เหมาะสำหรับเพื่อนๆ ที่ชอบเที่ยวญี่ปุ่น และชอบเดินทางท่องเที่ยวในสถานที่ๆ มีนักท่องเที่ยวยังไม่มากจนเกินไปครับ
วันนี้เลยอยากชวน ไปเที่ยวเมือง Hiraizumi
ซึ่งเป็น 1 ใน 23 เมืองมรดกโลกของญี่ปุ่น (World Heritage in Japan)
ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่วางแผนไปเที่ยวภูมิภาค Tohoku areas โดยใช้ JR Tohoku Pass
และ JR Pass อื่นๆที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ได้ครับ
โดยทริปนี้ ผมเองก็วางแผนมาเที่ยว ภูมิภาคนี้ 16 วัน 15 คืนเต็มๆ
และวางแผนไปวัด Chusonji เป็นที่แรก เพื่อไม่ให้พลาดงาน Light up ของที่นี่
>> ไปครับไปเที่ยวกัน
โดยการเดินทาง เริ่มต้นจาก Tokyo โดย Hayabusa Shinkansen จาก Tokyo Station to Ichinoseki Station
แล้ว ต่อรถไฟ JR Local line จาก Ichinoseki to Hiraizumi
หลังจากนั้น สามารถเลือกการเดินทาง จาก สถานที่รถไฟ ไปวัด Chusonji ได้หลายทางเลือก
1. สามารถต่อรถบัส จากหน้าสถานีรถไฟได้เลย ค่ารถบัส ประมาณ 200 เยน
2. สามารถเช่ารถจักรยาน จาก ที่เช่าจักรยาน ด้านหน้าสถานีรถไฟ
3. สามารถเดินไปที่วัดได้โดยตรง ใช้เวลาเดิน ประมาณ 20 นาที (ระยะทางเดิน ประมาณ 1.4 กม)
เนื่องจาก วันนี้ ผมวางแผน อยู่ ที่วัด Chusonji จนถึงช่วง Light up ในช่วงเย็น จึงตัดสินใจ เดินไปวัดแทนครับ
และไม่เช่าจักรยานในวันนี้ เพราะคุณลุงที่ให้เช่าจักรยาน บอกว่า ต้องมาส่งจักรยานคืน ก่อน 5 โมงเย็น
เส้นทางการเดิน จากสถานีรถไฟ ก็สะดวกสบายมากเลยครับ
เดินไปเรื่อยๆชิวๆครับมีวิวสวยๆให้ดูไปตลอดทางเลย
ใช้เวลาประมาณ 20 นาที เราก็จะมาถึง Chusonji Post Office
ซึ่งด้านหลัง จะมีที่จอดจักรยาน สำหรับคนที่เช่าจักรยาน มาที่วัดครับ
1. บรรยากาศ ทางเดินขึ้นวัด (Tsukimizaka Hill)
จากจุดนี้ เป็นทางเดินขึ้นเขาไปที่วัด โดยจะใช้เวลาเดินอีก ประมาณ 15-30 นาที
2. โดย 2 ข้างทางเราจะพบกับ ต้นสนขนาดใหญ่ ที่มีอายุมากกว่า 300 ปี ตลอด 2 ข้างทาง
3. บรรยากาศหน้าร้าน เนื่องจากผม มาถึงวัดประมาณ เที่ยงๆ พอดี เลย แวะทานอาหารกลางวันที่ร้านดัง ของ Hiraizumi ก่อนครับ
เป็นร้านเดียวกับคุณรุจ Outside The Room มาแวะทานในทริปล่าสุดด้วยครับ 555
ร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่ อายุกว่า 40 ปีครับ มีเมนู อร่อยๆ อยู่หลายเมนู
ส่วนที่ผมเลือกทานคือ Beef Udon อร่อยมากมายครับกิตหมดจนหยุดสุดท้าย ค่าเสียหาย 1,500 เยนครับ
4. หลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จ ก็ได้เดินต่อไป เรื่อยๆ เราจะพบกับอาคาร ที่เรียกว่า Benkeido
ผมไม่แน่ใจภาษาไทย จะแปลว่าอะไรดีนะครับ ไม่แน่ใจว่าเรียกว่า ศาลเจ้า หรือ เทวสถานเล็กๆ ไหม??
ซึ่งตลอดทั้ง 2 ข้างทาง จะมี Benkeido เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ตลอด 2 ข้างทางเดิน ซึ่งให้ความรู้สึกสงบๆและสบายใจ
เหมือนกับเรานั่งสมาธิอยู่ในอุโบสถของวัดเลย
ผมอาจจะไม่ลงรูปเยอะ นะครับ กลัวจะทำให้กระทู้ยาวเกินไป โดยจะเลือกลง เฉพาะอาคารหลักๆ และจุดที่น่าสนใจของวัดหลักๆ
5. Hondo Hall (Main Hall) ถือว่าเป็นอุโบสถของวัดในปัจจุบัน
ที่น่าสนใจคือที่วัด อนุญาตให้เราเข้าไปถ่ายรูป หรือ จะนั่งสมาธิภายใน พระอุโบสถ ได้เลยตามสะดวก
ซึ่งพระประธานองค์ปัจจุบันเป็นองค์ที่สร้างขึ้นใหม่
เลียนแบบ พระประธานองค์อื่นๆ ที่เก็บรักษาไว้ ในพิพิธภัณฑ์ ( Sankozo Museum)
6. หลักจากนั่น เราจะเดินผ่าน Benkeido อีกหลายแห่ง ระหว่าง 2 ข้างทาง ก่อนจะไปถึง Sankozo Museum
ที่เราจะสามารถ ซื้อ ตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์หลักของวัด และอาคาร Konjikido
ที่เป็นอาคารที่เก็บรักษา the golden hall ที่ถือว่าเป็น สมบัติแห่งชาติและสมบัติสำคัญทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น
ปัจจุบันพิพิธภัณฑ์ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปภายในอาคารได้แล้วครับ
สมัยก่อนรู้สึกว่าจะอนุญาตให้ถ่ายรูปในห้องจัดแสดงแรกที่เป็นที่เก็บรักษาพระประธานองค์เก่าๆของที่วัดได้
ถ้าใครถ้าชอบนั่งสมาธิในพระอุโบสถของวัดต่างๆ ปัจจุบันพิพิธภัณฑ์ก็จัดเกาอี้ไว้ให้นั่งท่องเที่ยว
ที่อยากนั่งชมความงานของพระประธานองค์เก่าๆนาน ด้วยครับ
7. หลังจากเราชม พิพิธภัณฑ์และศิลปะวัตถุใน Sankozo Musuem เสร็จแล้ว
เราก็สามารถเดินออกไปชม ความของ the Golden Hall ในอาคาร Konjikido ได้เลยครับ
ปล. ในอาคาร ไม่อนุญาต ให้ถ่ายรูปครับ
*** รูป Golden Hall จากอินเตอร์เนต นะครับ เพราะ ทางวัดไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป ภายในอาคาร
8. หลังจากชมความงานของ the golden Hall เสร็จแล้ว เราสามารถเดินไป อาคารเดิมของ Konjikido ที่เรียกว่า Kyo-Oido ได้
9. บรรยากาศของใบไม้เปลี่ยนสี ที่อาคาร Shakado Hall ในวันแรก
10. บรรยากาศ จุดชมวิว Kanzatei และ Lunchroom Cafe.
11. บรรยากาศ Hakusan Jinja No Butai ที่คู่รักหนุ่มสาวนิยมมาขอพรกัน
12. บรรยากาศ ของงาน Light up
โดยทางวัด จะทะยอย เปิดไฟ ในช่วงเวลา 16.30 ถึง 18.30 ในแต่ละวัน ครับ
โดยในแต่ละปี ช่วงของงาน Light up จะไม่เหมือนกันครับ
ในปี 2023 จะจัดในช่วงประมาณวันที่ 29 ตุลา ถึง 12 พฤศจิกายน 2023 ครับ
ใครอยากมาเที่ยวให้ตรงกับ งาน "Koyo Ginga" Fall Foliage Light-up at Chusonji Temple
ต้องคอยติดต่อ ข้อมูล จาก เว็บไซด์ ของวัดไว้นะครับ
https://www.chusonji.or.jp/language_en/
ส่วนบรรยากาศ ของสถานที่เที่ยวอื่นๆ ใน Hiraizumi วันที่ 2- 3 จะต่อในกระทู้ ต่อไปนะครับ
ใครมีข้อมูลอะไร เพิ่มเติม เกี่ยวกับวัด หรือ ต้องการข้อมูลอะไรเพิ่มเติม เกี่ยวกับ Hiraizumi สามารถ สอบถามได้เลยครับ
ผมจะพยายามอัพเดตให้ เท่าที่มีข้อมูลนะครับ
หวังว่าข้อมูลจะเป็นประโยชน์ กับการเดินทางไปเที่ยว Hiraizumi และวัด Chusonji นะครับ
[CR] ชวนเที่ยว เมืองมรดกโลก Hiraizumi ด้วยตัวเอง แบบ 3 วัน 2 คืน
วันนี้เลยอยากชวน ไปเที่ยวเมือง Hiraizumi
ซึ่งเป็น 1 ใน 23 เมืองมรดกโลกของญี่ปุ่น (World Heritage in Japan)
ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่วางแผนไปเที่ยวภูมิภาค Tohoku areas โดยใช้ JR Tohoku Pass
และ JR Pass อื่นๆที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ได้ครับ
โดยทริปนี้ ผมเองก็วางแผนมาเที่ยว ภูมิภาคนี้ 16 วัน 15 คืนเต็มๆ
และวางแผนไปวัด Chusonji เป็นที่แรก เพื่อไม่ให้พลาดงาน Light up ของที่นี่
>> ไปครับไปเที่ยวกัน
โดยการเดินทาง เริ่มต้นจาก Tokyo โดย Hayabusa Shinkansen จาก Tokyo Station to Ichinoseki Station
แล้ว ต่อรถไฟ JR Local line จาก Ichinoseki to Hiraizumi
หลังจากนั้น สามารถเลือกการเดินทาง จาก สถานที่รถไฟ ไปวัด Chusonji ได้หลายทางเลือก
1. สามารถต่อรถบัส จากหน้าสถานีรถไฟได้เลย ค่ารถบัส ประมาณ 200 เยน
2. สามารถเช่ารถจักรยาน จาก ที่เช่าจักรยาน ด้านหน้าสถานีรถไฟ
3. สามารถเดินไปที่วัดได้โดยตรง ใช้เวลาเดิน ประมาณ 20 นาที (ระยะทางเดิน ประมาณ 1.4 กม)
เนื่องจาก วันนี้ ผมวางแผน อยู่ ที่วัด Chusonji จนถึงช่วง Light up ในช่วงเย็น จึงตัดสินใจ เดินไปวัดแทนครับ
และไม่เช่าจักรยานในวันนี้ เพราะคุณลุงที่ให้เช่าจักรยาน บอกว่า ต้องมาส่งจักรยานคืน ก่อน 5 โมงเย็น
เส้นทางการเดิน จากสถานีรถไฟ ก็สะดวกสบายมากเลยครับ
เดินไปเรื่อยๆชิวๆครับมีวิวสวยๆให้ดูไปตลอดทางเลย
ใช้เวลาประมาณ 20 นาที เราก็จะมาถึง Chusonji Post Office
ซึ่งด้านหลัง จะมีที่จอดจักรยาน สำหรับคนที่เช่าจักรยาน มาที่วัดครับ
1. บรรยากาศ ทางเดินขึ้นวัด (Tsukimizaka Hill)
จากจุดนี้ เป็นทางเดินขึ้นเขาไปที่วัด โดยจะใช้เวลาเดินอีก ประมาณ 15-30 นาที
2. โดย 2 ข้างทางเราจะพบกับ ต้นสนขนาดใหญ่ ที่มีอายุมากกว่า 300 ปี ตลอด 2 ข้างทาง
3. บรรยากาศหน้าร้าน เนื่องจากผม มาถึงวัดประมาณ เที่ยงๆ พอดี เลย แวะทานอาหารกลางวันที่ร้านดัง ของ Hiraizumi ก่อนครับ
เป็นร้านเดียวกับคุณรุจ Outside The Room มาแวะทานในทริปล่าสุดด้วยครับ 555
ร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่ อายุกว่า 40 ปีครับ มีเมนู อร่อยๆ อยู่หลายเมนู
ส่วนที่ผมเลือกทานคือ Beef Udon อร่อยมากมายครับกิตหมดจนหยุดสุดท้าย ค่าเสียหาย 1,500 เยนครับ
4. หลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จ ก็ได้เดินต่อไป เรื่อยๆ เราจะพบกับอาคาร ที่เรียกว่า Benkeido
ผมไม่แน่ใจภาษาไทย จะแปลว่าอะไรดีนะครับ ไม่แน่ใจว่าเรียกว่า ศาลเจ้า หรือ เทวสถานเล็กๆ ไหม??
ซึ่งตลอดทั้ง 2 ข้างทาง จะมี Benkeido เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ตลอด 2 ข้างทางเดิน ซึ่งให้ความรู้สึกสงบๆและสบายใจ
เหมือนกับเรานั่งสมาธิอยู่ในอุโบสถของวัดเลย
ผมอาจจะไม่ลงรูปเยอะ นะครับ กลัวจะทำให้กระทู้ยาวเกินไป โดยจะเลือกลง เฉพาะอาคารหลักๆ และจุดที่น่าสนใจของวัดหลักๆ
5. Hondo Hall (Main Hall) ถือว่าเป็นอุโบสถของวัดในปัจจุบัน
ที่น่าสนใจคือที่วัด อนุญาตให้เราเข้าไปถ่ายรูป หรือ จะนั่งสมาธิภายใน พระอุโบสถ ได้เลยตามสะดวก
ซึ่งพระประธานองค์ปัจจุบันเป็นองค์ที่สร้างขึ้นใหม่
เลียนแบบ พระประธานองค์อื่นๆ ที่เก็บรักษาไว้ ในพิพิธภัณฑ์ ( Sankozo Museum)
6. หลักจากนั่น เราจะเดินผ่าน Benkeido อีกหลายแห่ง ระหว่าง 2 ข้างทาง ก่อนจะไปถึง Sankozo Museum
ที่เราจะสามารถ ซื้อ ตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์หลักของวัด และอาคาร Konjikido
ที่เป็นอาคารที่เก็บรักษา the golden hall ที่ถือว่าเป็น สมบัติแห่งชาติและสมบัติสำคัญทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น
ปัจจุบันพิพิธภัณฑ์ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปภายในอาคารได้แล้วครับ
สมัยก่อนรู้สึกว่าจะอนุญาตให้ถ่ายรูปในห้องจัดแสดงแรกที่เป็นที่เก็บรักษาพระประธานองค์เก่าๆของที่วัดได้
ถ้าใครถ้าชอบนั่งสมาธิในพระอุโบสถของวัดต่างๆ ปัจจุบันพิพิธภัณฑ์ก็จัดเกาอี้ไว้ให้นั่งท่องเที่ยว
ที่อยากนั่งชมความงานของพระประธานองค์เก่าๆนาน ด้วยครับ
7. หลังจากเราชม พิพิธภัณฑ์และศิลปะวัตถุใน Sankozo Musuem เสร็จแล้ว
เราก็สามารถเดินออกไปชม ความของ the Golden Hall ในอาคาร Konjikido ได้เลยครับ
ปล. ในอาคาร ไม่อนุญาต ให้ถ่ายรูปครับ
*** รูป Golden Hall จากอินเตอร์เนต นะครับ เพราะ ทางวัดไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป ภายในอาคาร
8. หลังจากชมความงานของ the golden Hall เสร็จแล้ว เราสามารถเดินไป อาคารเดิมของ Konjikido ที่เรียกว่า Kyo-Oido ได้
9. บรรยากาศของใบไม้เปลี่ยนสี ที่อาคาร Shakado Hall ในวันแรก
10. บรรยากาศ จุดชมวิว Kanzatei และ Lunchroom Cafe.
11. บรรยากาศ Hakusan Jinja No Butai ที่คู่รักหนุ่มสาวนิยมมาขอพรกัน
12. บรรยากาศ ของงาน Light up
โดยทางวัด จะทะยอย เปิดไฟ ในช่วงเวลา 16.30 ถึง 18.30 ในแต่ละวัน ครับ
โดยในแต่ละปี ช่วงของงาน Light up จะไม่เหมือนกันครับ
ในปี 2023 จะจัดในช่วงประมาณวันที่ 29 ตุลา ถึง 12 พฤศจิกายน 2023 ครับ
ใครอยากมาเที่ยวให้ตรงกับ งาน "Koyo Ginga" Fall Foliage Light-up at Chusonji Temple
ต้องคอยติดต่อ ข้อมูล จาก เว็บไซด์ ของวัดไว้นะครับ
https://www.chusonji.or.jp/language_en/
ส่วนบรรยากาศ ของสถานที่เที่ยวอื่นๆ ใน Hiraizumi วันที่ 2- 3 จะต่อในกระทู้ ต่อไปนะครับ
ใครมีข้อมูลอะไร เพิ่มเติม เกี่ยวกับวัด หรือ ต้องการข้อมูลอะไรเพิ่มเติม เกี่ยวกับ Hiraizumi สามารถ สอบถามได้เลยครับ
ผมจะพยายามอัพเดตให้ เท่าที่มีข้อมูลนะครับ
หวังว่าข้อมูลจะเป็นประโยชน์ กับการเดินทางไปเที่ยว Hiraizumi และวัด Chusonji นะครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น