ผมจำได้เมื่อสิบกว่าปีก่อน ในยุคที่ social media ยังไม่ครองเวลาและ pantip ยังเป็นแหล่งข้อมูลและสนทนา online ต้นๆ มีกระทู้รีวิวเข้าไปเที่ยวประเทศเกาหลีเหนือ บินเข้าไปผ่านทางจีน ซึ่งเปิดหูเปิดตามากๆ ในยุคที่คนทั่วๆไปยังไม่ได้สามารถสร้าง content เองได้ดั่งปัจจุบัน
ความรู้สึกของผมไม่ต่างกับคนที่ได้อ่านและคอมเม้นท์ต่างๆ คนเกาหลีเหนือน่าสงสาร ถูกความคุมการใช้ชีวิต ถูกปิดหูปิดตา และไม่สามารถรู้อะไรได้ถ้าหากรัฐไม่ให้ ซึ่งเอาจริงๆ ก็ไม่มีใครเคยคุยกันคนเกาหลีเหนือ หรือเข้าไปใช้ชีวิตยังที่นั้น แต่ต่างล้วนตีความผ่านความรู้สึกไปในทิศทางเดียวกัน ว่าต่างโชคดีหรือดีกว่าแล้วที่ประเทศไทยไม่เป็นเช่นนั้น
ณ พ.ศ. ปัจจุบัน ทำไมผมกลับรู้สึก ประเทศไทยที่เปิดการเช้าถึงอินเตอร์เนต โอเค แม้มีการบล็อคหรือเซนเซอร์สื่อต่างๆอยู่เนืองๆ การศึกษาแม้ไม่ดีเลิศแต่ไม่ได้แย่ไม่พัฒนา เวลาผ่านไป เรากลับรับรู้อะไรที่มันผิดแปลก ยิ่งรู้ยิ่งขัดสามัญสำนึก ยิ่งรู้ยิ่งขัดแย้ง ยิ่งรู้ยิ่งหาคำอธิบายได้ยากขึ้นเรื่อยๆ ว่าที่เรารับเข้ามา ตลอดมันเชื่อได้แค่ไหน มันจริงแค่ไหน
ซึ่งมันน่าอัศจรรย์ ในประเทศไทยที่เทียบกันถือว่าเปิดกว้างกว่าอย่างมาก กลับสามารถสร้างฉันทามติหรือค่านิยมบางอย่างที่ครอบผู้คนทั้งประเทศได้อย่างได้ผลอย่างไม่น่าเชื่อ
ประเด็นคือ เราที่เคยรู้สึกกับประเทศที่ปิดกั้นทุกอย่าง แล้วไปรู้สึกเห็นใจว่าเขาจะเป็นอย่างไร แต่เรากลับแทบไม่รู้ตัวเองในประเทศนี้เลย เรากลับเชื่อว่าเรารับรู้รับทราบทุกอย่างตามสิ่งที่มันเป็นจริงแล้ว
เมื่อเคยอ่านกระทู้รีวิวไปเที่ยวเกาหลีเหนือเมื่อสิบก่อน และความรู้สึกปัจจุบัน
ความรู้สึกของผมไม่ต่างกับคนที่ได้อ่านและคอมเม้นท์ต่างๆ คนเกาหลีเหนือน่าสงสาร ถูกความคุมการใช้ชีวิต ถูกปิดหูปิดตา และไม่สามารถรู้อะไรได้ถ้าหากรัฐไม่ให้ ซึ่งเอาจริงๆ ก็ไม่มีใครเคยคุยกันคนเกาหลีเหนือ หรือเข้าไปใช้ชีวิตยังที่นั้น แต่ต่างล้วนตีความผ่านความรู้สึกไปในทิศทางเดียวกัน ว่าต่างโชคดีหรือดีกว่าแล้วที่ประเทศไทยไม่เป็นเช่นนั้น
ณ พ.ศ. ปัจจุบัน ทำไมผมกลับรู้สึก ประเทศไทยที่เปิดการเช้าถึงอินเตอร์เนต โอเค แม้มีการบล็อคหรือเซนเซอร์สื่อต่างๆอยู่เนืองๆ การศึกษาแม้ไม่ดีเลิศแต่ไม่ได้แย่ไม่พัฒนา เวลาผ่านไป เรากลับรับรู้อะไรที่มันผิดแปลก ยิ่งรู้ยิ่งขัดสามัญสำนึก ยิ่งรู้ยิ่งขัดแย้ง ยิ่งรู้ยิ่งหาคำอธิบายได้ยากขึ้นเรื่อยๆ ว่าที่เรารับเข้ามา ตลอดมันเชื่อได้แค่ไหน มันจริงแค่ไหน
ซึ่งมันน่าอัศจรรย์ ในประเทศไทยที่เทียบกันถือว่าเปิดกว้างกว่าอย่างมาก กลับสามารถสร้างฉันทามติหรือค่านิยมบางอย่างที่ครอบผู้คนทั้งประเทศได้อย่างได้ผลอย่างไม่น่าเชื่อ
ประเด็นคือ เราที่เคยรู้สึกกับประเทศที่ปิดกั้นทุกอย่าง แล้วไปรู้สึกเห็นใจว่าเขาจะเป็นอย่างไร แต่เรากลับแทบไม่รู้ตัวเองในประเทศนี้เลย เรากลับเชื่อว่าเรารับรู้รับทราบทุกอย่างตามสิ่งที่มันเป็นจริงแล้ว