น้ำหนักลดผิดปกติ อยากปรึกษาเรื่องอาการป่วยว่ามีความเกี่ยวข้องหรือสอดคล้องกับอะไรบ้าง

สวัสดีครับ
ปัจจุบันผมอายุ 25 นะครับ เริ่มต้นก่อนจะป่วยมีน้ำหนัก 82.1 กิโลกรัม (ส่วนสูง 176 เซน) ตอนที่ป่วยครั้งแรกมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก จุกตรงลิ้นปี่ และปวดหน่วงในท้อง มีอาการนอนหลับไม่สนิท ชอบสะดุ้งตื่นตอนนอน วันนั้นไปหาหมอกลางดึก หมอห้องฉุกเฉินบอกว่าค่าเลือดปกติ น่าจะเป็นโรคกระเพาะ+กรดไหลย้อน เพราะตอนซักประวัติบอกหมอไปว่าช่วงก่อนป่วยมีเรอบ่อยด้วย แล้วก็มีประวัติชอบกินเยอะๆแล้วนอน(กินข้าว2กล่องทุกมื้อไม่รวมของหวาน) หมอจึงจ่ายยาเป็นยา Omeprazole มาสำหรับทาน 2 สัปดาห์พร้อมกับยาลดกรดขับลมต่างมาก

หลังจากทานยา อาการของกระเพาะดีขึ้นเรื่อยๆครับ แต่แล้วก็มามีปัญหากับลำไส้ต่อ เพราะจู่ๆก็ท้องผูกสลับท้องเสีย ถ้าท้องผูกจะไม่ถ่ายประมาณ 2-3 วัน ถ้าท้องเสียจะถ่ายวันละ 3 - 5 รอบ และลักษณะอุจจาผิดปกติ มีลักษณะเป็นชิ้นๆ เป็นแผ่นๆ ไม่จับตัวกัน แต่ก็มีอุจจาระแบบปกติสลับมาด้วย หลังจากเป็นอยู่พักหนึ่งแล้วไม่ดีขึ้นก็ตัดสินใจไปหาหมอในเวลาราชการอีกรอบ  ซึ่งห่างจากไปหามาครั้งแรกประมาณ 2-3 สัมปดาห์ หมอสั่งตรวจเลือด+อุจจาระร่วมด้วย จากนั้นหมอก็แจ้งว่าไม่มีเลือดแฝงในอุจจาระ เลือดปกติ ไม่มีอาการซีด คาดว่าน่าจะเป็นโรคลำไส้แปรปรวน แต่ตอนนั้นน้ำหนักลดฮวบไปเหลือแค่ 78 กิโลกรัม ซึ่งลงมา 4 กิโลภายในเวลาแค่ 2 - 3 สัปดาห์ ตอนนั้นเราก็คิดว่าตัวเองน่าจะน้ำหนักลดเพราะทานได้น้อยลงจากปกติประมาณ 50% ซึ่งหมอก็ยังบอกว่าไม่น่าเป็นห่วง น้ำหนักลดน่าจะมาจากท้องเสีย+ความเครียดร่วมด้วยเพราะช่วงนั้นเครียดเหมือนประสาทจะกิน ผมก็เลยเบาใจ จากนั้นหมอก็สั่ง Omeprazole เพิ่มมาอีกสำหรับ 2 สัปดาห์ 

ทีนี้หลังจากนั้นผมก็พยายามดูแลตัวเองดีทุกอย่าง ปรับพฤติกรรม ปรับการกินอาหารและอื่นๆ แต่มีอยู่วันหนึ่งต้องเดินทางไปต่างจังหวัดแล้ววางแผนการเดินทางไม่ดี ทำให้ต้องอดข้าวไป 2 มื้อเลยมีอาการปวดท้องรุนแรง แต่ก็กลับมาดีขึ้นได้ภายในประมาณ 1 สัปดาห์ โดยที่ระหว่างนั้นไม่ได้ชั่งน้ำหนักเลยจนเวลาผ่านไปประมาณ 1 เดือน 2 สัปดาห์นับจากวันที่ป่วยครั้งแรก ตอนนั้นอยากไปบริจาคเลือด ปรากฎว่าพอขึ้นเครื่องชั่ง น้ำหนักหายไปเยอะมาก น้ำหนักลงมาเหลือแค่ 74.6 จากที่ตอนก่อนป่วยมีน้ำหนัก 82.1 เท่ากับว่าน้ำหนักลงมา ประมาณ 8 กิโลภายใน 1 เดือน 2 สัปดาห์ ตอนแรกก็ยังไม่กังวลเท่าไหร่นะครับ เพราะคิดว่าตัวเองกินน้อยลง+กินแป้งน้อยด้วยเนื่องจากสังเกตตัวเองได้ว่าพอกินแป้งแล้วจะท้องอืดมากเป็นพิเศษ เรอแทบทั้งวันเลยกินเนื้อสัตว์ ผักและผลไม้เป็นหลัก กินแป้งบ้างนิดหน่อย น้ำหนักมันก็เลยลดแบบนั้น 

แต่ทีนี้หลังจากตอนไปบริจาคเลือด(แต่ไม่ได้บริตาคจริงนะครับ พอดีหมอไล่กลับเพราะกลัวว่าจะมีแผลในกระเพาะแล้วจะมีเชื้อโรคปนในเลือด) ผมกลับมากินเยอะเท่าเดิม (ยังทานแป้งได้น้อยเหมือนเดิมครับ พยายามกินแป้งจากพืชหัวต่างๆแทนอยู่ แต่ไม่กินจากขนมปัง เส้นและข้าวเพราะท้องอืดมาก ลมเต็มท้องจนท้องแ็งเลย) แต่ก็ยังกินยา Omeprazole อยู่โดยที่อาการปวดท้องไม่มีแล้ว เหลือแค่ชอบท้องอืดบ่อยๆ ลมในท้องเยอะ และก็ยังขับถ่ายไม่ปกติเหมือนเดิม เวลาผ่านไปอีก 2 สัปดาห์จู่ๆ ผมก็มีอาการปวดท้องกลับมาอีกครั้ง (ปวดท้องช่วงบนนะครับ ตั้งแต่ตรงกลางเหนือสะดือและเยื้องไปทางซ้ายเล็กน้อย) แม้จะไม่ได้ปวดหนัก แต่ผมก็กังวลมากเพราะกินยามานาน ดูแลตัวเองดีมาตลอดแต่ยังไม่ยอมหายสักที ลองไปชั่งน้ำหนักดู ปรากฎว่าน้ำหนักลดลงไปอีกเหลือแค่ 72.3 เท่ากับว่าน้ำหนักลดรวมไปทั้งหมด 10 กิโลกรัมภายในเวลา 2 เดือน
ทั้งที่กลับมากินอาหารเยอะตามปกติแล้ว 2 สัปดาห์ แต่น้ำหนักก็ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องจนคนรอบตัวยังทักเลยครับว่าผมดูผอมลง ผมเองก็สัมผัสได้เหมือนกัน ปกติเป็นคนไขมันสะสมช่วงบนบริเวณ คอ บ่า ไหล่และแผ่นหลัง สัมผัสได้เลยว่าไขมันส่วนเกินบริเวณพวกนั้นมันหายไป

ผมสงสัยว่าการน้ำหนักลดถึง 10 กิโลกรัมภายใน 2 เดือนจากน้ำหนักตั้งต้น 82.1 เหลือ 72.3 นี่ถือว่าอันตรายไหมครับ และมีโอกาสเป็นโรคอะไรได้บ้าง
พอดีไปเสิร์ชในเน็ตแล้วเจอแต่มะเร็ง เอดส์ วัณโรค เบาหวาน ไทรอยด์ทั้งนั้นเลย ล่าสุดไปตรวจสุขภาพประจำปีมา มีตรวจพบค่าคีโตนในปัสสาวะสูง ในใบผลขึ้นPossitive2+ มีลองตรวจค่าCEA(สารบ่งชี้มะเร็งลำไส้)เผื่อไว้แล้วด้วยปรากฎว่าออกมาแค่ 1.5 Ng/ML ค่าน้ำตาลปกติ ค่าไขมันต่างๆเกินเล็กน้อย ค่าไตปกติ ค่าตับปกติ ไม่ได้มีอาการอ่อนเพลีย ซีดหรือตัวเหลือง ไม่ได้มีเชื้อHIV ไม่มีไข้หรือมีอาการไอ เหนื่อยหอบ หายใจไม่อิ่ม 
 
รบกวนทุกท่านด้วยนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่