สวัสดีทุกคนนะครับ ผมตั้งกระทู้ครั้งเเรกผิดพลาดประการใดขออภัยเเละขอคำเเนะนำด้วยครับ
สืบเนื่องมาจากกลุ่มผู้ใช้น้ำตามที่ผมได้เเนบเอกสารบิลค่านี้ คุณพ่อผมเป็นสมาชิกเกษตรกร ทำนาอยู่ด้วยครับ โดยรวมกลุ่มกันตั้งเป็นกลุ่มผู้ใช้น้ำเก็บเงินจากจากสมาชิกสูบน้ำไปทำนาปรังกัน โดยใช้ท่อสูบน้ำพยานาค 2 ท่อ ใช้มอเตอร์เป็นต้นกำลัง ดังรูป
ต่อมาในเดือน มิถุนายน 2566 พบความผิดปกติของค่าไฟฟ้าเเพงขึ้นกว่าปกติประมาณสองเท่า พอตรวจสอบบิลพบว่าที่เพิ่มมาเป็นผลมาจากค่าเพาเวอร์เเฟคเตอร์ที่เเพงขึ้นกว่าปกติอย่างมาก เเต่เดิมเคยเสียเพียง 700-800 บาท เเต่ในเดือนนี้กลับมากถึง 69,000 บาท เพิ่มมากว่า 80 เท่าตัว จึงอยากสอบถามความคิดเห็นผู้รู้ได้ให้ข้อสังเกต หรือข้อเท็จจริงความเป็นไปได้หรือไม่อย่างไร ด้วยครับ
เนื่องจากผมเรียนอยู่เเละยังไม่ได้กลับบ้านต่างจังหวัดจึงยังไม่มีโอกาสไปสอบถามกับการไฟฟ้าโดยตรง เเต่ผู้รับผิดชอบไปสอบถามได้ความว่าการไฟฟ้าจะทำกราฟ มาให้ดูก่อนว่ามันพีคตอนไหน เเละแนะนำให้ติด คาปา เพื่อลดค่า PT \
เเต่ผลปรากฎว่าในเดือนต่อมาก็ใช้ไฟฟ้าเหมือนเดิมตามปกติเเต่ค่าเพาเวอร์ฺเเฟคเตอร์ก็กลับมาอยู่ที่ 700-800 บาทดังเดิม โดยที่ยังไม่ได้เเก้ไขอะไร ด้านล่างคือตัวอย่างค่าไฟในปีนี้ทั้งก่อนเเละหลังเดือนมิถุนายน
ใกล้สิ้นปีนี้มหาวิทยาลัยปิดเทอมผมจะได้กลับบ้าน จึงตั้งใจจะไปสอบถามจากการไฟฟ้าจึงอยากได้ข้อมูลจากพี่ๆทุกคน เพื่อเป็นเเนวทางในการพูดคุย หากคิดว่าค่า PT มีโอกาสเป็นได้ดังนั้น เเละสมเหตุสมผลเเล้วจะได้ไม่มีข้อสงสัยใดอีก เเต่ถ้าสรุปได้ว่ามีข้อสงสัยหรือว่าไม่น่าเป็นไปได้จะได้เข้าพูดคุยกับกันไฟฟ้าหาข้อเท็จจริงดังกล่าว ด้วยความเห็นใจเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ต้นทุนการผลิตก็สูงอยู่เเล้ว หากช่วยเหลือให้ลดต้นทุนในสิ่งที่ไม่ควรจะต้องเสียไปได้ก็เป็นการดีครับ หรือหากต้องเสียไปเพราะความไม่รู้เองก็จะได้นำไปปรับปรุงเเก้ไข เพื่อลดค่าใช้จ่ายเเละป้องกันไม่ให้เกิดเหตุที่จะต้องเสียค่า PT มากขนาดนี้อีกครับ
ขอความกรุณาทุกท่านช่วยชี้เเนะด้วยครับ ขอบพระคุณทุกท่านเเทนชาวเกษตรกร ล่วงหน้าครับ ขอบพระคุณครับ
หมายเหตุ ในส่วนยอดเงินบิลได้ชำระไปเล้วเนื่องจากจจำเป็นต้องสูบน้ำต่อเนื่องเพราะเป็นช่วงที่เกษตรกรต้องใช้น้ำครับ
ค่าเพาเวอร์เเฟคเตอร์(PF) จาก700-800 เป็น 69,000 เป็นไปได้ไหมครับ
สืบเนื่องมาจากกลุ่มผู้ใช้น้ำตามที่ผมได้เเนบเอกสารบิลค่านี้ คุณพ่อผมเป็นสมาชิกเกษตรกร ทำนาอยู่ด้วยครับ โดยรวมกลุ่มกันตั้งเป็นกลุ่มผู้ใช้น้ำเก็บเงินจากจากสมาชิกสูบน้ำไปทำนาปรังกัน โดยใช้ท่อสูบน้ำพยานาค 2 ท่อ ใช้มอเตอร์เป็นต้นกำลัง ดังรูป
ต่อมาในเดือน มิถุนายน 2566 พบความผิดปกติของค่าไฟฟ้าเเพงขึ้นกว่าปกติประมาณสองเท่า พอตรวจสอบบิลพบว่าที่เพิ่มมาเป็นผลมาจากค่าเพาเวอร์เเฟคเตอร์ที่เเพงขึ้นกว่าปกติอย่างมาก เเต่เดิมเคยเสียเพียง 700-800 บาท เเต่ในเดือนนี้กลับมากถึง 69,000 บาท เพิ่มมากว่า 80 เท่าตัว จึงอยากสอบถามความคิดเห็นผู้รู้ได้ให้ข้อสังเกต หรือข้อเท็จจริงความเป็นไปได้หรือไม่อย่างไร ด้วยครับ
เนื่องจากผมเรียนอยู่เเละยังไม่ได้กลับบ้านต่างจังหวัดจึงยังไม่มีโอกาสไปสอบถามกับการไฟฟ้าโดยตรง เเต่ผู้รับผิดชอบไปสอบถามได้ความว่าการไฟฟ้าจะทำกราฟ มาให้ดูก่อนว่ามันพีคตอนไหน เเละแนะนำให้ติด คาปา เพื่อลดค่า PT \
เเต่ผลปรากฎว่าในเดือนต่อมาก็ใช้ไฟฟ้าเหมือนเดิมตามปกติเเต่ค่าเพาเวอร์ฺเเฟคเตอร์ก็กลับมาอยู่ที่ 700-800 บาทดังเดิม โดยที่ยังไม่ได้เเก้ไขอะไร ด้านล่างคือตัวอย่างค่าไฟในปีนี้ทั้งก่อนเเละหลังเดือนมิถุนายน
ใกล้สิ้นปีนี้มหาวิทยาลัยปิดเทอมผมจะได้กลับบ้าน จึงตั้งใจจะไปสอบถามจากการไฟฟ้าจึงอยากได้ข้อมูลจากพี่ๆทุกคน เพื่อเป็นเเนวทางในการพูดคุย หากคิดว่าค่า PT มีโอกาสเป็นได้ดังนั้น เเละสมเหตุสมผลเเล้วจะได้ไม่มีข้อสงสัยใดอีก เเต่ถ้าสรุปได้ว่ามีข้อสงสัยหรือว่าไม่น่าเป็นไปได้จะได้เข้าพูดคุยกับกันไฟฟ้าหาข้อเท็จจริงดังกล่าว ด้วยความเห็นใจเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ต้นทุนการผลิตก็สูงอยู่เเล้ว หากช่วยเหลือให้ลดต้นทุนในสิ่งที่ไม่ควรจะต้องเสียไปได้ก็เป็นการดีครับ หรือหากต้องเสียไปเพราะความไม่รู้เองก็จะได้นำไปปรับปรุงเเก้ไข เพื่อลดค่าใช้จ่ายเเละป้องกันไม่ให้เกิดเหตุที่จะต้องเสียค่า PT มากขนาดนี้อีกครับ
ขอความกรุณาทุกท่านช่วยชี้เเนะด้วยครับ ขอบพระคุณทุกท่านเเทนชาวเกษตรกร ล่วงหน้าครับ ขอบพระคุณครับ
หมายเหตุ ในส่วนยอดเงินบิลได้ชำระไปเล้วเนื่องจากจจำเป็นต้องสูบน้ำต่อเนื่องเพราะเป็นช่วงที่เกษตรกรต้องใช้น้ำครับ