คือมีแพลนแต่งงานต้นปีหน้าค่ะ แล้วประมาณเดือน ก.ค.ที่แล้วไปเจอเพจนึงที่มีโปร์ราคาเช่าชุดรวมแต่งหน้า ซึ่งพอไปดูหน้าร้านก็ได้ตัดสินใจมัดจำไป ทางร้านเก็บราคามัดจำครึ่งนึงเลย แล้วก็นัดเรามาดูอีกทีประมาณ พ.ย. บอกก่อนว่าทางร้านไม่ได้มีแค่เช่าชุดแต่งงาน มีงานอื่นเยอะพอสมควร พอถึง พ.ย. เราทักไป ทางร้านติดงานนอก บอกเราให้ไปเลือกอีกทีปลาย ธ.ค. ซึ่งเรารู้สึกว่ามันช้าไปรึป่าว เพราะอยากจะดูชุด ลองชุดแบบอื่นๆ อีก แล้วแฟนเราก็คือมีรูปร่างใหญ่ ยังไม่เคยได้ลองชุด เรากังวลว่าเขาจะไม่มีไซส์ (ร้านค่อนข้างเล็ก และชุดไม่ได้มีเยอะ) พอวันนี้เราจะผ่านไปทำธุระแถวนั้น บวกกับแฟนเราว่างพอดี ซึ่งแฟนเราลางานยากมาก แล้วช่างแต่งหน้าที่เราถ่ายพรีไป แนะนำให้เรารีบเข้าไปคุยกับร้านเลย เราเลยตัดสินใจโทรหาร้านเพื่อจะเข้าไปดู ร้านก็โอเค เข้ามาได้ พอเราไปถึงเจ้าของร้านค่อนข้างดูยุ่งๆ และเหมือนไม่ค่อยเต็มใจที่จะบริการ พูดว่างานเราเหลืออีกตั้งเป็นเดือน เหมือนเรารีบร้อนมาก เราเลยรู้สึกไม่ค่อยโอเค แต่ก็ได้แค่บอกไปว่า เรากังวลเรื่องชุดแฟนเรามากกว่า เพราะไซส์ใหญ่ กลัวจะไม่มีชุด ร้านก็แบบให้ลองแบบรีบๆ ซึ่งจริงๆ แฟนเราเป็นคนที่อะไรก็ได้ แต่เรารู้สึกได้ว่าเขายังไม่ถูกใจ เราเฟลนิดๆ ค่ะ ร้านก็ย้ำมากว่างานเราอีกตั้งเป็นเดือน เข้าใจว่าร้านงานเยอะ ไม่เคยเร่งหรือจู้จี้เลย มีแต่เกรงใจร้านด้วยซ้ำค่ะ ใจเราอยากจะหาร้านใหม่มาก เราจะยอมเสียมัดจำ แต่เราก็กลัวแฟนจะว่าเรา เพราะเขาไม่เรื่องมาก ยังไงก็ได้ เราคิดมากไปหรือเปล่าคะ หรือเราควรตัดในรีบหาร้านใหม่ไปเลย 
ปล.เราได้ชุดแล้ว แต่เราอยากลองหลายๆ แบบ มากกว่านี้