JJNY : ศาลสูงรัสเซียชี้ LGBTQ+ หัวรุนแรง│“วิโรจน์ ก้าวไกล”คอร์รัปชั่นจะเกิด Soft Power│คนชราเสียชีวิตคาบ้าน│‘โชห่วย’โอด

ศาลสูงรัสเซีย ชี้ LGBTQ+ เป็นกลุ่มหัวรุนแรง สั่งห้ามเคลื่อนไหว
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/211842
 
 
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ศาลสูงสุดของรัสเซียตัดสินให้กลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศเป็นกลุ่มหัวรุนแรง พร้อมสั่งห้ามดำเนินการเคลื่อนไหวทั่วประเทศ  หลายคนกลัวว่า สิ่งนี้จะนำไปสู่การปราบปรามกลุ่มหลากหลายทางเพศ และอาจมีการดำเนินคดีเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก
 
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ศาลสูงสุดของรัสเซียได้เปิดพิจารณาคดีแบบปิด เกี่ยวกับสิทธิของกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ หรือ LGBTQ+  การพิจารณาคดีดังกล่าวใช้เวลานานถึง 5 ชั่วโมง  ก่อนจะมีคำตัดสินออกมา และได้อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้ารับฟังคำตัดสินของศาลด้วย
 
โอเลก เนเฟโดฟ ผู้พิพากษาศาลฎีการัสเซีย ได้ขึ้นบัลลังก์อ่านคำพิพากษาโดยประกาศให้ขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมของกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศระหว่างประเทศ และชุมชนที่อยู่ภายใต้กลุ่มดังกล่าว เป็นองค์กรหัวรุนแรง 

พร้อมทั้งสั่งห้ามคนกลุ่มนี้ออกมาดำเนินกิจกรรมเคลื่อนไหวทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวที่เข้ารับฟังคำตัดสินในศาลรายงานว่า มีการประกาศว่า คำตัดสินครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงยุติธรรมของรัสเซีย
  
ก่อนหน้านี้กระทรวงยุติธรรมของรัสเซีย ได้ออกแถลงการณ์ยื่นฟ้องกลุ่ม LGBTQ+ ว่า กลุ่มดังกล่าวได้ส่งสัญญาณให้เห็นถึงการเป็นหัวรุนแรง และกล่าวหาว่าพวกเขาลงมือปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้งทางสังคมและศาสนา แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของการกระทำที่กล่าวอ้าง ตลอดจนหลักฐานที่สนับสนุนข้อกล่าวหาดังกล่าว
 
นอกจากนี้ กระทรวงยุติธรรมยังได้เผยแพร่รายชื่อกลุ่มหัวรุนแรงมากกว่า 100 กลุ่มที่ถูกแบนในรัสเซียด้วยเช่นกัน
 
ด้านดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนที่ศาลจะตัดสินว่า รัฐบาลรัสเซียไม่ได้ติดตามคดีดังกล่าว และไม่มีความเห็นใดๆ ต่อคดีนี้
 
 ทั้งนี้ คำตัดสินล่าสุดของศาลฎีการัสเซีย ถือเป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มข้อจำกัดด้านสิทธิในการแสดงออกทางรสนิยมทางเพศ และอัตลักษณ์ทางเพศของกลุ่ม LGBTQ+ ในประเทศ
 
ขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมา สำนักข่าวเดอะมอสโกไทม์สรายงานว่า เพียงหนึ่งวันหลังศาลสูงสุดรัสเซียอ่านคำพิพากษาและตัดสินให้กลุ่ม LGBTQ+ เป็นกลุ่มหัวรุนแรง เจ้าหน้าที่ตำรวจในกรุงมอสโกได้ลงพื้นที่กวาดล้างผับใต้ดิน ซาวน่า และสถานบันเทิงของกลุ่ม LGBTQ+  อย่างไรก็ดี ทางการกรุงมอสโกอ้างว่า การลงพื้นที่ของตำรวจเป็นไปเพื่อตรวจหาและกวาดล้างยาเสพติด ซึ่งเป็นการลงพื้นที่ตามปกติ ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่กลุ่ม LGBTQ+ แต่อย่างใด
 
คำตัดสินของศาลสูงสุดรัสเซียที่ออกมาล่าสุดนั้น ไม่ได้สร้างความแปลกใจให้กับกลุ่ม LGBTQ+ ในรัสเซียมากนัก เพราะที่ผ่านมา รัฐบาลรัสเซียพยายามจำกัดสิทธิเสรีภาพของคนกลุ่มนี้มาอย่างต่อเนื่อง
 
หลายปีที่ผ่านมา วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้พยายามส่งเสริมภาพลักษณ์ของรัสเซียที่ให้คุณค่ากับสถาบันครอบครัวแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นแนวคิดที่ตรงข้ามกับชาติตะวันตก
 
ย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว ประธานาธิบดีปูติน ได้กล่าวสุนทรพจน์กล่าวหาว่าชาติตะวันตกรับเอากระแสที่ค่อนข้างตรงข้ามจากเขา เช่นการจำแนกกลุ่มคนหลากหลายทางเพศนับสิบแบบ และขบวนพาเหรดของกลุ่มเกย์  แต่เขาได้ย้ำว่า แม้ว่าชาติตะวันตกจะรับเอากระแสเหล่านั้นมาใช้ ก็ไม่มีสิทธิบังคับประเทศอื่นๆให้ยอมรับสิ่งนี้
 
แม้รัสเซียจะยกเลิกกฎหมายที่ระบุว่า การรักเพศเดียวกันเป็นความผิดทางอาญาตั้งแต่ปี 1993 และการรักเพศเดียวกันถูกถอนจากรายนามโรคจิตเวชของรัสเซียตั้งแต่ปี 1999 แต่ว่านับตั้งปี 2013 เป็นต้นมา รัสเซียได้ผลักดันกฎหมายควบคุมสิทธิของกลุ่ม LGBTQ+ ที่เรียกว่า กฎหมายการโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งกฎหมายดังกล่าวห้ามสนับสนุนกิจกรรมของคนกลุ่มนี้ไปสู่เด็กและเยาวชนรัสเซีย
 
และเมื่อปีที่แล้ว รัสเซียยังได้ผ่านกฎหมายใหม่ที่ระบุว่า การกระทำหรือข้อมูลใดก็ตามที่ถือว่าเป็นความพยายามในการสนับสนุนแนวคิดรักร่วมเพศ ทั้งในที่สาธารณะ ช่องทางออนไลน์ หรือในรูปภาพของภาพยนตร์ หนังสือ หรือโฆษณา จะต้องได้รับโทษปรับอย่างหนัก
 
โทษปรับสำหรับประชาชนที่กระทำความผิดจะอยู่ที่ 4 แสนรูเบิลหรือราว 2 แสนบาท ในขณะที่นิติบุคคลจะมีโทษปรับอยู่ที่ 5 ล้านรูเบิลหรือราว 3 ล้านบาท  และหากเป็นชาวต่างชาติจะถูกจำคุกเป็นเวลา 15 วันก่อนเนรเทศออกนอกประเทศ
 
ขณะที่ปีนี้ ประธานาธิบดีปูติน ได้ลงนามรับรองกฎหมายห้ามไม่ให้ชาวรัสเซียผ่าตัดแปลงเพศ รวมถึงห้ามเปลี่ยนเพศในเอกสารทางการราชการ ตลอดจนห้ามคู่รักเพศเดียวกันรับเลี้ยงลูกบุญธรรม
 
คำตัดสินของศาลฎีกา ส่งผลให้ชาวรัสเซียได้แบ่งความคิดออกเป็นสองฝ่าย โดยมีทั้งกลุ่มที่สนับสนุน และไม่เห็นด้วยต่อคำตัดสินนี้
 
กลุ่มชาวรัสเซียที่สนับสนุนคำตัดสินของศาลฎีกาบอกว่า พวกเขาสนับสนุนค่านิยมดั้งเดิมของรัสเซีย และเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ก็คิดแบบนั้น เพราะสังคมที่พวกเขาอยู่ก็มีทัศนคติเชิงลบต่อกลุ่มคนหลากหลายทางเพศ 
 
ส่วนคนที่ไม่เห็นด้วยต่อคำตัดสินของศาลระบุว่า แม้จะมีทัศนคติที่เป็นกลางกับเรื่องนี้ แต่ก็อยากให้โลกใบนี้เป็นที่ที่ผู้คนสามารถรักใครก็ได้
 
ทั้งนี้กลุ่มนักเคลื่อนไหว LGBTQ+ ยอมรับว่า คำตัดสินของศาลในคดีดังกล่าวเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และสิ่งนี้ได้สร้างความกังวลใจให้กับพวกเขาอย่างมาก เพราะอาจเป็นการเปิดช่องทางให้ทางการรัสเซียปราบปรามผู้ที่ออกมาพูดถึงสิทธิเกย์
 
และคนข้ามเพศมากขึ้น ตลอดจนเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงอาจมาเคาะที่ประตูหน้าบ้าน และสั่งดำเนินคดีอาญาในข้อหามีส่วนร่วมกับกิจกรรมของชุมชนของพวกเขา ที่ถูกขึ้นบัญชีเป็นองค์กรหัวรุนแรง
 
นอกจากนี้พวกเขายังกลัวว่า กิจกรรมที่ออกแบบมาเพื่อช่วยชาว LGBTQ+ เช่นการสนับสนุนด้านจิตใจและกฎหมาย หรือแม้แต่การนั่งดื่มชาร่วมกันของพวกเขาอาจถูกจำกัด และในที่สุด กลุ่ม LGBTQ+ อาจฆ่าตัวตาย หรืออยู่ในสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ เพราะสิทธิและพื้นที่ต่างๆ ที่เป็นแหล่งพักพิงทางใจถูกจำกัด
 
หนึ่งในหญิงข้ามเพศชาวรัสเซียมองว่า ความเคลื่อนไหวนี้อาจทำให้นักเคลื่อนไหวถูกจับกุมตัวมากขึ้น และกลุ่มชาวสีรุ้งก็อาจถูกสั่งประหารชีวิตได้ง่ายขึ้น  และสิ่งเหล่านี้ถือเป็นเผด็จการแห่งความกลัว และผู้คนก็ไม่กล้าออกมาต่อต้าน 
 
ส่วนความเคลื่อนไหวของสหประชาชาติ ราวินา แชมดาซานิ โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ  (OHCHR) ระบุว่า  คำตัดสินดังกล่าวกำลังซ้ำเติมสถานการณ์ของชุมชน LGBTQ+ ในรัสเซียให้ย่ำแย่ลงไปอีก และการเลือกปฏิบัติ ความรุนแรง การกีดกัน และการตีตราชุมชนใดชุมชนหนึ่ง ถือเป็นการกัดกร่อนสังคมทั้งหมดของประเทศด้วย
 
ที่ผ่านมา รัสเซียได้กีดกันคนกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การสั่งห้ามสิ่งที่เรียกว่าโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับกลุ่มชายรักชายในประเทศ และตอนนี้ผู้ที่สนับสนุนผู้ที่มีรสนิยมทางเพศอื่นๆ อาจต้องเผชิญกับคดีความทางอาญา สิ่งเหล่านี้ทำให้โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติออกมาเรียกร้องให้รัสเซียยกเลิกกฎหมายนี้ และกฎหมายอื่นๆ ที่ละเมิดสิทธิของชุมชนชาว LGBTQ+
 
ทั้งนี้กลุ่ม LGBTQ+ มองว่า ความเคลื่อนไหวในการควบคุมกลุ่มคนหลากหลายทางเพศในรัสเซียที่ทวีความรุนแรงขึ้น อาจเป็นส่วนหนึ่งของแผนการรณรงค์หาเสียงของประธานาธิบดีปูตินสำหรับการเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้นในปีหน้าและการดำเนินการดังกล่าวอาจมีขึ้นเพื่อตอกย้ำให้ชาวรัสเซียเห็นว่า ตัวเขาในฐานะประธานาธิบดี ยังคงเดินหน้าสนับสนุนการดำรงอยู่ของสถาบันครอบครัวแบบดั้งเดิมของชาวรัสเซียอย่างหนักแน่น



สัมภาษณ์ “วิโรจน์ ก้าวไกล” ระบบคอร์รัปชั่นจะเกิด Soft Power แง่ลบของประเทศไทย
https://www.matichon.co.th/matichon-tv/news_4316180

วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล สนทนาในรายการ The Politics กรณีการคอร์รัปชั่นในประเทศต้องยอมรับว่ามีอยู่จริง เหมือนรู้ว่าเป็นโรคแต่ไม่เข้ากระบวนการรักษา จะให้คนไทยยอมรับโดยสมัครใจว่าประเทศไทยเป็นแบบนี้หรือ หากจับได้แต่เฉพาะตำรวจชั้นผู้น้อย Soft Power ในแง่ลบเกิดขึ้นแน่นอน คาดหวังรัฐบาลชุดนี้จะมีการแก้ไขเรื่องคอร์รัปชั่นอย่างจริงจัง

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


สะเทือนใจ! พบศพคนชราเสียชีวิตคาบ้านมา 3 วัน ไร้หน่วยงานไหนช่วยเหลือ
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_4316187

อาสาสมัคร สุดสะเทือนใจเก็บศพคนชราเสียชีวิตคาบ้านมา 3 วัน โดยไร้หน่วยงานไหนช่วยเหลือ ทั้งผู้นำชุมชน และ กระทรวงพม.
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 4 ธันวาคม มูลนิธิร่วมกตัญญู ส่งเจ้าหน้าที่ และ อาสาสมัคร ไปช่วยเหลือเก็บร่างผู้เสียชีวิต 1 ใน 3 พี่น้องชราอนาถา ดำรงชีวิตอยู่กันด้วยบัตรคนจนเพียงในเดียว ในบ้านเช่าไม้เก่าๆ ที่เจ้าของให้อยู่ฟรี
 
โดยเป็นคนชราทั้ง 3 คน ในซอยนนทบุรี 12 เขตพื้น ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ อาสาร่วมกตัญญู ช่วยเหลือ ดำเนินการ นำร่างพร้องโลงศพ ไปฌาปนกินให้ โดยที่พี่น้องอีกทั้ง 2 คนก็ไม่สามารถไปร่วมงานได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่