เราตัดสินใจทำเลเบียเพราะ เลเบียเรามันยื่นออกมาและทั้ง 2 ข้าง ไม่เท่ากัน เนื้อที่คลุมคริสตอริสก็เยอะมาก ง่ายๆ เลยคือ เด่นทั้งคริสตอริสและเลเบีย
เป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็กๆ ใส่ กกน ก็มาถูจนบางครั้งอักเสบ บวมเราก็คิดว่ามันปกติใครๆ ก็เป็นกัน ไม่รู้เลยว่ามันแปลกไม่เหมือนคนอื่น
จนเรามีแฟนแล้วเขาถามว่าเราเคยมีอะไรกับคนอื่นมาเยอะหรอ ตอนนั้นเราเสียความมั่นใจมาก กลายเป็นปม แต่ก็ไม่กล้าที่จะทำอะไรได้แต่เก็บไว้ในใจ

จนวันนึงอยู่ๆ เราอยากทำเลเบีย ยอมรับเลยว่า ไม่ได้หาข้อมูลคลินิคหรือวิธีการผ่าตัดเลย เราไม่เคยทำศัยกรรมอะไรมาก่อนด้วย
เลยไม่รู้ว่าต้องหาข้อมูลอะไรบ้าง ประกอบกับไม่กล้าปรึกษาใคร เลยตัดสินใจจองคิวกับคลินิคแห่งนึง ซึ่งใกล้บ้านไม่ใช่คลินิคชื่อดังอะไรเลย
จ่ายมัดจำทุกอย่าง (ราคาไม่รวมค่ายา ต้องจ่ายแยก) ได้กำหนดทำเลเบียเมื่อต้นเดือน ตุลาคม 66 เราตัดสินใจเร็วมาก ราคาก็ไม่ได้ถูกพอๆ กับคลินิคอื่นๆ
เพียงแค่ไม่ไกลบ้าน กลัวทำเสร็จแล้วจะกลับบ้านลำบาก เพราะเราไปทำคนเดียว กลับคนเดียว

ช่วงเวลาก่อนไปทำเลเบีย ด้วยเราอยู่คนเดียว เราเลยเตรียมของไว้เยอะมาก เช่น น้ำเกลือ เบตตาดีน ผ้าก๊อต (เน้นขวดใหญ่ และยกกล่อง)
แต่ๆๆ เราไม่รู้เลยว่า ต้องกินยาลดบวมด้วย เราพลาดมากที่ไม่ได้เตรียมไว้ และคิดว่าทางคลินิคน่าจะมียามาให้เราอย่างน้อยๆ สัก 7 วัน
เรารอด้วยความตื่นเต้น จนถึงก่อนวันทำเลเบีย 1 วัน (ก่อนหน้านี้ ตอนเรากำหนดวันทำ ทางคลินิคแจ้งว่า จะมีพนักงานติดต่อเรามาก่อนวันทำ 1 วัน)
เรารอจนเกือบ 5 โมงเย็น เลยทักไปสอบถาม พนักงานบอกให้รอก่อนค่ะ จะมีพนักงานโทรไป 5 โมงเย็น เราก็รอเกือบ 6 โมงเย็นมีพนักงานโทรมา
และจะขอเลื่อนวันทำเลเบียไปอีกอาทิตย์นึง ให้เหตุผลว่า คุณหมอไม่ว่าง เราเลยถามไปว่า เราจองคิวล่วงหน้า 1 เดือน
และถ้าคุณหมอไม่ว่างก็ควรติดต่อเรามาก่อน ไม่ใช่มาบอกก่อนวันผ่าตัด เพราะลางานไว้ 4 วัน ไม่สามารถเลื่อนวันได้
พนักงานหายไป 10 นาที ก็ติดต่อกลับมาบอกว่า วันและเวลาเดิมได้ค่ะ คุณหมอ จะมาผ่าตัดให้ก่อน เราก็ได้ค่ะ
(แต่ในใจคือ เริ่มไม่โอเคแล้วนะ ชักเริ่มกลัวนั่นนี่)

ถึงวันผ่าตัด นัดเรา 11.00 น เรานั่งรอ นอนรอ คุณหมอ มาถึงคลินิค 13.00 น ให้เรารอในห้องมีเตียง ฉากกั้น เป็นห้องธรรมดา ไม่เหมือนที่เราคิดเลย
ว่าห้องผ่าตัด ต้องมีเครื่องมือนั้นนี่ ห้องน่าจะดูทางการกว่านี้ ให้เราขึ้นขาหยั่ง คุณหมอ เข้ามาก็รีบถ่ายรูป รีบพูดๆ รีบฉีดยาชา (ตอนฉีดยาชา เจ็บมากๆ)
ตอนนั้น บอกตรงๆ เรางงไปหมด ในใจกลัวไม่อยากทำแล้วอ่ะ หรือที่อื่นๆ ก็เป็นแบบนี้นะ หมอรีบๆ ทำให้เสร็จ

ต้องบอกก่อนว่า ตอนแรกที่เราจองมาคือ ทำเลเบียอย่างเดียว แต่คุณหมอ แนะนำให้เราตัดแต่งเนื้อที่คลุมคริสตอริสด้วย (เพิ่มเงินด้วย) เราก็อันทำค่ะ
ไหนๆ ก็เจ็บละทำทีเดียวเลย ตอนฉีดยาชา รู้สึกเจ็บมาก แต่ยังทนได้ คุณหมอเริ่มทำที่เลเบียก่อน ตอนทำไม่เจ็บเลยนะ แค่รู้สึกตอนเย็บ ตอนดึง
จนตัดแต่งคริสตอริส คุณหมอ ฉีดยาชาตอนฉีดเจ็บพอๆ กับเลเบีย ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 1 ชม ผ่าตัดเสร็จคุณหมอ ถ่ายรูปให้ดู เอาจริงก็ดูดีกว่าตอนผ่าตัด
แต่น้องสาวเริ่มบวม เพราะทำ 2 อย่างพร้อมกัน แต่ก็โอเคที่ไม่มีอะไรผิดพลาด มีพนักงานมาช่วยพยุง แต่งตัวเดินลงบันไดมารับยา (ยาแก้ปวด อย่างเดียว) และใบนัดด้านล่าง ตอนนั้นไม่เจ็บเลยค่ะ แค่รู้สึกว่า น้องสาวบวมขึ้น เดินขาถ่างนิดนึง ตอนนั้น ในใจคือ ฉันต้องรีบถึงบ้าน ก่อนที่ยาชาจะหมดฤทธิ์

วันแรก กลับบ้าน ก็ไม่มีอาการเจ็บอะไรเลยค่ะ แค่รู้สึกว่า น้องสาวบวมขึ้นมาก

วันที่ 2 เริ่มบวม ช้ำ และมาเลือดซึมออกมา
แต่เราอยู่บ้านเราไม่ใส่กางเกงในปล่อยโล่งเลยค่ะ อาก็ยังปกติดี

วันที่ 3 นี่สิ เป็นไข้ แผลบวมมาก และช้ำมาก เราอยู่คนเดียวด้วย
เลยโทรหาร้านยาใกล้บ้าน ให้ช่วยจัดยาตามอาการ แล้วให้ร้านยาเรียกรถมาส่งให้เราที่บ้าน เภสัชน่ารักมาก โทรติดตามเราตลอด กลัวเราอาการหนัก
พี่ที่มาส่งของก็น่ารัก รีบโทรบอกเภสัช บอกเราออกมารับยาเองได้ (ยังไม่ตาย 5555) หลังกินยาพักผ่อน ก็ดีขึ้นมาอีกหน่อย

วันที่ 4 อาการเริ่มดีขึ้น ไข้ลดลง ยังบวมเหมือนเดิม พรุ่งนี้ต้องทำงานแล้วด้วย

วันที่ 5-8 ยังบวม ช้ำ ตอนใส่กางเกงใน คือเข็บมากๆ เดินก็เสียดสียิ่งเจ็บ (เราใส่ผ้าอนามัยด้วย) เลยตัดสินใจ ไม่ใส่ผ้าอนามัย เข้าห้องน้ำใช้ทิชชู่เปียกซับ
ใช้ผ้าก๊อตวับจนแห้ง และเปลี่ยนกางเกงในใหม่ทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำเลยค่ะ เพราะเปื้อนเลือด

วันที่ 9-13 ไม่มีเลือดซึมแล้ว บวมน้อยลง มีช้ำบ้างเล็กน้อย แต่เรามีตกขาว สีขาวขุ่น แต่ไม่คัน เริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ

วันที่ 14 เราไปหาหมอตามนัด พร้อมตัดไหมออกบางส่วน (คุณหมอ ไม่ใช่คนที่ผ่าตัดให้เรานะ) บอกว่าแผลสวยดี ส่วนตกขาว อาจเกิดจากเมนส์เราใกล้จะมาด้วย และเรากินยาฆ่าเชื้อ (ที่ซื้อมาเอง) และยังให้กินยาลดบวมต่อสักอาทิตย์ และนัดเราอีกครั้งครบ 1 เดือน

วันที่ 15-22 ประจำเดือนเรามา เราแทบจะลืมน้องสาวไปเลย เพราะไปยุ่งกับเขาไม่ได้

ก่อนครบ 1 เดือน ประมาณ 4 วัน ยังมีไหมที่ยังตัดไม่หมด เริ่มคัน บวม และมีเลือดซึมออกมา เราพยายามดึงไหมออกมา ก้หลุดออกมาบางส่วนนะ
แต่ไม่แนะนำให้ดึงแบบเรานะคะ จะอักเสบติดเชื้อได้ ของเรายังดีที่ดึงแล้วหลุด

ครบ 1 เดือน คุณหมอ ตัดไหมส่วนที่เหลือออกให้ทั้งหมด (ไม่ใช่คุณหมอ 2 คนแรกค่ะ) คุณหมอบอก แผลหายดีแล้ว ไม่อักเสบ ไม่มีอะไรผิดปกติ

ตอนนี้ เราผ่าตัดเลเบียครบ 2 เดือนแล้ว แผลหายดี ไม่เจ็บ ไม่บวม หรือช้ำ เรายังอาบน้ำกับสบู่เหลวของเด็กตามที่หมอแนะนำ
และหลังอาบน้ำเรายังนั่งตากพัดลมให้น้องสาวแห้งสนิท (ก่อนหน้านี้ มีช่วงที่รู้สึกว่า น้องสาวแห้งมาก เพราะพยายามดูแลให้แห้งสนิท
ทำให้ระคายเคืองได้ เราใช้น้ำมันมะพร้าวนิดหน่อยนวดเบาๆ ช่วยได้นะคะ

เราโชคดีที่ผ่าตัดแล้วไม่มีอะไรพลาด ถึงแม้จะมีเรื่องให้ลุ้นตลอดก็ตาม อยากบอกเพื่อนๆ ว่า ศึกษาข้อมูลทั้งการดูแล การผ่าตัด
รวมถึงคลินิคที่จะไปทำด้วยนะคะ ทุกๆ อย่างสำคัญทั้งหมดค่ะ เราหวังว่ารีวิวนี้ จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ นะคะ