สวัสดีชาวพันทิปทุกท่านนะครับ ก่อนตัดสินใจมาปลูกผม ผมมีปัญหาผมบางจากกรรมพันธุ์ ซึ่งได้รับมาจากคุณพ่อเต็มๆ หน้าผากค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับคนอายุแค่ 20 รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจ ซึ่งผมบางทำให้หน้าเราก็ดูมีอายุด้วย คงถึงเวลาต้องรีบหาทางแก้ไข ถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้มีหวังหัวล้านแบบกู่ไม่กลับแน่ๆ 

ถ้าคิ้วคือมงกุฎของผู้หญิง ทรงผมก็คือมงกุฎของผู้ชายครับ
เอาล่ะ เริ่มหาข้อมูลการปลูกผม ซึ่งสมัยนี้คลินิกปลูกผมมีเยอะมาก อันดับแรกเลือกจาก รีวิวปลูกผม ของแต่ละที่ ส่วนตัวผมชอบให้ดูเป็นธรรมชาติ ผมไปคุยมาก็หลายที่ สุดท้ายเลยมาจบที่ hairsmith clinic บอกก่อนว่าตอนแรกผมไม่ได้คาดหวังอะไรมาก คลินิกความงาม หรือคลินิกปลูกผมส่วนใหญ่คงเน้นขายของให้เราเต็มที่ แต่พอได้เข้าไปคุยกับคุณหมอพรีมา รู้สึกแปลกใจนิดๆ เพราะคุณหมอแนะนำให้เราทำเท่าที่จำเป็น ตรงไปตรงมาดี เจ้าหน้าที่ที่คุยด้วยไม่มีฮาร์ดเซลล์ให้เราอึดอัดเลย ประทับใจตรงที่อำนวยความสะดวกหาวันปลูกผมที่ต้องการให้อย่างเต็มที่ หลังจากจองวันได้แล้วเหลือแค่รอให้ถึงวันปลูกผมเร็วๆ ครับ

การเตรียมตัวก่อนปลูกผม ไม่มีอะไรยุ่งยาก
         -ถ้าเรากินยาหรือวิตามินที่ทำให้เลือดแข็งตัวช้า เช่น แอสไพริน วิตามินอี fish oil ให้งดก่อนปลูกผม 2 อาทิตย์
         -พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ต้องงดข้าวงดน้ำก่อนวันปลูก ทานไปได้ปกติ
         -วันปลูกผมควรใส่เสื้อเชิ้ตสีเข้มที่มีกระดุมด้านหน้า แขนสั้นหรือยาวก็ได้ เพราะหลังปลูกผมเราถอดเสื้อได้ง่ายจะได้ไม่ต้องไปโดนแผลที่ปลูก

วันปลูกผม
จะมีเจ้าหน้าที่มาเจาะปลายนิ้วตรวจ hiv และตรวจโควิด หลังจากนั้นจะพบคุณหมอก่อนเพื่อวัดจำนวนกราฟท์เป๊ะๆ อีกรอบ เคสผมปลูก 2,500 กราฟท์ (จำนวนเท่าเดิมกับวันที่มาปรึกษา) ปลูกผม FUE ราคากราฟท์ละหลักสิบตอนแรกผมว่าราคาอาจจะดูแรงไปนิด แต่ ณ ตอนที่กำลังเขียนรีวิวอยู่นี้ความคิดผมเปลี่ยนไปแล้วครับ เดี๋ยวผมจะมาบอกตอนท้ายรีวิวนี้นะครับว่าทำไมผมถึงคิดว่าคุ้มค่า

หลังจากนั้นไปสระผม โกนผมข้างหลังประมาณ 1 ฝ่ามือ แล้วก็เข้าห้องปลูกผมครับ

ตอนเเรกเตรียมใจมาแล้วว่าต้องเจ็บต้องระบมแน่ๆ แต่ระหว่างปลูกผมและหลังปลูกผมเสร็จไม่รู้สึกเจ็บเลย ชิลล์มาก ตอนปลูกผมใกล้เสร็จแล้ว คุณหมอจะให้เราส่องกระจกดูว่าโอเคมั้ย ละเอียดสุดๆ

หลังปลูกผม 2 วัน คลินิกจะนัดไปสระผมล้างแผล อาการหลังปลูกผม ไม่บวม ไม่ปวด ปกติทุกอย่างเลย หลังจากนี้ ต้องระวังตรงที่ปลูกเป็นพิเศษ อย่าพึ่งไปแกะไปเกาแผล เพราะรากผมจะหลุดแล้วผมอาจจะไม่ขึ้นได้ ประมาณ 7 วันเห็นสะเก็ดแผลมีรอยแตก ถามคุณหมอบอกว่าเกิดจากสะเก็ดมันหดตัวเฉยๆ เป็นปกติครับ ค่อยโล่งใจหน่อย พอครบ 14 วันก็ใช้น้ำมันมะพร้าวสะกัดเย็นหมักสะเก็ดให้นิ่ม แล้วสระผมถูสะเก็ดออกได้เลย รู้สึกโล่งมาก ส่วนผมข้างหลังที่ถูกเจาะเอาไปปลูกเริ่มยาวไม่เห็นหนังศีรษะขาวๆ แล้วครับ

หลังปลูกผม 3 เดือน เริ่มมีไรผมเป็นเส้นเล็กๆ ขึ้นมาแล้วครับ ส่วนผมข้างหลังก็ยาวแล้ว 

หลังปลูกผม 6 เดือน ผมที่ปลูกหนาขึ้นชัดมาก เอาจริงๆ แค่ตอน 6 เดือนก็รู้สึกว่าผมขึ้นเยอะมากๆ แล้วล่ะครับ มั่นใจขึ้นมากๆ ด้วย

หลังปลูกผม 12 เดือน วันนี้ที่รอคอย มาดูว่าจะเปลี่ยนไปขนาดไหน 
คุณหมอบอกว่าผมที่ปลูกขึ้นสมบูรณ์ดีแล้ว คุณหมอไม่นัดแล้วครับ แต่ว่าถ้ากังวลอะไรเราสามารถนัดเพื่อปรึกษาคุณหมอได้ตลอดเลย ถึงแม้ว่าการปลูกผมของเราจะเสร็จสมบูรณ์แล้วก็ตาม รู้สึกอุ่นใจดีครับ 

อย่างที่ผมบอกไปตอนต้นกระทู้ว่าไม่รู้สึกว่าตอนแรกคิดว่า ราคาปลูกผมที่ hairsmith ก็พอสมควรอยู่ แต่พอได้มาปลูกผมกับที่นี่แล้วมันคุ้มค่ากับการลงทุน ผลลัพธ์ออกมาดี แนวผมที่คุณหมอออกแบบให้ ดูเป็นธรรมชาติ แบบคนอื่นดูไม่ออกเลยว่าเป็นแนวผมที่ปลูกมา อันนี้ขึ้นอยู่กับความมีศิลปะของคุณหมอด้วย ที่ผมชอบที่สุดเลยคือที่นี่บริการดี ติดตามผลตลอด เจ้าหน้าที่ทุกคนใส่ใจในรายละเอียดจริงๆ บริการได้ครบถ้วน คุณหมอก็เก่งแล้วที่คลินิกเค้าบอกว่าค่าปลูกผมจ่ายตามจำนวนกราฟท์เลย ไม่มีต้องจ่ายเพิ่มแล้ว คือมันเป็นแบบนั้นจริงๆ ครับ ผมจ่ายเงินวันปลูกผมหลังจากนั้นทั้งปีไม่มีมาจ่ายค่านู่นค่านี่เพิ่มเลยจริงๆ ยาปลูกผม แถมให้ทั้งปี ทุกครั้งที่ไปติดตามผลกับคุณหมอก็ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรเลย 

แถมมีรับประกันผลลัพธ์ให้ด้วย มีบางที่บอกว่าถ้าหมอเก่งก็ไม่จำเป็นต้องมีรับประกันหรอก ก็จริงครับ แต่ไม่ดีกว่าหรอถ้าคลินิกปลูกผมมีบริการนี้ให้ด้วย อย่างน้อยก็มีหลักประกันว่าถ้ามีอะไรผิดพลาดเราจะไม่ถูกลอยแพ เพราะค่าปลูกผมไม่ใช่น้อยเลย ซึ่งผมก็มองว่าราคาปลูกผมของที่นี่สมเหตุสมผลกับบริการที่ได้รับครับ

ตอนนี้รู้สึกมั่นใจมาก ลมมาก็สู้เลย ไม่กลัวผมเปิดอีกแล้ว เวลาเสยผมก็มั่นใจดูเป็นธรรมชาติมากๆ การที่คุณมีผมเยอะ ผมหนา มันก็ทำให้คุณมั่นใจขึ้น แต่งตัวอะไรก็ดูดี ทำอะไรก็ดูดี รู้สึกขอบคุณตัวเองที่ตัดสินใจปลูกผมในวันนั้น ทำให้วันนี้ผมไม่บางอีกต่อไปแล้วครับ