ชีวิตเราอาจไม่ได้ตอบสนองกับกิเลสเลยมั๊ง เที่ยวรอบโลกไม่สน เป็นอินฟูลร้อยล้านซับก็ไม่อยาก เป็นฮีโร่ทางการเมืองก็ไม่เอา เป็นเจ้าฮาเรมก็ไม่ชอบ วันๆ ทำงาน ส่งเฝ้าคนป่วยไปโรงพยาบาล ทุกอย่างที่สดใสสดชื่นผัสสะ มาเทกระจาดทิ้งที่โรงพยาบาล สถานที่ต่างๆ ที่มีคนทุกข์ กลับบ้านก็หมดมอดทุกอย่าง
ไม่อาจจะนิยามตัวเองว่าเป็นคนชั้นชนไหน เพราะไม่มีศักยภาพแม้แต่จะมีหนี้ก็ไม่มีสิทธิ์ จึงต้องสร้างเอง สังคมก็อุดมคนแก่ วัยรุ่นยุคนี้เขาไม่เอาคนเจนแก่เพราะการเมือง เปิดทีวีมาก็เมาขี้ฟันนักเล่าข่าว คอมเมนเตเตอร์ รายการอวยคน ตลกบ้างไม่ตลกบ่อยๆ เพลงหาฟังได้แต่ยุคเรา หนังสืออ่านยากลำบากตา เมื่อก่อนเราเข้าถึงไอทีไฮเทค แต่วันนี้ bigtech คือของแสลงต้องเลี่ยงไม่ใช้ เคยพยายามกลับไปเสพไอที เอาเข้าจริงคอมฟอร์ตโซนคือ adult video ที่เหลือพวกสาระดันเหนื่อยจะเข้าถึง แค่ช้อปปิ้งออนไลน์ต้องกรองแล้วกรองอีกกว่าจะมั่นใจในการซื้อสักอย่าง เสียพลังงานชีวิตไม่น้อย
เชื่อไหมว่าทุกวันนี้ถ้าไม่ ชตอ ก็ไม่เพลียหลับ เราทำงานตอนมืดนอนตอนดวงอาทิตย์แผดจ้า ตื่นมาก็บ่ายเย็น บ้างหลายวันก็แหกตานั่งหมกที่โรงพยาบาล มีครั้งนึงเราเครียด คิดวูบนึงกรูโดดตึกโรงพยาบาลตายดีไหม แต่อาคารที่เราอยู่ตรงนั้นมันชั้นเดียว และข้างหน้าคือรูปสักการะ เราหน้าร้อนวาบตาเปียกเหมือนคนบ้าเลย สติหลุดจริงๆ ดีที่คนไม่เห็น ไม่อยากออกทีวี
ความเครียดมันก็คงมี เรื้อรังไหมไม่รู้ เมื่อก่อนมีเวลาซื้อจักรยานมาขี่ซ่อมจนเซียน เจอที่แปลกๆ เจอคนใหม่ๆ ก็เพลินใจ บ้างก็นอนต่างเมือง บ้างก็จัดทัวร์ข้ามคืนจนเช้า แต่พอบรรลุแล้วก็เลิก ไปทำงานอาสา กลับคิดถึงคนที่บ้านแล้วไม่อาจไปต่อก็เลิก คนที่ไหนก็มีทุกข์กันหมด แต่เราเลือกคนที่บ้านแทน สัตว์เลี้ยงไม่ได้เพราะบุพการีเคยสร้างภาพร้ายให้จำ หากหาคู่ครองอย่าหาเรื่องลำบากเขา ไม่มีเงินก็ไม่เจอกัน เจอแล้วเสร็จก็อย่าหลงสนิทมาก ที่ซุกหัวนอนมีแต่โทรมลง บางทีเราคิดว่าบุพการีมีเราเพื่อใช้งานยามยากจริงๆ ทดแทนคุณจนตายตามก็ไม่ปาน สวนกระแสคนยุคนี้ที่ว่าไม่ได้ขอให้เกิดมาจงอย่าทวงบุญคุณ นี่คิดว่าถ้าถึงจุดหนึ่งพวกเราคงได้มีวันมรณะวันเดียวกันหรือเปล่า
มันมีการกระทำหลายอย่างเพื่อละทิ้งสิ่งที่ถือครอง คนที่บ้านรู้เรื่องก็หม่นหมองตามกัน เพราะแขนขาของคนบ้านนี้มีแค่เรา เราเริ่มเคลียร์ของนอกกาย ไม่มีของใหม่แทนของเก่า รถไม่ต้อง ev เพราะควันอาจมีประโยชน์ คนนอกแวดวงความสัมพันธ์ปล่อยจืดจาง งานอดิเรกที่เรื้อรังยืดเยื้อก็หยุด ช่วงนี้มันรู้สึกโล่ง เริ่มลังเลว่านี่อาจเป็นการเริ่มต้นชีวิตบทใหม่หรือเปล่า หรือนี่คืออาการสุดท้ายของโรคที่เปิดโอกาสให้แจ่มใสปล่อยวาง
อโหสิกรรมให้ด้วย
มีใคร พยายามทำทุกอย่างในชีวิตให้เคลียร์ เพื่อเตรียมตัวตายไหม
ไม่อาจจะนิยามตัวเองว่าเป็นคนชั้นชนไหน เพราะไม่มีศักยภาพแม้แต่จะมีหนี้ก็ไม่มีสิทธิ์ จึงต้องสร้างเอง สังคมก็อุดมคนแก่ วัยรุ่นยุคนี้เขาไม่เอาคนเจนแก่เพราะการเมือง เปิดทีวีมาก็เมาขี้ฟันนักเล่าข่าว คอมเมนเตเตอร์ รายการอวยคน ตลกบ้างไม่ตลกบ่อยๆ เพลงหาฟังได้แต่ยุคเรา หนังสืออ่านยากลำบากตา เมื่อก่อนเราเข้าถึงไอทีไฮเทค แต่วันนี้ bigtech คือของแสลงต้องเลี่ยงไม่ใช้ เคยพยายามกลับไปเสพไอที เอาเข้าจริงคอมฟอร์ตโซนคือ adult video ที่เหลือพวกสาระดันเหนื่อยจะเข้าถึง แค่ช้อปปิ้งออนไลน์ต้องกรองแล้วกรองอีกกว่าจะมั่นใจในการซื้อสักอย่าง เสียพลังงานชีวิตไม่น้อย
เชื่อไหมว่าทุกวันนี้ถ้าไม่ ชตอ ก็ไม่เพลียหลับ เราทำงานตอนมืดนอนตอนดวงอาทิตย์แผดจ้า ตื่นมาก็บ่ายเย็น บ้างหลายวันก็แหกตานั่งหมกที่โรงพยาบาล มีครั้งนึงเราเครียด คิดวูบนึงกรูโดดตึกโรงพยาบาลตายดีไหม แต่อาคารที่เราอยู่ตรงนั้นมันชั้นเดียว และข้างหน้าคือรูปสักการะ เราหน้าร้อนวาบตาเปียกเหมือนคนบ้าเลย สติหลุดจริงๆ ดีที่คนไม่เห็น ไม่อยากออกทีวี
ความเครียดมันก็คงมี เรื้อรังไหมไม่รู้ เมื่อก่อนมีเวลาซื้อจักรยานมาขี่ซ่อมจนเซียน เจอที่แปลกๆ เจอคนใหม่ๆ ก็เพลินใจ บ้างก็นอนต่างเมือง บ้างก็จัดทัวร์ข้ามคืนจนเช้า แต่พอบรรลุแล้วก็เลิก ไปทำงานอาสา กลับคิดถึงคนที่บ้านแล้วไม่อาจไปต่อก็เลิก คนที่ไหนก็มีทุกข์กันหมด แต่เราเลือกคนที่บ้านแทน สัตว์เลี้ยงไม่ได้เพราะบุพการีเคยสร้างภาพร้ายให้จำ หากหาคู่ครองอย่าหาเรื่องลำบากเขา ไม่มีเงินก็ไม่เจอกัน เจอแล้วเสร็จก็อย่าหลงสนิทมาก ที่ซุกหัวนอนมีแต่โทรมลง บางทีเราคิดว่าบุพการีมีเราเพื่อใช้งานยามยากจริงๆ ทดแทนคุณจนตายตามก็ไม่ปาน สวนกระแสคนยุคนี้ที่ว่าไม่ได้ขอให้เกิดมาจงอย่าทวงบุญคุณ นี่คิดว่าถ้าถึงจุดหนึ่งพวกเราคงได้มีวันมรณะวันเดียวกันหรือเปล่า
มันมีการกระทำหลายอย่างเพื่อละทิ้งสิ่งที่ถือครอง คนที่บ้านรู้เรื่องก็หม่นหมองตามกัน เพราะแขนขาของคนบ้านนี้มีแค่เรา เราเริ่มเคลียร์ของนอกกาย ไม่มีของใหม่แทนของเก่า รถไม่ต้อง ev เพราะควันอาจมีประโยชน์ คนนอกแวดวงความสัมพันธ์ปล่อยจืดจาง งานอดิเรกที่เรื้อรังยืดเยื้อก็หยุด ช่วงนี้มันรู้สึกโล่ง เริ่มลังเลว่านี่อาจเป็นการเริ่มต้นชีวิตบทใหม่หรือเปล่า หรือนี่คืออาการสุดท้ายของโรคที่เปิดโอกาสให้แจ่มใสปล่อยวาง
อโหสิกรรมให้ด้วย