สวัสดีค่ะทุกคน //โบกไม้โบกมือ กลับมาพบกับ…พับกบ The Review Team เจ้าเก่าเจ้าเดิมเพิ่มเติมคือ เรากำลังจะพาทุกคนไปเที่ยวกันอีกแล้ว(เรื่องเที่ยวขอให้บอกไม่เป็นรองใครอยู่แล้ว 😆 ) หลังจากกระทู้ที่แล้ว เราท้าชวนทุกคนไปขนหัวลุกก่อนใครกันไกลถึง สิงคโปร์ กับอีเวนต์ Halloween Horror Nights 11@USS สิงคโปร์ มีโอกาสได้ไปเช็กอินเที่ยวที่สนุก ๆ แบบนี้ทั้งที จะกลับเลยได้ยังไง มันม่ายด้าย! ฉะนั้นเลยขอาสาพาทุกคนเที่ยวเล่น Resorts World Sentosa สิงคโปร์ เวอร์ชันแบบซูม ๆ กันอีกสักหนึ่งกระทู้ พร้อมกับมัดรวม 2 ที่เที่ยว 2 ที่กิน 2 ที่นอน ฉบับ Must go มาให้ทุกคนได้ตามรอย จะไปเที่ยวไหน นอนไหน กินอะไรบ้าง อย่าเพิ่งจดเพราะเรายังไม่บอกตรงนี้ แต่รับรองได้เลยว่ามา สิงคโปร์รอบหน้า และมาที่ Resorts World Sentosa จะได้ความทรงจำที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน  😎


อันดับแรกสุด ก่อนจะออกเที่ยวแบบซูม ๆ เราขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ Resorts World Sentosa กันนิดนึง Resorts World Sentosa ตั้งอยู่บนเกาะเซ็นโตซ่า ทางใต้ของสิงคโปร์ หลายคนอาจจะได้ยินชื่อที่นี่กันมาบ้าง เพราะเป็นที่ตั้งของสวนสนุกระดับโลกอย่าง Universal Studios Singapore ที่ไม่ได้มีไฮไลต์แค่สวนสนุก แต่ยังเป็น One-Stop Entertainment Destination ศูนย์รวมความบันเทิงแห่งการพักผ่อน ที่นี่ก็เลยรับจบทั้งที่พัก กิจกรรมความบันเทิง ร้านอาหารระดับ มิชลินไกด์ ช้อปปิ้ง แต่ละที่อยู่ในบริเวณไม่ไกลกัน เดินถึงกัน หรือนั่งรถ Shuttle Bus ก็ยังได้ เหมาะมากสำหรับการพักผ่อนขั้นสุด

การเดินทางมา Resorts World Sentosa จาก Changi Airport มีหลายออปชันให้เลือกตามความสะดวกและความด่วน ไม่ว่าจะเป็น รถไฟ รถบัส หรือ Taxi  

• Taxi ใช้เวลา ประมาณ 28 นาที
• Train/Sentosa Express  
จากสถานี Harbourfront ใช้ทางออก E เข้าห้าง VivoCity จากนั้นขึ้นรถไฟ Sentosa Express มาลงที่สถานี Resorts World station

เก็บกระเป๋าเข้าที่พักเรียบร้อย ก็ได้เวลาเที่ยว Resorts World Sentosa แบบซูม ๆ พร้อมสถานที่ Must go ให้ทุกคนตามรอยแล้ว


มีทริปเที่ยวก็ต้องมีที่พัก ไม่รอช้ามาแนะนำให้ทุกคนได้ตามรอยกันเลยดีกว่า มีด้วยกัน 2 ที่พัก 2 สไตล์ได้แก่ Hotel Ora โรงแรมน้องใหม่สุดเก๋ ที่ให้ฟีลเหมือนอยู่บ้าน และ Equarius TreeTop Lofts ที่พักแบบวิลล่าให้ความเป็นส่วนตัวสูงสุด ตั้งอยู่บนต้นไม้สูงกว่า 12 เมตร ที่สำคัญพักที่นี่มีบริการผู้ช่วยส่วนตัวด้วย

Hotel Ora เป็นโรงแรมน้องใหม่ที่ตั้งใจออกแบบมาเพื่อทำให้ทุกคนที่มาพักจุดประกายไอเดียใหม่ ๆ ให้กับชีวิต  ต้องบอกว่าตัวโรงแรมออกแบบได้ดีมาก มีช่องแสงไว้รับแสงธรรมชาติหลายจุด เพดานสูงโล่ง  บริเวณ Lobby ก็กว้างขวางมาก ๆ จัดสัดส่วนได้ลงตัว อารมณ์จะเหมือนอยู่ในห้องสมุดนิด ๆ สามารถ ทำงานได้ (ถ้ามี) จะนั่งเล่นเมาท์มอยเพื่อนสาวก็ได้ สิ่งอำนวยความสะดวกก็มีทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส


รูปแบบห้องพักที่ Hotel Ora จะมี 3 Type ได้แก่ Deluxe Room, Deluxe Pool View และ Deluxe Suite ซึ่งห้องที่เราจะพาทุกคนมาดูจะเป็น Deluxe Room และ Deluxe Suite

Deluxe Room จะเป็นรูปแบบห้องมาตรฐาน ขนาด 32 ตารางเมตร ภายในห้องก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทีวีขนาด 65 นิ้ว มีเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูลด้วย รูปแบบการตกแต่งห้อง จะเน้นงานไม้ผสมกับภาพงานศิลปะ มีความอาร์ตนิด ๆ


Deluxe Suite จะเป็นรูปแบบห้องที่พรีเมียมสุดอะไรสุดของโรงแรม มีพื้นที่รวม 64 ตารางเมตร เหมาะกับพักผ่อนแบบครอบครัวเป็นพิเศษ มีการแยกส่วนของห้องนั่งเล่น พื้นที่ทานอาหาร และห้องนอนไว้เป็นสัดส่วน ไม่พูดเยอะ ดูรูปกันเลยดีกว่า แล้วลองคิดว่าถ้าได้มาพักที่นี่จะน่าประทับใจแค่ไหน


มาต่อกันอีกหนึ่งโรงแรมที่ใครเห็นก็ร้องว้าว เชื่อเถอะ มีชื่อว่า Equarius TreeTop Lofts จะเป็นที่พักแบบวิลล่าสไตล์ลอฟท์อยู่บนต้นไม้ที่สูงถึง 12 เมตร ที่สำคัญมีบริการผู้ช่วยส่วนตัวด้วย

ขนาดของห้องพักจะมีขนาดประมาณ 94 ตารางเมตร มีความธรรมชาติค่อนข้างสูงและเป็นส่วนตัว  การตกแต่งจะเน้นเป็นงานไม้ ใกล้ชิดธรรมชาติ