1. ใช้งานนักศึกษาฝึกงานแบบพนักงานประจำ โดยให้มาทำงานทดแทนในตำแหน่งงานที่พนักงาน เดิมลาออกไป โดยไม่มีการสอนงาน จะมีเพียงพนักงานมาบอก ๆ สั่ง ๆ ให้ทำงานตามที่บอกให้เสร็จ เท่านั้น เรียกว่าใช้งานนักศึกษาเหมือนพนักงานประจำ
2. ยิ่งกว่านั้นบางองค์กรก็ให้นักศึกษาทำงานล่วงเวลา คือทำางานให้เสร็จตามที่สั่งโดยไม่มีค่าล่วง เวลา ค่าพาหนะให้ เรื่องการให้นักศึกษาฝึกงานทำงานล่วงเวลานี้ผมเคยเขียนบทความไว้ก่อนหน้านี้ แล้วครับ ไปค้นดูในกูเกิลได้
3. ไม่จ่ายค่าฝึกงานให้นักศึกษาฝึกงานแม้แต่บาทเดียว เพราะถือว่าบริษัทมีบุญคุณกับนักศึกษา บริษัทฝึกงานให้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว ถ้าบริษัทประเมินผลการฝึกงานให้ไม่ดี นักศึกษาก็ไม่จบการศึกษา บุญคุณล้นเหลือเลยนะเนีย
4. ไม่มีการประกันอุบัติเหตุจากการฝึกงาน
5. ให้นักศึกษาฝึกงานเข้าท่างานเวรดึก เช่น เข้างาน 4 ทุ่มถึงเช้า โดยอ้างว่าเพื่อให้นักศึกษาฝึกงาน ได้เรียนรู้ชีวิตการทางานจริง ทั้ง ๆ ที่จัดให้นักศึกษาฝึกงานเข้างานตอนกลางวันตามปกติก็ได้แต่ก็ ไม่ท่า เพราะพนักงานที่ต้องเข้ากะดึกลาออกจึงต้องให้นักศึกษามาทำงานแทน
6. บางบริษัทให้จัดพี่เลี้ยง แต่ไม่เคยมีการฝึกเทรนพี่เลี้ยงให้รู้ว่าจะต้องสอนงานอะไรให้กับนักศึกษา ฝึกงานบ้าง ซึ่งพี่เลี้ยงจําเป็น (และล่าใจเนื่องจากหัวหน้าสั่งว่าต้องเป็นพี่เลี้ยง) เหล่านี้ก็ไม่รู้ว่าจะ สอนงานอะไรให้กับนักศึกษา (เพราะไม่มีแผนการสอนงานมาก่อน) ก็เลยทางานของตัวเองเสียเป็น ส่วนใหญ่ อาจจะเดินมาบอก ๆ สัง ๆ เอางานอะไรมาให้นักศึกษาฝึกงานท่าบ้างเป็นครั้งคราว พอนักศึกษาฝึกงานท่างานเสร็จตามสั่ง ไม่รู้จะให้ท่าอะไร ก็ให้นักศึกษาฝึกงานนั่งเฝ้าโต๊ะเป็น desk manager ทําให้นักศึกษาฝึกงานได้งีบหลับชาร์จพลังตอนบ่าย ๆ เป็นประจํา หรือไม่เช่นนั้นก็ไถเฟ ซบุ๊ก ไถไลน์ไปเพลิน ๆ จนกว่าจะถึงเวลาเลิกงาน
7. จากข้อ 5. นอกจากให้นักศึกษาเป็น desk manager แล้วยังตั้งให้เป็น xerox manager คือให้ คอยวิ่งถ่ายเอกสาร หรือเป็น pantry manager คือมีหน้าที่คอยชงกาแฟ และล้างแก้วกาแฟเพิ่มอีก ตำแหน่งหนึ่งด้วย
ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นมานะครับ แต่เป็นเรื่องที่เกิดมานมนานหลาย 10 ปี แล้ว จนกระทั่งถึงวันนี้ก็ยังอยู่ในวงจรแบบนี้อยู่ และไม่มีกฎหมายใดที่คุ้มครองการเอาเปรียบ นักศึกษาฝึกงานที่ชัดเจน จึงเป็นช่องโหว่ที่ทำให้เกิดการเอาเปรียบแรงงานกับนักศึกษาฝึกงาน เลยอยากจะเสนอแนะว่าถ้าบริษัทไหนไม่มีแผนในการฝึกงานให้ชัดเจน, ไม่มีพี่เลี้ยงที่มีทักษะใน การสอนงานที่จะคอยสอนงานให้กับน้อง ๆ นักศึกษา, รับนักศึกษามา แต่ไม่ได้ฝึกงานให้จริง ๆ แต่ กลับให้มานั่งว่าง ๆ ไปวัน ๆ, ไม่จ่ายค่าฝึกงานให้กับนักศึกษาฝึกงาน หรือบริษัทที่คิดจะน่าเอา นักศึกษาฝึกงานมาใช้แรงงานฟรี ๆ เพื่อทดแทนพนักงานที่ขาด ฯลฯ อย่าทำบาปให้กับอนาคตของชาติด้วยการรับนักศึกษาเข้ามาฝึกงานเลยนะครับ ! อยากให้ผู้บริหารของบริษัทเหล่านี้คิดดูสักนิดนึงว่าถ้าเรามีลูกมีหลานแล้วลูกหลานของเราได้รับการ ฝึกงานแบบเอาเปรียบแรงงานอย่างที่ผมบอกมาข้างต้นเราจะรู้สึกอย่างไร และถ้าเราเป็นนักศึกษาฝึกงานที่ถูกกระทาแบบนี้เราจะรู้สึกอย่างไร ?
ใจเขาใจเรานะครับ ผมก็ไม่รู้ว่าถ้าผู้บริหารขององค์กรที่ไม่มีแผนการฝึกงาน หรือที่ยังเอาเปรียบแรงงานจากช่องโหว่ใน เรื่องนี้ ได้อ่านเรื่องนี้แล้วจะคิดแก้ไขปรับเปลี่ยนการฝึกงานให้ดีขึ้นบ้างหรือไม่ แต่อย่างน้อยผมก็ได้ เป็นส่วนหนึ่งที่น่าเรื่องที่ถูกซุกเอาไว้ใต้พรมที่ไม่มีใครรับเป็นเจ้าภาพดูแลมาเล่าสู่กันฟังในสื่อ สาธารณะอย่างงี้แหละครับ และสำหรับสถาบันการศึกษาควรจะมี blacklist องค์กรที่เอาเปรียบแรงงานโดยใช้ให้นักศึกษา ฝึกงานทํางานทดแทนพนักงานประจํา หรือให้นักศึกษาฝึกงานทํางานล่วงเวลาเอาไว้ด้วย ถ้าองค์กรไหนไม่มีระบบ และแผนการฝึกงานที่ชัดเจนแล้ว ทางสถาบันการศึกษาก็อย่าส่งนักศึกษา ไปฝึกงานกับองค์กรที่ขาดจริยธรรมเหล่านี้เพื่อให้เขาเอาเปรียบลูกหลานของเราอีกต่อไปเลย นะครับ
ปัญหาการฝึกงานของนักศึกษา สำหรับบริษัทเเละองค์กร
2. ยิ่งกว่านั้นบางองค์กรก็ให้นักศึกษาทำงานล่วงเวลา คือทำางานให้เสร็จตามที่สั่งโดยไม่มีค่าล่วง เวลา ค่าพาหนะให้ เรื่องการให้นักศึกษาฝึกงานทำงานล่วงเวลานี้ผมเคยเขียนบทความไว้ก่อนหน้านี้ แล้วครับ ไปค้นดูในกูเกิลได้
3. ไม่จ่ายค่าฝึกงานให้นักศึกษาฝึกงานแม้แต่บาทเดียว เพราะถือว่าบริษัทมีบุญคุณกับนักศึกษา บริษัทฝึกงานให้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว ถ้าบริษัทประเมินผลการฝึกงานให้ไม่ดี นักศึกษาก็ไม่จบการศึกษา บุญคุณล้นเหลือเลยนะเนีย
4. ไม่มีการประกันอุบัติเหตุจากการฝึกงาน
5. ให้นักศึกษาฝึกงานเข้าท่างานเวรดึก เช่น เข้างาน 4 ทุ่มถึงเช้า โดยอ้างว่าเพื่อให้นักศึกษาฝึกงาน ได้เรียนรู้ชีวิตการทางานจริง ทั้ง ๆ ที่จัดให้นักศึกษาฝึกงานเข้างานตอนกลางวันตามปกติก็ได้แต่ก็ ไม่ท่า เพราะพนักงานที่ต้องเข้ากะดึกลาออกจึงต้องให้นักศึกษามาทำงานแทน
6. บางบริษัทให้จัดพี่เลี้ยง แต่ไม่เคยมีการฝึกเทรนพี่เลี้ยงให้รู้ว่าจะต้องสอนงานอะไรให้กับนักศึกษา ฝึกงานบ้าง ซึ่งพี่เลี้ยงจําเป็น (และล่าใจเนื่องจากหัวหน้าสั่งว่าต้องเป็นพี่เลี้ยง) เหล่านี้ก็ไม่รู้ว่าจะ สอนงานอะไรให้กับนักศึกษา (เพราะไม่มีแผนการสอนงานมาก่อน) ก็เลยทางานของตัวเองเสียเป็น ส่วนใหญ่ อาจจะเดินมาบอก ๆ สัง ๆ เอางานอะไรมาให้นักศึกษาฝึกงานท่าบ้างเป็นครั้งคราว พอนักศึกษาฝึกงานท่างานเสร็จตามสั่ง ไม่รู้จะให้ท่าอะไร ก็ให้นักศึกษาฝึกงานนั่งเฝ้าโต๊ะเป็น desk manager ทําให้นักศึกษาฝึกงานได้งีบหลับชาร์จพลังตอนบ่าย ๆ เป็นประจํา หรือไม่เช่นนั้นก็ไถเฟ ซบุ๊ก ไถไลน์ไปเพลิน ๆ จนกว่าจะถึงเวลาเลิกงาน
7. จากข้อ 5. นอกจากให้นักศึกษาเป็น desk manager แล้วยังตั้งให้เป็น xerox manager คือให้ คอยวิ่งถ่ายเอกสาร หรือเป็น pantry manager คือมีหน้าที่คอยชงกาแฟ และล้างแก้วกาแฟเพิ่มอีก ตำแหน่งหนึ่งด้วย
ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นมานะครับ แต่เป็นเรื่องที่เกิดมานมนานหลาย 10 ปี แล้ว จนกระทั่งถึงวันนี้ก็ยังอยู่ในวงจรแบบนี้อยู่ และไม่มีกฎหมายใดที่คุ้มครองการเอาเปรียบ นักศึกษาฝึกงานที่ชัดเจน จึงเป็นช่องโหว่ที่ทำให้เกิดการเอาเปรียบแรงงานกับนักศึกษาฝึกงาน เลยอยากจะเสนอแนะว่าถ้าบริษัทไหนไม่มีแผนในการฝึกงานให้ชัดเจน, ไม่มีพี่เลี้ยงที่มีทักษะใน การสอนงานที่จะคอยสอนงานให้กับน้อง ๆ นักศึกษา, รับนักศึกษามา แต่ไม่ได้ฝึกงานให้จริง ๆ แต่ กลับให้มานั่งว่าง ๆ ไปวัน ๆ, ไม่จ่ายค่าฝึกงานให้กับนักศึกษาฝึกงาน หรือบริษัทที่คิดจะน่าเอา นักศึกษาฝึกงานมาใช้แรงงานฟรี ๆ เพื่อทดแทนพนักงานที่ขาด ฯลฯ อย่าทำบาปให้กับอนาคตของชาติด้วยการรับนักศึกษาเข้ามาฝึกงานเลยนะครับ ! อยากให้ผู้บริหารของบริษัทเหล่านี้คิดดูสักนิดนึงว่าถ้าเรามีลูกมีหลานแล้วลูกหลานของเราได้รับการ ฝึกงานแบบเอาเปรียบแรงงานอย่างที่ผมบอกมาข้างต้นเราจะรู้สึกอย่างไร และถ้าเราเป็นนักศึกษาฝึกงานที่ถูกกระทาแบบนี้เราจะรู้สึกอย่างไร ?
ใจเขาใจเรานะครับ ผมก็ไม่รู้ว่าถ้าผู้บริหารขององค์กรที่ไม่มีแผนการฝึกงาน หรือที่ยังเอาเปรียบแรงงานจากช่องโหว่ใน เรื่องนี้ ได้อ่านเรื่องนี้แล้วจะคิดแก้ไขปรับเปลี่ยนการฝึกงานให้ดีขึ้นบ้างหรือไม่ แต่อย่างน้อยผมก็ได้ เป็นส่วนหนึ่งที่น่าเรื่องที่ถูกซุกเอาไว้ใต้พรมที่ไม่มีใครรับเป็นเจ้าภาพดูแลมาเล่าสู่กันฟังในสื่อ สาธารณะอย่างงี้แหละครับ และสำหรับสถาบันการศึกษาควรจะมี blacklist องค์กรที่เอาเปรียบแรงงานโดยใช้ให้นักศึกษา ฝึกงานทํางานทดแทนพนักงานประจํา หรือให้นักศึกษาฝึกงานทํางานล่วงเวลาเอาไว้ด้วย ถ้าองค์กรไหนไม่มีระบบ และแผนการฝึกงานที่ชัดเจนแล้ว ทางสถาบันการศึกษาก็อย่าส่งนักศึกษา ไปฝึกงานกับองค์กรที่ขาดจริยธรรมเหล่านี้เพื่อให้เขาเอาเปรียบลูกหลานของเราอีกต่อไปเลย นะครับ