รถยนต์จีนนี่ไม่คิดจะลงทุนผลิตชิ้นส่วนในไทยเลยหรอครับ?

ผมบังเอิญไปเห็นอะไรแว๊บๆ ว่านำเข้าชิ้นส่วน100% 

ถ้าผมดูผิดก็แล้วไป
แต่ถ้าดผุไม่ผิด หากรถจีนกินรวบตลาด 

โรงงานผลิตชิ้นส่วนที่ส่งขายโรงงานประกอบไทยน่าจะเจ๊งไปเยอะ คนจะตกงานขนาดไหน

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 21
ที่คุณบอกมามันมีทั้งถูกและผิด

ถูก ที่บอกว่ารถจีนไม่อยากจะมาลงทุนผลิตชิ้นส่วนนอกประเทศหรอก

แต่ ผิด ที่บอกว่ารถจีนไม่คิดจะลงทุนผลิตชิ้นส่วนในไทยเลยใช่มั้ย เพราะด้วยข้อบังคับของภาครัฐแล้วแล้วรถจีนจำเป็นต้องประกอบรถโดยมีมูลค่าของ Local Content หรือชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศไทยตามอัตราขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนดไว้ หากไม่สามารถทำได้ก็ไม่จัดเป้นรถที่ประกอบในประเทศไทย ดังนั้นเมื่อไม่ใช่รถที่ประกอบในประเทศไทยก็จะไม่ได้รับเงิน subsidy 1.5 แสนบาทตามโครงการ EV3.0 เฟส 2 แถมยังต้องจ่ายค่าปรับตามจำนวนคันที่รับเงิน Subsidy ในช่วงปี 65-66 ไปอีกหากเริ่มผลิต BEV ในประเทศไทยไม่ทันภายในปี 67

ดังนั้น สิ่งที่บรรดารถจีนที่เตรียมผลิต BEV กำลังทำอยู่ในขณะนี้คือ พยายามหามูลค่า Local Content ให้ได้ตามอัตราขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนด แต่สิ่งที่ไม่เหมือนที่รถญี่ปุ่น อเมริกา หรือยุโรปเคยทำ นั่นคือรถจีนกันชิ้นส่วนสำคัญๆโดยเฉพาะงาน Tier 1 เกือบทั้งหมดไว้ให้บริษัทลูกหรือบริษัทชิ้นส่วนจากจีนเท่านั้น งาน Local ที่กระจายออกมาจึงแทบจะมีแต่งาน Stamping, Injection หรือ Casting ซึ่งจริงๆแล้วเป้นงานระดับ Tier 2,3,4,… และรถจีนใช้วิธีไปตั้งไลน์ Sub-Assy ด้วยตัวเองแทนแล้วนับชิ้นส่วนพวกนั้นเป้น Local Content เรียกว่ากะให้เงินหลุดออกนอกบริษัทจีนให้น้อยที่สุด

คนที่มีโอกาสได้ไปร่วมงาน Sourcing Day ที่ BOI ร่วมกันจัดกับ BYD ในเดือนกรกฎาคม และร่วมกับ NETA ในเดือนกันยายนมา คงได้เห็นกันหมดแล้วว่า List ของชิ้นส่วนที่ทั้ง BYD และ NETA ต้องการจะ Localize คืออะไรบ้าง

แน่นอนครับว่ามันก็ย่อมมีคนที่ไม่มีความรู้อะไรแต่นั่งเทียนยกเมฆไปเรื่อยว่าแค่รถจีนแค่นำเข้าทั้งคันมาแล้วประกอบที่ปัดน้ำฝนก็ขายได้แล้ว คือถ้ารถจีนมันโง่ขนาดนั้นก็เชิญเถอะครับ เพราะในเวลานี้คือช่วงเวลาที่รถจีนได้เปรียบในการผลิต BEV ทั่วโลก นี่คือช่วงเวลาที่รถจีนต้องฉวยโอกาสในการเตรียมพร้อมการ Localize การผลิตตามภูมิภาคต่างๆทั่วโลกเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตของตัวเอง เนื่องจากในอีก 4-5 ปีข้างหน้า เมื่อ Demand ของ BEV เพิ่มอย่างรวดเร็วขึ้นทั่วโลก แต่รถจีนยังงมโข่งใช้แค่โรงงานผลิตในประเทศจีนก็ไม่มีปัญญาผลิตส่งมอบลูกค้าได้แน่ เอาแค่ผลิตส่งตลาดใหญ่ยักษ์ภายในประเทศจีนเองก็ไม่พอแล้วด้วยซ้ำไป กลายเป็นโอกาสให้รถญี่ปุ่น อเมริกา ยุโรป หรือเกาหลีที่พร้อมจะส่งมอบ BEV ในอีก 4-5 ปีข้างหน้าตีตลาดคืนตามภูมิภาคต่างๆทั่วโลกได้สบายๆเพราะมีความพร้อมในการผลิตในแต่ละภูมิภาคอยู่แล้ว

แต่ผมเชื่อว่าบริษัทรถจีนและคนจีนไม่โง่ที่จะปล่อยให้มันเป็นอย่างงั้น ส่วนคนนอกวงการที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรตามเน็ตนี่ไม่แน่
นี่จึงเป็นสาเหตุให้รถจีนในเมืองไทยกำหนดการเริ่มสายการผลิต BEV ในไทยกันแล้ว เพราะถ้าไม่เริ่มตอนนี้อีก 3-4 ปีหืดจับแน่นอน
NETA = Feb-Mar 2024
MG, GWM = Mid 2024
BYD = Q4 2024
ความคิดเห็นที่ 2
อย่าว่า แต่ ชิ้นส่วนเลย ไอที่ตั้งๆ โรงงานในไทย สุดท้าย จะได้ปั๊ม ตัวถัง รึเปล่าเถอะ

กลัว จะได้แค่ ติด ที่ปัดน้ำฝน แล้วก็ขายเลย ซะมากกว่า
นี่ก็ล่อ จะ 2 ปีละ ไหนบอกโรงงานเสร็จ พร้อมประกอบในไทย ขายปี 66 ไง หายจ้อย นำเข้ามาขาย อย่าง เมามันส์

ทำไมต้องเอาเหล็ก ส่งจากจีนมาประกอบในไทย ในเมื่อจีนมีหมดทุกอย่าง เหล็ก พลาสติก ยาง ชิ้นส่วนทุกชนิด ก็ประกอบมันที่นั่น แล้วหาช่อง เอาเข้ามาแบบ สวยๆ ไม่ดีกว่าเหรอ  ของแบบนี้ ลมปากทั้งนั้น   กล้าปรับ ป่ะล่ะ ปรับปุ๊บ ย้ายฐาน

บางท่าน ทฤษฏี เยอะ บอก ถ้าไม่ผลิตในไทย ขายไม่ทันซื้อ ลูกค้าไม่รอหรอก เป็นไปไม่ได้  แล้วเป็นไปได้รึยังล่ะ ตอนนี้ คุณจะเอา กี่หมื่นคัน เดือนนึง บอกมา ส่งมาทัน หรือไม่ทัน  ลูกค้ารอ หรือ ไม่รอ  หลักฐาน ก็แบบที่เห็น

กับ จีน นี่ ดูยาวๆ ครับ  มีอีกหลาย สเตป  ที่ไม่เคยได้เห็น ก็ได้เห็น  แน่นอน  
จริงๆ ถ้าใจเป็นกลาง ไม่อีโก้ ไม่ทฤษฏีเยอะ มองกว้างๆ มันก็เหมือน มือถือ นั่นแหละ ผลิตจีน ส่งไทย ไม่มีผลิตไทย หรอก
ความคิดเห็นที่ 1
เขาไม่สนับสนุนเรา เราก็ไม่ควรไปสนับสนุนเขา งดใช้สินค้าหรือบริการจากจีน

เพี้ยนลุย
ความคิดเห็นที่ 15
เป็นการล่าอาณานิคมกลายๆ สุดท้ายถ้าไทยไม่มีเทคโนโลยีเป็นของตัวเองยังไงก็ขาดดุล
ความคิดเห็นที่ 19
กว่าคนไทยจะรู้ตัว สภาพก็เป็นแบบที่ลาวกับกัมพูชาไปแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่