โอซาก้าที่ถือเป็นอีกหนึ่งเมืองในญี่ปุ่นนับไม่ถ้วนตลอดปี 
เริ่มต้นปีใหม่ด้วย “ฮาสึโมเดะ (Hatsumode)” ในวันขึ้นปีใหม่ ต่อด้วย “เทศกาลเอบิสุ (Ebisu Matsuri)” เพื่อขอพรให้การค้าขายราบรื่นตลอดทั้งปี ส่วน “เทศกาลเซสึบุน Setsubun” เพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีเทศกาลอยู่มากมาย แต่จะมีอยู่หนึ่งเทศกาลที่เข้ากับช่วงสิ้นปีแบบนี้เป็นอย่างยิ่ง นั่นก็คือ “ เทศกาลโทเมะโนะ (Tomeno Matsuri)” หรือเทศกาลชินโน ณ ศาลเจ้าซุกุนะฮิโคนะ(Sukunahikona Shrine) แห่งเทพเจ้าชินโน (Shinno : 神農さん) เทพเจ้าแห่งการแพทย์และยา ที่ชาวโอซาก้าศรัทธาอย่างกว้างขวาง
ความเป็นมาของเทศกาลนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.1822 ที่โอซาก้าเกิดโรคระบาดอหิวาตกโรค ในช่วงนั้นวงการการแพทย์จึงได้ผลิตยารักษาแบบเม็ดกลมขึ้นมา และได้ขอพรต่อหน้าเทพเจ้าไปพร้อมๆ กับ เครื่องรางเสือ “ชินโกะ : 神虎” หรือ ฮาริโกะ โนะ โทระ (แปลว่าเปเปอร์มาเช่เสือ) 
ด้วยเรื่องราวที่ได้กล่าวข้างต้นทำให้หากคนโอซาก้านึกถึงเทพเจ้าชินโนก็จะนึกถึง “ฮาริโกะ โนะ โทระ” นี้ตั้งแต่สมัยโบราณสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน
ครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปดู “เทศกาลชินโน” กันค่ะ

ที่ตั้งของศาลเจ้าอยู่ที่พื้นที่ “โดโชมาจิ (道修町)” ใกล้สถานีโยโดยะบาชิ (Yodoyabashi Station) ซึ่งสามารถนั่งรถไฟเคฮัง ที่เชื่อมระหว่างโอซาก้า และเกียวโต นั่งจากสถานีนัมบะใกล้แลนด์มาร์คดังอย่างป้ายกูลิโกะมาเพียง 3 สถานีเท่านั้น 
ซึ่งบริเวณรอบๆ นี้เป็นแหล่งรวมร้านต่างๆ ที่เกี่ยวกับการแพทย์หรือสินค้าเกี่ยวกับการอนามัยทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นบริษัทผลิตยา ร้านจำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดย เทพเจ้าชินโน (ศาลเจ้าซุกุนะฮิโคนะ) ศาลเจ้าเก่าแก่แห่งนี้ตั้งอยู่กลางย่านนี้ เทพเจ้าที่ตั้งอยู่ในย่านนี้จึงเป็นที่รู้จักในนาม เทพเจ้าแห่งยา โดยคนโอซาก้าจะเรียกท่านว่า “ชินโนซัง” ค่ะ 

ผู้คนมากมายท่ามกลางทางเดินภายในศาลเจ้าเล็กๆ แห่งนี้ เป็นศาลเจ้าเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจ โดยปกติแล้วผู้คนเบาบาง และไม่โดเด่นแต่อย่างใด แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงเทศกาลผู้คนก็คับคั่ง 
โดยปกติแล้วเมื่อผู้เข้าร่วมมีจำนวนมากก็จะจำกัดการเข้า ทำให้ต้องต่อแถวรอเข้าบริเวณตามลำดับ 
เมื่อมองไปรอบจะเห็นว่าโคมไฟที่ประดับอยู่มีแต่ชื่อบริษัทที่เกี่ยวกับการแพทย์หรือสุขอนามัยทั้งนั้นเลยค่ะ

ชินโนซัง เทพเจ้าแห่งยา ระหว่างทางเดินก็จะมีตู้โชว์ยาที่พบเห็นได้ทั่วไปในญี่ปุ่น ป้ายด้านบนมีภาษาต่างๆ อธิบายอยู่ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น อังกฤษ จีน และที่สำคัญมีภาษาไทยด้วย!

ต่อแถวเดินมาตามทางเดินศาลเจ้าใช้เวลาประมาณ 20 นาที ในทีสุดก็เดินทางมาถึงภายในบริเวณศาลเจ้าแล้ว ก่อนอื่นก็ไปสักการะเทพเจ้าเพื่อขอพรให้ครอบครัวอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข และปราศจากโรคภัยไข้เจ็บตลอดทั้งปีนี้ 
บรรยากาศวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ใจกลางย่านธุกิจ ท่ามกลางตึกสูง ที่ผู้คนให้ความเลื่อมใสศรัทธา ประดับด้วยโคมไฟญี่ปุ่นทั่วทั้งบริเวณ

เมื่อกราบไหว้สักการะขอพรแล้ว ผู้คนส่วนใหญ่ก็จะไปบูชาเครื่องรางกิ่งไผ่ที่ประดับเปเปอร์มาเช่เสือแบบในภาพ (ภาษาญี่ปุ่น:神虎笹) เมื่อขอพรให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขตลอดทั้งปี ซึ่งเครื่องรางกิ่งไผ่แบบนี้จะเหมือนกันเครื่องรางเทศกาลเอบิสุ แต่จุดเด่นของเทศกาลนี้คือ กิ่งไผ่ที่ประดับเปเปอร์มาเช่เสือนั่นเอง
ซึ่งจุดบูชาเครื่องรางจะมีมิโกะซังแสนสวยแบบในภาพดูแลส่วนนี้อยู่ และเมื่อบูชาเครื่องรางเสือแล้วก็จะสั่นกระดิ่งเสียงดังเพื่อปัดเป่าพลังงานลบออกไปให้ผู้บูชาด้วยค่ะ มิโซะซังน่ารักกันมากๆ เลย

เครื่องรางกิ่งไผ่ที่ประดับเปเปอร์มาเช่เสือแบบในภาพ (ภาษาญี่ปุ่น:神虎笹)
ภาพจาก https://www.sinnosan.jp/news/689/

เมื่อเสร็จสิ้นทุกสิ่งและเดินออกจากชินโนซังไปทั้งทางตะวันตก และตะวันออกก็จะมีเส้นทางร้านยาไตเรียงรายอยู่ทั้งแถบ เพลิดเพลินกับบรรยากาศงานเทศกาลพร้อมของกินน่าทานมากมาย ทั้งทาโกยากิ หรือโอโคโนะมิยากิของขึ้นชื่อของโอซาก้า และนอกจากร้านขายอาหารของกินแล้ว ยังมีร้านดูดวง หรือร้านยิงปืนอีกด้วย 
แต่สิ่งที่ต้องระวังนิดนึงคือร้านต่างๆ และตัวศาลเจ้าเองจะปิดเวลา 2 ทุ่มเท่านั้น เพราะฉะนั้นถ้าใครจะไปแนะนำว่าให้รีบไปก่อนศาลเจ้าปิดนะคะจะได้ไม่ไปเสียเที่ยว

เทศกาลชินโน จัดขึ้นวันที่ 22 และ วันที่ 23 เดือนพฤศจิกายนของทุกปี เป็นช่วงที่เริ่มหนาวขึ้นเรื่อยๆ และเตรียมเข้าสู่เดือนสุดท้ายของปีในเดือนธันวาคม 
วันนี้เป็นโอกาสที่ดีจึงได้พาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับเทศกาลโทะเมะโนะ หรือ เทศกาลชินโนกันค่ะ สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่วางแผนไปเที่ยวโอซาก้า หรือบริเวณใกล้เคียงอย่างเกียวโตในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีปีหน้าก็ลองแวะมาที่ศาลเจ้าเล็กๆ แห่งนี้เพื่อแวะมางานเทศกาลกันนะคะ

สำหรับการเดินทางไปศาลเจ้า Sukunahikona
สถานีที่ใกล้ที่สุดคือรถไฟใต้ดินสายซาไกซุจิ "สถานีคิตาฮามะ" (Osaka Metro "Kitahama Station" - Subway Sakaisuji Line) 

แถมอีกนิดนึงสำหรับจุดช้อปปิ้งที่สามารถนั่งจากสถานีใกล้ศาลเจ้าอย่าง สถานีรถไฟคิตะฮามะ นั่นก็คือย่านนิปปอนบาชิเด็นเด็นทาวน์
สามารถเดินทางจากสถานีคิตาฮามะ โดยนั่งรถไฟสายซาไกซุจิ Subway Sakaisuji Line ไป 4 สถานี เพื่อลงที่ "สถานีเอบิสุโจ Ebisucho Station"
(ขึ้นจาก Platform 1 ค่าเดินทาง 240 เยน)

ย่าน "นิปปอนบาชิเด็นเด็นทาวน์" แหล่งจำหน่ายของเล่น ของสะสม การ์ตูน อนิเมะ เครื่องใช้ไฟฟ้า
อีกทั้งยังมี “โอตะโร้ด” ที่เป็นส่วนหนึ่งของย่านนี้ นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นสถานที่จัดงาน คอสเพลย์ขนาดใหญ่ในโอซาก้าอย่าง “NIPPONBASHI STREET FESTA” 

ร้านที่อยากแนะนำในย่านนี้ก็คือ แหล่งช้อปของเล่น ของสะสม โมเดล ฟิกเกอร์ กันดั้มกันพลา “ซุปเปอร์คิดส์แลนด์ เมนสโตร (SUPER KIDSLAND Main Store)”

สำหรับสายของเล่น ของสะสม กันดั้มกันพลา โมเดล ฟิกเกอร์ มีทั้งหมด 5 ชั้น
ชั้นที่ 1 จำหน่ายกันดั้ม กันพลา โมเดล ฟิกเกอร์ คาแรคเตอร์ทั้งญี่ปุ่น และต่างประเทศ และของเล่นทั่วไป
ช้นที่ 2 โมเดลประกอบทั่วไป
ชั้นที่ 3 ทามิย่าเวิลด์ TAMIYA WORLD
ชั้นที่ 4 โมเดลสำเร็จ ส่วนใหญ่เป็นโมเดลรถยนต์ รถแข่ง รถสปอรต์
ชั้นที่ 5 ทุกอย่างที่เกี่ยวกับ รถไฟ ไม่ว่าจะเป็นโมเดล หรืออุปกรณ์สร้างเมืองจำลองรถไฟ

บริเวณตรวกลางก็เป็นมือขนาดใหญ่ และเข้าสู่โซนชั้นที่หนึ่งทางด้านขวามือเลย 

มีตู้โชว์โมเดล ฟิกเกอร์ใหญ่มากกกอยู่ตรงทางเข้าร้าน

โซนจำหน่ายสินค้ากันดั้ม กันพลา โมเดล ฟิกเกอร์ ทั้งในประเทศญี่ปุ่น และต่างประเทศ ในโซนชั้นที่ 1
สิ่งที่จะเห็นสุดตาเป็นอย่างแรกนั้นก็คงหนีไม่พ้นตู้โชว์ โมเดล ฟิกเกอร์ ขนาดใหญ่ รวบรวมคาแรคเตอร์หลากหลาย จากการ์ตูนเรื่องต่างๆ ทั้งในประเทศญี่ปุ่น และต่างประเทศ

สำหรับโซนไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ โซนกันดั้ม กันพลา ที่ชั้น 1 กับโซนกันดั้ม กันพลา ที่รวมทุกแบบเอาไว้ มีสินค้าให้เลือกแบบจุใจ ทั้ง PERFECTGRADE, MG, HG, RG หรือ RE/100  ราคาถูกกว่าราคาทั่วไปถึง 20% เนื่องจากทางร้านรับมาโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเข้าใหม่ หรือสินค้ารีสต๊อค

ซึ่งนอกจากจะเป็นโซนจำหน่ายสินค้าแล้ว ตามจุดต่างๆ ยังมีตู้โชว์เล็กๆ เพื่อแสดงสินค้าตัวอย่างให้ดูแบบนี้อีกด้วยอย่างที่เห็นเลย

ที่ตู้โชว์ก็ไม่ได้วางสินค้าไว้เฉยๆ แต่ก็มีการจัดท่าทางต่างๆ ให้สมจริง อย่างอุปกรณ์ตกแต่งต่างๆ ก็มีขายดิสเพลย์ให้ดูน่าสนใจ ดูเพลินมากๆ

และนอกจากกันพลาแล้ว ที่นี่ยังมีสินค้า GOODS เกี่ยวกับกันดั้มจำหน่ายอยู่อีกด้วย ทั้งตราสัญลักษณ์ เข็มกลัด โลโก้ติดผ้า เสื้อแบบต่างๆ หนังสือเกี่ยวกับกันดั้ม หรือซีดี ดีวีดี จำหน่ายอยู่อีกด้วยค่ะ

โซนฟิกเกอร์ดาบพิฆาตอสูร

ฟิกเกอร์อื่นๆ ก็มีเยอะมาก อย่างเช่นเซเลอร์มูน

ด้วยค่าเงินตอนนี้ บวกกับเราจะได้ TAX FREE ไปด้วยถ้าซื้อเกิน 5,000 เยน เพราะฉะนั้นตอนนี้แหละคุ้มมากกกก

“nanoblock” ตัวต่อจิ๋วเป็นรูปร่าง คาแรคเตอร์ต่างๆ เป็นอีกหนึ่งของฝากจากญี่ปุ่นสุดน่ารัก เด็กก็เล่นได้ ผู้ใหญ่ก็ต้องชื่นชอบ ตั้งโชว์น่ารักๆ กันไปเลย คาแรคเตอร์ก็มีให้เลือกมากมาย อย่างเช่น โปเกม่อน ราคาแรคเตอร์ต่างๆ  จะซื้อไปเป็นของฝาก หรือซื้อไปตกแต่งบ้านก็น่ารักมากๆ

โมเดลพลาสติกโปเกม่อนคาแรคเตอร์ต่างๆ

สำหรับชั้นที่ 3 จะเป็นโซน TAMIYA WORLD ทั้งชั้น สินค้าอัดแน่นมากๆ ไม่ว่าจะเป็น MINI4WD ทั้งเซตตัวต่อแบบสำเร็จ หรือชิ้นส่วนแยกก็ให้เลือกครบ โมเดลพลาสติก ตั้งแต่ โมเดลรถสปอร์ต 1/24 ไปจนถึง ซีรี่ส์มอเตอร์ไซค์ 1/12 หรือ 1/6 ฯลฯ อีกมากมาย
นอกจากนี้ยังมีโซน MINI4WD ทั้งเซตตัวต่อแบบสำเร็จ หรือชิ้นส่วนแยกก็มีขายหมด ทั้งสี ล้อ มอเตอร์ หรือโครงทรงต่างๆ
และที่พิเศษคือมีลานแข่ง MINI4WD ด้วย สามารถใช้ได้ตามอัธยาศัยเลย

โซน MINI4WD พร้อมตู้โชว์

ส่วนชั้นที่ 5 เป็นโซนรถไฟทั้งชั้น มีสินค้าเกี่ยวกับรถไฟแบบจัดเต็ม ให้เลือกมากมายกว่า 10,000 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นสินค้ายอดนิยมของญี่ปุ่นอย่าง รถไฟ “N Gauge” หรือ HO Gauge นอกจากนี้ยังมี สินค้าขาดตลาด สินค้าหายาก จำหน่ายอยู่อีกด้วย

อุปกรณ์ตกแต่งเพื่อจำลองไดโอรามาก็มีให้เลือกเพียบ

และอีกร้านในย่านนี้ที่ของที่ขายในร้านก็จะอีกบรรยากาศนึงเลย แต่ก็เป็นร้าน TAX FREE เหมือนกันก็คือ
“โจชิน นิปปอนบาชิ (Joshin Nipponbashi)”

เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องเล่นเกม แผ่นเกม Switch/Playstation แผ่นเสียง แผ่น CD DVD Blu-ray นาฬิกา หรือแม้แต่ของเล่น ของสะสมในร้านนี้ก็มีอีกด้วย ที่เพิ่งเปิดให้บริการไปเมื่อช่วงสินปีที่ผ่านมา