คำว่า "ชีวิต" ในนิยามของคนเราก็แตกต่างกัน แต่นี่คือนิยาม และมุมมองของผม
โลกเราทุกวันนี้ ไม่มีใครสนใจคนที่ไร้ผลประโยชน์ ใครที่อ่อนแอ ก็แค่ตายไป โลกก็ยังหมุ่นต่อไป และไม่มีใครสนใจเรื่องของใครจริงๆ เว้นแต่เรื่องของคนที่มีชื่อเสียง ซึ่งการจะมีตัวตนมันก็ไม่ยากไม่ง่าย เพียงแค่ติดเทรนด์โซเชียล ไม่ว่าใครก็มีตัวตนได้ แต่อย่าลืมว่า มีดังได้ ก็ดับได้เช่นกัน ท้ายที่สุดสำหรับผม การจะหลุดจากวงจรอุบาทว์นี้ได้ ไม่ใช่การตาย แต่เป็นการหาสถานที่ที่อยู่แล้วมีความสุข เช่นที่ที่อยู่แล้วรู้สึกเหมือนบ้าน เหมือนที่พักใจ หรือแม้แต่ที่ทำงานที่ใช่ กับสิ่งเล็กๆที่ทำแล้วมีความสุขโดยไม่เดือดร้อนตัวเอง และผู้อื่น ชีวิตมันก็แค่นี้ แค่ต้องตามหาจุดที่ลงตัวที่ทำให้คุณสงบนิ่ง ไม่ทรมานกับการไหลไปตามกระแส แต่ยังก้าวต่อในการใช้ชีวิต ไม่ใช่ชีวิตที่ต้องได้ต้องมี กับการพิชิตที่ไม่จบสิ้น เงิน, สิ่งของ ตายไปก็เอาไปไม่ได้ ชื่อเสียง ตายไปคนก็ลืม สิ่งที่จริงที่สุด คืออยู่กับความจริง แค่ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร สนแค่ตัวเอง กับคนที่รักเราก็พอ ชีวิตทุกวันนี้ก็เหนื่อยมากพอแล้ว...
ใจความทั้งหมดนี้ ผมแค่จะมาแชร์มุมมองของ นิยามชีวิต จากคนธรรมดาคนนึง ที่อาจจะเป็นมุมมองดีๆให้ใครหลายๆคน สิ่งที่ผมจะบอกก็คือ ถ้าชีวิตมันใจร้ายกับคุณมามากพอแล้ว คุณก็อย่าใจร้ายกับตัวเอง ปล่อยวาง ถ้ามันถือแล้วหนัก เป้าหมายชีวิตหรอ เรียนจบสูง, เป็นเจ้าของธุรกิจ, ออกรถหรู, ใช้ของแพง, ถ้าเป้าหมายเหล่านี้มันใจร้ายกับคุณ คุณก็ควรใจดีกับตัวเอง หาจุดที่ลงตัวให้ตัวเอง ถ้าให้ผมเลือก เป็นเจ้าของธุรกิจแล้ว 60%+ ของชีวิตคือความทุกข์ กินไม่ได้นอนไม่หลับ แต่รวย กับขายลูกชิ้นที่มีเงินพอใช้ชีวิต กินได้นอนหลับ ไม่อดอยาก ส่งลูกเรียนจบ ผมว่าผมเลือกขายลูกชิ้นดีกว่า "หวังว่าคนที่อ่านบทความนี้ จะได้สิ่งดีๆ และใจร้ายกับตัวเองน้อยลงนะครับ"
นิยาม "ชีวิต" ของผม (คนธรรมดา)
โลกเราทุกวันนี้ ไม่มีใครสนใจคนที่ไร้ผลประโยชน์ ใครที่อ่อนแอ ก็แค่ตายไป โลกก็ยังหมุ่นต่อไป และไม่มีใครสนใจเรื่องของใครจริงๆ เว้นแต่เรื่องของคนที่มีชื่อเสียง ซึ่งการจะมีตัวตนมันก็ไม่ยากไม่ง่าย เพียงแค่ติดเทรนด์โซเชียล ไม่ว่าใครก็มีตัวตนได้ แต่อย่าลืมว่า มีดังได้ ก็ดับได้เช่นกัน ท้ายที่สุดสำหรับผม การจะหลุดจากวงจรอุบาทว์นี้ได้ ไม่ใช่การตาย แต่เป็นการหาสถานที่ที่อยู่แล้วมีความสุข เช่นที่ที่อยู่แล้วรู้สึกเหมือนบ้าน เหมือนที่พักใจ หรือแม้แต่ที่ทำงานที่ใช่ กับสิ่งเล็กๆที่ทำแล้วมีความสุขโดยไม่เดือดร้อนตัวเอง และผู้อื่น ชีวิตมันก็แค่นี้ แค่ต้องตามหาจุดที่ลงตัวที่ทำให้คุณสงบนิ่ง ไม่ทรมานกับการไหลไปตามกระแส แต่ยังก้าวต่อในการใช้ชีวิต ไม่ใช่ชีวิตที่ต้องได้ต้องมี กับการพิชิตที่ไม่จบสิ้น เงิน, สิ่งของ ตายไปก็เอาไปไม่ได้ ชื่อเสียง ตายไปคนก็ลืม สิ่งที่จริงที่สุด คืออยู่กับความจริง แค่ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร สนแค่ตัวเอง กับคนที่รักเราก็พอ ชีวิตทุกวันนี้ก็เหนื่อยมากพอแล้ว...
ใจความทั้งหมดนี้ ผมแค่จะมาแชร์มุมมองของ นิยามชีวิต จากคนธรรมดาคนนึง ที่อาจจะเป็นมุมมองดีๆให้ใครหลายๆคน สิ่งที่ผมจะบอกก็คือ ถ้าชีวิตมันใจร้ายกับคุณมามากพอแล้ว คุณก็อย่าใจร้ายกับตัวเอง ปล่อยวาง ถ้ามันถือแล้วหนัก เป้าหมายชีวิตหรอ เรียนจบสูง, เป็นเจ้าของธุรกิจ, ออกรถหรู, ใช้ของแพง, ถ้าเป้าหมายเหล่านี้มันใจร้ายกับคุณ คุณก็ควรใจดีกับตัวเอง หาจุดที่ลงตัวให้ตัวเอง ถ้าให้ผมเลือก เป็นเจ้าของธุรกิจแล้ว 60%+ ของชีวิตคือความทุกข์ กินไม่ได้นอนไม่หลับ แต่รวย กับขายลูกชิ้นที่มีเงินพอใช้ชีวิต กินได้นอนหลับ ไม่อดอยาก ส่งลูกเรียนจบ ผมว่าผมเลือกขายลูกชิ้นดีกว่า "หวังว่าคนที่อ่านบทความนี้ จะได้สิ่งดีๆ และใจร้ายกับตัวเองน้อยลงนะครับ"