พบเธอครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อนก็คงไม่น้อยกว่า 5 ปี ที่ไปรษณีย์นนทบุรี ถนนติวานนท์ วันนั้นน้องเขามาส่งไม้แบดมินตันกับเพื่อน แอบมองน้องเขาอยู่เป็นระยะ น้องคงรู้ตัว สักพักได้เดินสวนกับน้องก็ดูยิ้มๆ แต่ก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกัน น้องสูงสัก 170-172 cm ผอมมากแขนขาจะเล็กแบบ Jang Won Young รูปร่างจะเป็นแบบเดียวกัน ความน่ารักก็ไม่แพ้กัน ผิวไม่ขาวมาก ต่อมาอีกหลายอาทิตย์ต่อมาผมกำลังเดินลงบันไดเลื่อนที่เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน จากชั้น 1 ลงมาชั้น G ตอนนั้นบริเวณนั้นเป็นหน้าร้าน McDonald น้องเขาเดินผ่านมาพอดีอยู่ที่ชั้น G น้องเขาคงเห็นผมเขาหยุดรอ ผมในวันนั้นแบบคิดว่าจะเอาอย่างไรดีๆ พอถึงชั้น G แทนที่ผมจะเดินเข้าไปคุยผมกลับเดินหนีไปทางขวา (ไม่ใช่ผมไม่สนใจแต่ว่าไม่ค่อยมีประสบการณ์คุยกับผู้หญิงมากนัก + ความไม่กล้า + คิดมาก จริงๆคือเราควรเข้าไปทำความรู้จักไว้ก่อน เวลาที่ผมได้เจอคนที่รู้สึกสนใจซึ่งๆหน้าในใจมักหาข้ออ้างว่าเอาไว้ก่อนไว้เจอกันครั้งหน้าจะเดินเข้าไปทำความรู้จัก เป็นอย่างนี้หลายครั้งมากๆ รู้สึกเสียดายโอกาสถ้าย้อนเวลากลับไปได้ผมจะเข้าไปคุยทำความรู้จักทุกคนที่มีโอกาส ) เดินไปทางขวาสักพักก็หันกลับมาน้องเขาก็ไปไหนเสียแล้ว ผมเดินตามไปก็ไม่เจอ จากวันนั้นผมก็มาที่เดอะมอลล์ งามวงศ์วานอีกหลายวันต่อสัปดาห์ นั่งกินอะไรที่ McDonald รอดูว่าน้องจะเดินผ่านมาไหม ในวันนั้นน้องถือสมุดหรือหนังสือมาด้วย คาดว่าน่าจะมาเรียนพิเศษที่ไหนสักแห่ง ทำอย่างนี้อยู่หลายเดือนก็ไม่เคยเจอน้องอีกเลย
ต่อมาสัก 1-2 ปีผมกำลังเดินออกมาจากร้าน steak หน้ามหาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นวันฝนตกปอยๆ มีหญิงสาวหน้าตาดีเดินผ่านร้านมองสบตากันเล็กน้อย น้องเขาก็เดินผ่านไป น้องใส่เสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน ผมเดินตามไปห่างๆ เพราะเป็นทางที่ผมเดินไปที่รถที่จอดไว้ที่มหาลัยเกษตรศาสตร์ เดินไปเรื่อยๆปรากฏว่ามีผู้ชาย 2 คนรอน้องเขาอยู่เหมือนผู้ชายจะต่อว่าหรือบ่นว่าไปไหนมารออยู่นานอะไรอย่างนั้น ผมก็เดินผ่านไป แต่พอกลับมาบ้านลองคิดๆดู ความสูงรูปร่างแบบนั้นหน้าตานั้นแบบนั้น บวกกับสายตาที่เราสบตากัน ผมเพิ่งนึกออกว่าน้องคนนี้น่าจะเป็นคนเดียวกันกับคนที่ผมเจอที่ไปรษณีย์ สบตากันครั้งนี้น้องเขาเดินผ่านไปแบบว่าไม่รู้จักกันก็คงเพราะเขาก็คงโกรธที่ผมไม่ได้เข้าไปทักที่เดอะมอลล์
หลายปีถัดมาผมไปจีน ตอนกลับมาที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดนศุลกากรเรียกให้เอากระเป๋า scan ที่เครื่องระหว่างรอคิวผมพบว่ามีผู้หญิงคนนึงก่อนหน้าผม 1 คิวกำลังเอากระเป๋าเข้าเครื่อง scan หน้าตาดีผมแอบมองอยู่ แบบว่าน้องเขา scan กระเป๋าเสร็จผมก็รีบเอากระเป๋าเข้าเครื่อง scan แล้วรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่ง เพื่อจะตามให้ทันน้องคนนี้พอเดินไปทันแล้วผมก็หันไปมองด้านข้าง น้องเขาก็คงรู้ตัวน้องเขาดูเขินๆ ก่อนที่ผมจะทำอะไรต่อก็เหลือบไปเห็นแม่ของเขารออยู่ด้านหน้ามองมาที่ผมแบบหน้าดุๆ ผมเลยเดินหนีจากไป พอกลับมาถึงบ้านและคิดไปคิดมาก็นึกได้ว่าเอนี่หรือว่าจะเป็นน้องคนนั้น ความสูงความผอม ความน่ารัก ใช่เลยแถม มีเขินด้วยตอนที่ผมเดินไปทัน โอ๋พระเจ้าทำไมผมจำเขาไม่ได้ในตอนนั้น ถ้าผมจำได้ผมจะไม่ยอมให้โอกาสหลุดลอยไปอย่างนี้ นี่คือก่อนจะมีโควิค นี่มันผ่านมาหลายปีแล้ว ไม่เคยได้เจอน้องอีกเลย ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน ผมเชื่อว่าบ้านน้องต้องอยู่ในระแวกเดียวกับผมนี่ล่ะเพราะเจอกับน้องที่ไปรษณีย์ เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน มหาลัยเกษตรศาสตร์
ไม่น่าเชื่อว่ามีโอกาสเจอกัน 4 ครั้งแต่ไม่มีโอกาสได้คุยกันเลยสักครั้ง เจอกันครั้งที่2 ที่เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน เป็นความผิดของผมล้วนๆ ที่ไม่เข้าไปคุยทั้งที่ๆจำได้ ครั้งที่ 3 และ 4 นี่ผมจำไม่ได้ว่าเป็นคนๆเดียวกัน ตอนมีโอกาสก็ไม่ทำ ตอนนี้ไม่มีโอกาสก็อยากหาโอกาส ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสครั้งที่ 5 หรือเปล่านี่ก็หลายปีมากแล้ว ป่านนี้น้องเขาจะมีแฟนไปแล้วหรือเปล่าก็ไม่รู้ ตอนมีโอกาสก็ไม่ทำ ตอนนี้กลับรู้สึกว่าเสียเงินสักแสนนึง เพื่อซื้อโอกาสนั้นมาอีกสักครั้งก็ยอม ถ้ามีโอกาสได้พบกันอีกผมจะบอกน้องว่า ผมขอโทษ ขอโทษ และขอโทษที่ไม่ได้เดินเข้าไปคุยด้วยในวันนั้นที่เดอะมอลล์.. จริงๆแล้วคืออยากคุยและทำความรู้จักกับน้องมากๆ
ตกหลุมรักเธอ 3 ครั้งโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นคนเดียวกัน โอกาสไม่ได้มีมาหลายครั้งเมื่อมีโอกาสแล้วควรคว้าไว้
ต่อมาสัก 1-2 ปีผมกำลังเดินออกมาจากร้าน steak หน้ามหาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นวันฝนตกปอยๆ มีหญิงสาวหน้าตาดีเดินผ่านร้านมองสบตากันเล็กน้อย น้องเขาก็เดินผ่านไป น้องใส่เสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน ผมเดินตามไปห่างๆ เพราะเป็นทางที่ผมเดินไปที่รถที่จอดไว้ที่มหาลัยเกษตรศาสตร์ เดินไปเรื่อยๆปรากฏว่ามีผู้ชาย 2 คนรอน้องเขาอยู่เหมือนผู้ชายจะต่อว่าหรือบ่นว่าไปไหนมารออยู่นานอะไรอย่างนั้น ผมก็เดินผ่านไป แต่พอกลับมาบ้านลองคิดๆดู ความสูงรูปร่างแบบนั้นหน้าตานั้นแบบนั้น บวกกับสายตาที่เราสบตากัน ผมเพิ่งนึกออกว่าน้องคนนี้น่าจะเป็นคนเดียวกันกับคนที่ผมเจอที่ไปรษณีย์ สบตากันครั้งนี้น้องเขาเดินผ่านไปแบบว่าไม่รู้จักกันก็คงเพราะเขาก็คงโกรธที่ผมไม่ได้เข้าไปทักที่เดอะมอลล์
หลายปีถัดมาผมไปจีน ตอนกลับมาที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดนศุลกากรเรียกให้เอากระเป๋า scan ที่เครื่องระหว่างรอคิวผมพบว่ามีผู้หญิงคนนึงก่อนหน้าผม 1 คิวกำลังเอากระเป๋าเข้าเครื่อง scan หน้าตาดีผมแอบมองอยู่ แบบว่าน้องเขา scan กระเป๋าเสร็จผมก็รีบเอากระเป๋าเข้าเครื่อง scan แล้วรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่ง เพื่อจะตามให้ทันน้องคนนี้พอเดินไปทันแล้วผมก็หันไปมองด้านข้าง น้องเขาก็คงรู้ตัวน้องเขาดูเขินๆ ก่อนที่ผมจะทำอะไรต่อก็เหลือบไปเห็นแม่ของเขารออยู่ด้านหน้ามองมาที่ผมแบบหน้าดุๆ ผมเลยเดินหนีจากไป พอกลับมาถึงบ้านและคิดไปคิดมาก็นึกได้ว่าเอนี่หรือว่าจะเป็นน้องคนนั้น ความสูงความผอม ความน่ารัก ใช่เลยแถม มีเขินด้วยตอนที่ผมเดินไปทัน โอ๋พระเจ้าทำไมผมจำเขาไม่ได้ในตอนนั้น ถ้าผมจำได้ผมจะไม่ยอมให้โอกาสหลุดลอยไปอย่างนี้ นี่คือก่อนจะมีโควิค นี่มันผ่านมาหลายปีแล้ว ไม่เคยได้เจอน้องอีกเลย ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน ผมเชื่อว่าบ้านน้องต้องอยู่ในระแวกเดียวกับผมนี่ล่ะเพราะเจอกับน้องที่ไปรษณีย์ เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน มหาลัยเกษตรศาสตร์
ไม่น่าเชื่อว่ามีโอกาสเจอกัน 4 ครั้งแต่ไม่มีโอกาสได้คุยกันเลยสักครั้ง เจอกันครั้งที่2 ที่เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน เป็นความผิดของผมล้วนๆ ที่ไม่เข้าไปคุยทั้งที่ๆจำได้ ครั้งที่ 3 และ 4 นี่ผมจำไม่ได้ว่าเป็นคนๆเดียวกัน ตอนมีโอกาสก็ไม่ทำ ตอนนี้ไม่มีโอกาสก็อยากหาโอกาส ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสครั้งที่ 5 หรือเปล่านี่ก็หลายปีมากแล้ว ป่านนี้น้องเขาจะมีแฟนไปแล้วหรือเปล่าก็ไม่รู้ ตอนมีโอกาสก็ไม่ทำ ตอนนี้กลับรู้สึกว่าเสียเงินสักแสนนึง เพื่อซื้อโอกาสนั้นมาอีกสักครั้งก็ยอม ถ้ามีโอกาสได้พบกันอีกผมจะบอกน้องว่า ผมขอโทษ ขอโทษ และขอโทษที่ไม่ได้เดินเข้าไปคุยด้วยในวันนั้นที่เดอะมอลล์.. จริงๆแล้วคืออยากคุยและทำความรู้จักกับน้องมากๆ