สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 69
รอบที่แล้ว เรื่องแม่สามีจะมาเลี้ยงลูก คุณปฏิเสธไปแล้ว (โดยมีทางออกคือ แม่คุณมาเลี้ยงลูกแทน)
รอบนั้น สามีคุณยอมไปแล้วค่ะ โดยที่คุณ ไม่อาจทราบได้เลย ว่ามันเกิดรอยแผลอะไร ขึ้นมาในใจเขาบ้าง
ในตอนนั้น คุณชนะด้วยเหตุผล เขาจำยอม
ในรอบนี้ เหตุผลของคุณอ่อนไปมาก อย่างไรเขาคงไม่ยอม
คุณบอก ให้เขาไปบอกแม่ว่า ไปอยู่สถานพยาบาลเอกชนเถอะ เพราะที่นั่น “พร้อมดูแลผู้ป่วยกว่า”
เหตุผลจริงๆ คือ “คุณรู้สึกไม่เป็นส่วนตัว” และคุณโทษแม่สามี โดยคิดว่า ถ้าเป็นคุณ คุณจะ “ไม่ทำให้ลูกเดือดร้อน”
คุณบอกว่า คุณรักเขา
คุณฟัง เหตุผลของเขาบ้างไหมคะ ?
แม้คุณจะฝืนใจ ไม่ได้ตามที่ต้องการนัก แต่ความรักนี่แหละค่ะ จะช่วยให้คุณกล้ำกลืนฝืนยอมรับความไม่เป็นส่วนตัวได้
เพราะหากครั้งนี้ คุณปฏิเสธเสียงแข็ง
รอยบากในความสัมพันธ์ครั้งนี้ จะยากมากที่จะผสานรอยร้าว
เพราะนี่มันเรื่องคอขาดบาดตาย แม่เขาป่วยถึงขั้นติดเตียง อาจจะเสียชีวิตไปในไม่ช้า
พอจะเดาความเจ็บปวดของเขาออกไหมคะ หากเขา คือ คนที่จะต้องปฏิเสธ ไม่ดูแลแม่เป็นครั้งสุดท้าย
เพียงเพราะ ภรรยาจะขาดความเป็นส่วนตัวไป
จะให้เขาไปโน้มน้าวแม่อย่างไรคะ ? ในเมื่อ แม่เขาไม่อยากไป
คนป่วยที่รู้ตัวเองดี ว่า พลังชีวิตอ่อนแอลงไปทุกวัน
มักจะอยากตายที่บ้านค่ะ อยากอยู่ใกล้ลูกหลาน อยากเห็นหน้ากันเป็นครั้งสุดท้าย ด้วยอาลัย และยังต้องการความอบอุ่นใจ / กำลังใจ
ก่อนที่พญามัจจุราช จะมาฉุดทำลายทุกอย่างไป
ความตายมันน่าสะพรึงกลัว มากพอๆ กับความทรมานกายใจที่ต้องทุกข์ทนกับโรคร้ายนี้
แม่เขาก็กำลังอ่อนแอ อย่างถึงที่สุดค่ะ
คิดซะว่า สงสารคนแก่คนหนึ่ง ในช่วงวาระสุดท้ายของชีวิตเถิดนะคะ
และคนแก่คนนั้น คือ แม่ของสามีคุณ
คิดซะว่า ให้โอกาสสามีคุณ ได้ดูแลแม่อย่างเต็มที่ จะได้ไม่ต้องมีอะไรติดค้างหัวใจตัวเอง
จนต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตเถิดค่ะ
คิดซะว่า เป็นโอกาสดี ที่คุณจะได้ เสียสละ (ความเป็นส่วนตัว ความสุขส่วนตัว) เพื่อคนที่คุณรักบ้าง
น้ำใจของคุณในครั้งนี้ เขาจะซึ้งใจ
เวลาคุณบอกรักเขา ฟังแล้วจะหวานหูขึ้น จะไม่รู้สึกถึงความแห้งแล้งห่างไกล อย่างที่เขารู้สึกตอนนี้ค่ะ
รอบนั้น สามีคุณยอมไปแล้วค่ะ โดยที่คุณ ไม่อาจทราบได้เลย ว่ามันเกิดรอยแผลอะไร ขึ้นมาในใจเขาบ้าง
ในตอนนั้น คุณชนะด้วยเหตุผล เขาจำยอม
ในรอบนี้ เหตุผลของคุณอ่อนไปมาก อย่างไรเขาคงไม่ยอม
คุณบอก ให้เขาไปบอกแม่ว่า ไปอยู่สถานพยาบาลเอกชนเถอะ เพราะที่นั่น “พร้อมดูแลผู้ป่วยกว่า”
เหตุผลจริงๆ คือ “คุณรู้สึกไม่เป็นส่วนตัว” และคุณโทษแม่สามี โดยคิดว่า ถ้าเป็นคุณ คุณจะ “ไม่ทำให้ลูกเดือดร้อน”
คุณบอกว่า คุณรักเขา
คุณฟัง เหตุผลของเขาบ้างไหมคะ ?
แม้คุณจะฝืนใจ ไม่ได้ตามที่ต้องการนัก แต่ความรักนี่แหละค่ะ จะช่วยให้คุณกล้ำกลืนฝืนยอมรับความไม่เป็นส่วนตัวได้
เพราะหากครั้งนี้ คุณปฏิเสธเสียงแข็ง
รอยบากในความสัมพันธ์ครั้งนี้ จะยากมากที่จะผสานรอยร้าว
เพราะนี่มันเรื่องคอขาดบาดตาย แม่เขาป่วยถึงขั้นติดเตียง อาจจะเสียชีวิตไปในไม่ช้า
พอจะเดาความเจ็บปวดของเขาออกไหมคะ หากเขา คือ คนที่จะต้องปฏิเสธ ไม่ดูแลแม่เป็นครั้งสุดท้าย
เพียงเพราะ ภรรยาจะขาดความเป็นส่วนตัวไป
จะให้เขาไปโน้มน้าวแม่อย่างไรคะ ? ในเมื่อ แม่เขาไม่อยากไป
คนป่วยที่รู้ตัวเองดี ว่า พลังชีวิตอ่อนแอลงไปทุกวัน
มักจะอยากตายที่บ้านค่ะ อยากอยู่ใกล้ลูกหลาน อยากเห็นหน้ากันเป็นครั้งสุดท้าย ด้วยอาลัย และยังต้องการความอบอุ่นใจ / กำลังใจ
ก่อนที่พญามัจจุราช จะมาฉุดทำลายทุกอย่างไป
ความตายมันน่าสะพรึงกลัว มากพอๆ กับความทรมานกายใจที่ต้องทุกข์ทนกับโรคร้ายนี้
แม่เขาก็กำลังอ่อนแอ อย่างถึงที่สุดค่ะ
คิดซะว่า สงสารคนแก่คนหนึ่ง ในช่วงวาระสุดท้ายของชีวิตเถิดนะคะ
และคนแก่คนนั้น คือ แม่ของสามีคุณ
คิดซะว่า ให้โอกาสสามีคุณ ได้ดูแลแม่อย่างเต็มที่ จะได้ไม่ต้องมีอะไรติดค้างหัวใจตัวเอง
จนต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตเถิดค่ะ
คิดซะว่า เป็นโอกาสดี ที่คุณจะได้ เสียสละ (ความเป็นส่วนตัว ความสุขส่วนตัว) เพื่อคนที่คุณรักบ้าง
น้ำใจของคุณในครั้งนี้ เขาจะซึ้งใจ
เวลาคุณบอกรักเขา ฟังแล้วจะหวานหูขึ้น จะไม่รู้สึกถึงความแห้งแล้งห่างไกล อย่างที่เขารู้สึกตอนนี้ค่ะ
ความคิดเห็นที่ 9
กระทู้เก่าคุณเมื่อปี 61
"เราแต่งงานอยู่กับแฟนมาแล้ว4ปี แต่แยกมาอยู่กัน2คนที่ห้องเช่า พอเข้าปีที่4แฟนเราซื้อบ้าน และกำลังท้องลูกคนแรกได้36W เราก็อยู่กัน2คนตามปกติ แต่เมื่อคืนแม่แฟนบอกว่าจะลงมาดูแลหลานชายคนโตแต่แม่จะมาพร้อมกับหลานชายคนเล็กอีกคน(ลูกพีสาวแฟน)เพราะพี่สาวแฟนมีอบรมเดือนกว่าไม่มีใครดูแลหลาน พี่สาวแฟนอยู่คนละอำเภอกับเราแต่โรงเรียนหลานชายคนโตอยู่ใกล้หมู่บ้านเรา ก็เลยจะมาอยู่บ้านเราเพราะใกล้ และคนที่รับส่งหลานก็คงจะเป็นเราเพราะเราลาคลอดพอดี ไหนเราจะเลี้ยงลูกเราเอง แล้วยังยังต้องคอยดูแลเรื่องกับข้าว เรื่องงานบ้านอีก ซึ่งหลานๆแฟนก็ซนมาก บอกไรก็ไม่ฟังเลย ดุก็ไม่ได้ เราอึดอัด เราไม่ชอบคนเยอะเสียงดัง ไม่ชอบบ้านเลอะเทอะอ่ะ (คือบ้านเขาไม่ค่อยชอบความสะอาดเท่าไหร่)แล้วอีกอย่างเราคุยกับแฟนแล้วว่าจะพาแม่เราเองมาช่วยเลี้ยงลูกให้ แต่พอรู้ว่าแม่แฟนกับหลานๆจะมาอยู่ด้วย เราไม่รู้จะทำไงดีเลย พอคุยกับแฟนว่าถ้าคลอดแล้วจะเอาลูกกลับไปเลี้ยงที่บ้านแม่ แฟนก็ไม่โอเค แล้วก็ว่าเราไม่เอาครอบครัวเขาเลย เราจะทำไงดี"
ทีแม่ตัวเองล่ะเนาะ คนเรา5555 คุณต้องเฉดหัวแม่คุณออกจากบ้านค่ะ มันถึงจะเท่าเทียม เอะอะก็อ้างความเป็นส่วนตัว ผู้ป่วยติดเตียง เขาจะรบกวนอะไรคุณได้สักเท่าไหร่กันเชียว
คุณคิดว่าคุณอึดอัดเป็นคนเดียวหรือไง ที่ต้องอยู่กับพ่อแม่คนอื่นอะ ไม่คิดถึงหัวอกสามีเลยที่ต้องอยู่กับแม่คุณอะ เอาแต่ได้อยู่นะคนเรา เบ้ปาก!
"เราแต่งงานอยู่กับแฟนมาแล้ว4ปี แต่แยกมาอยู่กัน2คนที่ห้องเช่า พอเข้าปีที่4แฟนเราซื้อบ้าน และกำลังท้องลูกคนแรกได้36W เราก็อยู่กัน2คนตามปกติ แต่เมื่อคืนแม่แฟนบอกว่าจะลงมาดูแลหลานชายคนโตแต่แม่จะมาพร้อมกับหลานชายคนเล็กอีกคน(ลูกพีสาวแฟน)เพราะพี่สาวแฟนมีอบรมเดือนกว่าไม่มีใครดูแลหลาน พี่สาวแฟนอยู่คนละอำเภอกับเราแต่โรงเรียนหลานชายคนโตอยู่ใกล้หมู่บ้านเรา ก็เลยจะมาอยู่บ้านเราเพราะใกล้ และคนที่รับส่งหลานก็คงจะเป็นเราเพราะเราลาคลอดพอดี ไหนเราจะเลี้ยงลูกเราเอง แล้วยังยังต้องคอยดูแลเรื่องกับข้าว เรื่องงานบ้านอีก ซึ่งหลานๆแฟนก็ซนมาก บอกไรก็ไม่ฟังเลย ดุก็ไม่ได้ เราอึดอัด เราไม่ชอบคนเยอะเสียงดัง ไม่ชอบบ้านเลอะเทอะอ่ะ (คือบ้านเขาไม่ค่อยชอบความสะอาดเท่าไหร่)แล้วอีกอย่างเราคุยกับแฟนแล้วว่าจะพาแม่เราเองมาช่วยเลี้ยงลูกให้ แต่พอรู้ว่าแม่แฟนกับหลานๆจะมาอยู่ด้วย เราไม่รู้จะทำไงดีเลย พอคุยกับแฟนว่าถ้าคลอดแล้วจะเอาลูกกลับไปเลี้ยงที่บ้านแม่ แฟนก็ไม่โอเค แล้วก็ว่าเราไม่เอาครอบครัวเขาเลย เราจะทำไงดี"
ทีแม่ตัวเองล่ะเนาะ คนเรา5555 คุณต้องเฉดหัวแม่คุณออกจากบ้านค่ะ มันถึงจะเท่าเทียม เอะอะก็อ้างความเป็นส่วนตัว ผู้ป่วยติดเตียง เขาจะรบกวนอะไรคุณได้สักเท่าไหร่กันเชียว
คุณคิดว่าคุณอึดอัดเป็นคนเดียวหรือไง ที่ต้องอยู่กับพ่อแม่คนอื่นอะ ไม่คิดถึงหัวอกสามีเลยที่ต้องอยู่กับแม่คุณอะ เอาแต่ได้อยู่นะคนเรา เบ้ปาก!
แสดงความคิดเห็น
แฟนเราขอรับแม่กับพยาบาลมาอยู่ที่บ้านเรา 24 ชม.เพราะแม่ไม่ยอมไปอยู่บ้านพักดูแลผู้ป่วย เรารู้สึกว่าไม่มีความเป็นส่วนตัว