบอกก็เหมือนไข้หวัดธรรมดา5555 ญาติเขาก็ทำพฤติกรรรมเดิมๆอุ้มไม่ล้างมือ หอมลูกเรา จับมือน้อง เราบอกไป100ครั้งละ เขาก็ไม่ฟัง เหมือนเดิม ส่งข้อมูลเกี่ยวกับโควิดให้พ่อแม่สามีดูเขาก็ทำเฉย เราจะทำไงดีคะ ที่จะบอกเขาแบบไม่น่าเกียจ คือเราเป็นห่วงลูกเรา เพราะเวลาป่วยมาก็ไม่พ้นคนเป็นแม่อยู่ดี เหนื่อยใจมากค่ะ กลัวลูกเราเสี่ยงติดอีก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่