นักรบสาวหัวใจมหากาฬ (Brave) เป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นแฟนตาซีสัญชาติอเมริกัน ปี ค.ศ. 2012 ผลิตโดยพิกซาร์ แอนิเมชั่น สตูดิโอส์ และจัดจำหน่ายโดย วอลท์ ดิสนีย์ พิคเจอร์ กำกับโดยมาร์ค แอนดรูว์และเบรนดา แชปแมน เรื่องราวโดยแชปแมน เขียนบทภาพยนตร์โดยเบรนดา แชปแมน ร่วมกับ มาร์ค แอนดรูว์, สตีฟ เพอร์เซลล์ และ ไอรีน เมคชี่ ภาพยนตร์เรื่องนี้ให้เสียงพากย์ตัวแสดงนำโดยเคลลี่ แม็คโดนัลด์, เอ็มม่า ทอมป์สัน, บิลลี่ คอนนอลลี่, จูลี่ วอลเตอร์ส, ร็อบบี้ โคลเทรน, เควิน แม็คคิดด์ และเคร็ก เฟอร์กูสัน ดนตรีประกอบโดยแพทริค ดอยล์
         ในดินแดนที่ราบสูงที่ลึกลับและรกร้างของสก็อตแลนด์ เต็มไปด้วยตำนานการผจญภัยที่เล่าขานสืบต่อกันมารุ่นสู่รุ่น หนึ่งในนั้นคือเรื่องราวการผจญภัยของ เมอริดา (เคลลี่ แม็คโดนัลด์) นักธนูมือฉมัง ธิดาหัวรั้นของกษัตริย์เฟอร์กัส (บิลลี่ คอนนอลลี่) และราชินีเอลินอร์ (เอ็มม่า ทอมป์สัน)
          ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของตัวเอง เมอริดาได้ท้าทายธรรมเนียมเก่าแก่ ซึ่งเป็นธรรมเนียมศักดิ์สิทธิ์เพื่อป้องกันความกระด้างกระเดื่องระหว่างบรรดาผู้ครองแคว้นที่ควบคุมได้ยาก ซึ่งประกอบไปด้วยลอร์ดแม็กกัฟฟินร่างใหญ่ (เควิน แม็คคิดด์) ลอร์ดแม็กอินทอชผู้หน้าตาบูดบึ้ง (เคร็ก เฟอร์กูสัน) และลอร์ดดิงวอลล์ขี้หงุดหงิด (ร็อบบี้ โคลเทรน)
          การกระทำนี้นำมาซึ่งความโกลาหลในราชอาณาจักร เมื่อเธอหันไปขอความช่วยเหลือจากแม่มดชราท่าทางประหลาด (จูลี่ วอลเตอร์ส) เธอกลับได้รับพรที่เลวร้าย และอันตรายที่ลุกคืบเข้ามาก็บีบให้เมอริดาต้องเรียกใช้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอมี ซึ่งรวมถึงน้องชายแฝดสามจอมซนของเธอ เพื่อทำลายคำสาปร้ายและค้นหาความหมายของความกล้าหาญที่แท้จริง
เรื่องย่อ :
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้          ในสกอตแลนด์ยุคกลาง เจ้าหญิงเมอริดาแห่งราชอาณาจักรดันโบรชได้รับธนูและลูกธนู จากคิงเฟอร์กัสผู้เป็นบิดาเนื่องในวันเกิดปีที่หกของเธอ ซึ่งทำให้ควีนเอลินอร์ พระมารดาของเธอต้องตะลึง ในขณะที่เข้าไปในป่าเพื่อฝึกง้างศร เมอริดาพบกับผีน้อยเรืองแสง จากนั้นไม่นานก็มี มอร์ดู หมีปีศาจตัวใหญ่โจมตีครอบครัวเธอ เมอริดาหนีไปบนหลังม้ากับมารดา ขณะที่คิงเฟอร์กัสและทหารต่อสู้กับมอร์ดู การต่อสู้ทำให้เขาเสียขาไปข้างหนึ่ง

          สิบปีต่อมา เมอริดา ซึ่งตอนนี้อายุสิบหกปี พบว่าเธอกำลังจะถูกหมั้นหมายให้กับลูกชายของหนึ่งในพันธมิตรของพ่อ เอลินอร์อธิบายว่าการไม่ยินยอมให้มีการหมั้นหมายอาจเป็นอันตรายต่อดันโบรช และเตือนให้เมอริดานึกถึงตำนานของเจ้าชายที่มีความเย่อหยิ่งและปฏิเสธที่จะทำตามความปรารถนาของบิดาจนทำให้อาณาจักรของเขาต้องถูกทำลาย

          เหล่าลอร์ดแห่งแคว้นพันธมิตรและบุตรชายหัวปีของพวกเขามาเพื่อแข่งขันในเกมไฮแลนด์สำหรับการขอแต่งงานกับเมอริดา แต่เมอริดาได้แหกกฎ โดยประกาศว่าในฐานะลูกคนหัวปีของตระกูลของเธอ เธอมีสิทธิ์ร่วมแข่งขันเพื่อแย่งชิงตำแหน่งของเธอเองด้วย (สิทธื์ที่จะแต่งกับตัวเองหรือเป็นโสด) เมอริดาเอาชนะว่าที่คู่ครองของเธอได้อย่างง่ายดายในการแข่งขันยิงธนู สร้างความอับอายให้กับกลุ่มแคว้นอื่นๆ และหลังจากพูดโต้เถียงขัดแย้งอย่างเผ็ดร้อนกันกับพระมารดา เธอก็หนีเข้าไปในป่า ได้พบกับ ผีน้อยเรืองแสง และนำเธอไปสู่กระท่อมของแม่มดแก่เจ้าเล่ห์ เมอริดาได้รับมนต์สะกดเพื่อเปลี่ยนชะตากรรมของเธอ และแม่มดก็มอบเค้กวิเศษให้กับเธอ

          เมื่อเมอริดาเอาเค้กนั้นให้พระมารดาทาน มันทำให้นางกลายเป็นหมี พูดไม่ได้แต่ยังคงจิตสำนึกความเป็นมนุษย์ส่วนใหญ่ไว้ เมอริดารีบกลับไปยังกระท่อมของแม่มดพร้อมกับมารดา แต่พบว่ามันร้าง และพบข้อความจากแม่มดว่า เมอริดาจะต้อง "แก้ไขสานสายสัมพันธ์ที่ฉีกขาดไปจากความถือดีอวดเก่งสำเร็จ" ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นครั้งที่สอง มิเช่นนั้นแล้ว มนต์คาถาที่สาปจะคงอยู่ถาวร  เมอริดาและมารดา ถูกนำพาไปยังซากปรักหักพังโบราณโดยผีน้อยเรืองแสง ที่นั่นพวกเขาได้พบกับมอร์ดู และได้ตระหนักว่ามอร์ดู ที่แท้ก็คือเจ้าชายในตำนานที่ต้องคำสาป เมอริดาสาบานว่าจะไม่ยอมให้สิ่งนี้เกิดขึ้นกับมารดาของเธอ และสรุปว่าเธอจำเป็นต้องซ่อมแซมพรมของครอบครัวที่เธอทำขาดเสียหายระหว่างการโต้เถียงกันกับมารดา

          พวกเขากลับไปที่ปราสาทเพื่อพบกับเหล่าลอร์ดที่ขัดแย้งกันและใกล้จะเกิดเป็นสงคราม เมอริดาตั้งใจที่จะยอมอ่อนข้อและประกาศตัวเองว่าพร้อมจะเลือกคู่ครองตามธรรมเนียมประเพณี แต่เอลินอร์กลับเตือนเธอ ให้ยืนกรานว่าบุตรคนหัวปีควรได้รับอนุญาตให้แต่งงานกับใครก็ได้ที่พวกเขาเลือก ทุกแคว้นตกลงเห็นด้วย ยอมทำลายธรรมเนียมประเพณีเก่าแก่ เพื่อสืบสานและสร้างเสริมความแน่นแฟ้นของกลุ่มพันธมิตร

          เมอริดาแอบเข้าไปในห้องพรมกับมารดา ขณะที่คิงเฟอร์กัสมองหาภรรยาของเขา พบว่าเธอจากไปแล้ว เอลินอร์ซึ่งตอนนี้ได้สูญเสียความเป็นมนุษย์แล้ว อยู่ในร่างหมี พุ่งเข้าทำร้ายคิงเฟอร์กัส แต่จู่ๆ เธอก็สงบสติอารมณ์และวิ่งหนีออกจากปราสาทไป คิงเฟอร์กัสเข้าใจผิดคิดว่ามอร์ดูทำร้ายราชินีและกินภรรยาของเขาแล้ว จึงไล่ตามหมีพร้อมด้วยกลุ่มอื่น โดยขังเมอริดาไว้ในปราสาท เมอริดาหลบหนีด้วยความช่วยเหลือจากแฮร์ริส ฮิวเบิร์ต และฮามิช น้องชายแฝดสามของเธอ ซึ่งกินเค้กวิเศษไปด้วยเหมือนกันและตอนนี้ก็เป็นลูกหมี เมอริดาซ่อมแซมพรมจนเสร็จและรีบออกไปตามหาบิดาของเธอ คิงเฟอร์กัสและกลุ่มต่างๆ ช่วยกันจับเอลินอร์ร่างหมีได้ แต่เมอริดาขัดขวางพวกเขาก่อนที่มอร์ดูตัวจริงจะมาถึง มอร์ดูทำร้ายเหล่านักรบและมุ่งเป้าไปที่เมอริดา แต่เอลินอร์เข้าขวาง ยับยั้งมอร์ดู และทำให้เขาถูกหินตั้งโบราณก้อนใหญ่ล้มทับใส่ เป็นการปลดปล่อยจิตวิญญาณของเจ้าชายให้เป็นอิสระ เขารู้สึกขอบคุณเมอริดาอย่างเงียบๆ หลังจากเหตุการณ์สงบลง เมอริดาคลุมมารดาของเธอด้วยพรมที่ซ่อมแซมดีแล้ว แต่นางก็ยังคงเป็นหมี เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นเป็นครั้งที่สอง เมอริดาได้ตระหนักถึงความผิดพลาดที่เธอได้ทำลงไป และร้องไห้ขอโทษเพื่อคืนดีกับมารดาของเธอ ทำให้บรรลุความหมายที่แท้จริงของข้อความของแม่มดโดยไม่รู้ตัว ซึ่งมีผลย้อนทำลายมนต์คาถาที่สาปมารดาและน้องชายของเธอให้มลายสิ้น

          เมื่อร่างหมีมอร์ดูหายไปแล้ว เมอริดาและมารดา ก็ได้ร่วมกันทำพรมผืนใหม่ขึ้น ต่อมาพวกเขาถูกเชิญไปที่ท่าเรือเพื่ออำลากลุ่มแคว้นอื่นๆ และทั้งคู่ต่างขี่ม้ากลับด้วยกันอย่างมีความสุข