ก่อนอื่นเลยผมขอเล่ารายละเอียดก่อนนะ
…..
เริ่มจากผมได้เทรนผญ.คนนึงที่รู้จักกัน ช่วงแรกก็ไม่ได้มีอะไรก็ให้ค่าเทรนผมปกติสัปดาห์ต่อสัปดาห์ และชอบเลี้ยงข้าวผมหลังเทรนเสร็จ บางวันไม่มีเวลาไปกินข้าวด้วยก็จะเอาเงิน300฿ยัดใส่มือผมทั้งๆที่ผมก็บอกไม่เป็นไรและปฏิเสธไปหลายครั้ง
จนมาถึงช่วงนึง เขาเกิดมีปัญหาด้านการเงินเนื่องจากมีคดีเมียน้อย เมียหลวงของพ่อเขา (ผญ.เป็นลูกเมียน้อย) แพ้คดีเลยต้องทำงานใช้หนี้ให้เมียหลวง เลยทำให้ไม่มีเงินมาพอจ่ายค่าเทรนให้ผม ผมตอนแรกก็โอเคไม่มีอะไร แต่เห็น“ความตั้งใจและความพยายาม” ของผญ.คนนี้ที่จะออกกำลังกายและมาเทรนกับผม….ทำให้ผมบอกไปว่า “อยากมาเทรนไหม อยากมาเทรนก่อนก็ได้นะ ส่วนเรื่องค่าเทรนมีเมื่อไร ค่อยเอามาให้ผมก็ได้ เรื่องเงินไม่เป็นไรหรอก” ผมไว้ใจเพราะคิดว่าเขาคงไม่ใช่คนแบบจะเบี้ยวหรือโกง…
ก็เทรนไปเรื่อยๆทุกอาทิตย์ อาทิตย์ละครั้ง บางทีเขาก็ซื้อของให้ ซื้อรองเท้าให้ ผมไม่เคยจะมาเรียกร้องอะไร ผมก็ผมถือว่าเป็นสินน้ำใจและความรู้สึกที่ดีต่อกัน ผมก็ทุ่มกับงานเทรนดูแลอย่างดี บางครั้งเขามีปัญหาอะไรก็จะช่วยเขาเสมอ อยากไปที่นั่นที่นี้ อยากไปดูคลีนิคความงามแล้วไปไม่ถูกก็ช่วยอาสาชับรถพาไปให้ หรือ อยากไปชลบุรีก็พาไปให้ ไม่เคยเรียกร้องอะไรเลยแค่คิดเพียงว่า ใครดีกับเราเราก็ดีกลับหมด อยากจะให้ก็คือให้ คิดแค่นี้จริงๆ
พอเข้าสู่ปีที่3 เรื่องเงินค่าเทรนก็ไม่ได้ให้เสียที ผมก็ไม่อะไรแล้วจริงๆ ได้แต่คิดว่าเขาคงไม่มีให้เราตอนนี้ และคงมีค่าใช้จ่ายเยอะไปหมด เราคงให้เพียงแต่กำลังใจ และเทรนเขาให้ดีที่สุด ได้เมื่อไรก็เมื่อนั้น
ถ้าถามว่าสรุปคบกันเป็นแฟนไหม? ผมขอตอบเลยว่า ไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลย ผมมองแค่เป็นคนรู้จักที่มาเทรน และเขาดีกับเราเราก็ดีกลับ ผมเห็นความตั้งใจและเชื่อใจเขามากด้วยแหละ ซื้อของมาฝากผมก็ขอบคุณเสมอและไม่เคยเรียกร้องสิ่งใดๆจากเขาเลยด้วยซ้ำ แต่มาช่วงหลังๆที่เขาให้ผมพาไปชลบุรีเพราะอยากไปสักคิ้ว ผมก็พาไป เขากลับมาบอกว่าผมเป็นแฟนเขา ผมก็งงเลย ที่ผ่านมาเห็นบอกแค่ว่าผมเป็นแค่คนเทรน ไม่ก็พี่ที่รู้จัก ผมงงกับอะไรหลายๆอย่าง เลยคิดว่าอาจจะลองเปิดใจดูดีไหม แต่ก็ยังไม่ได้เปิดมากเพราะมันมีแผลในใจเยอะ
ผมเห็นเขาทำงานหนักเลยว่าจะส่งดอกไม้ไปให้ พอส่งไปก็โดนด่ากลับมาแบบงงๆ ประมาณว่า ”ช่วงนี้งานหนักสินะ เงียบไปเลย ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ อยากเจอเร็วๆเหมือนกัน“ นั่นแหละโดนด่ากลับมาหาว่า ไม่เข้าใจหรือไง เจอแต่คนไม่ดีในที่ทำงาน วิปริต…..บลาๆๆ~~ ไม่ต้องเอาอะไรให้อีกแล้วนะ
ผมก็เลยจากคิดว่าจะเปิดใจกลับกลายเป็นโอเคไม่เอาละ เทรนตามหน้าที่เราไป
สักพักเขาก็บล๊อคไลน์บล๊อคเฟส บล๊อคเบอร์ผมแบบงงๆ ติดต่อไม่ได้ โทรไปไม่รับ ในใจก็คิดว่า ทำผิดไรหว่า… ทำไมไม่พูดกันดีๆแบบโตๆกัน ผมเลยพิมพ์ส่งไปในเฟสสำรองของเขาไว้ ผมก็พอเดาออกละว่าค่าเทรนผมก็คงไม่ได้ละ หลักแสนบาท(รวม3ปี) แต่ที่งงๆคือมีอะไรทำไมไม่พูดกันดีๆมาบล๊อคดื้อโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย และเขาก็ไม่เคยมาตอบจนผ่านมา1ปี เฮ้อ…..
จนมาเมื่อเช้า พิมพ์ส่งมาด่าผม เทรนทุกครั้งจ่ายทุกครั้งเป็นการเลี้ยงข้าว ซื้อของให้ และหาว่าผมเกาะเขากินไม่เคยออก…และก็มาบอกว่าไม่ได้ติดหนี้บุญคุณอะไร ผมได้อ่านแล้วช๊อกเลย ตอนตกลงค่าเทรนเราตกลงกันอย่างนึง มีเมือไรก็เอามาให้ได้ พอมาตอนนี้แบบกลับกลอกมากๆ และมาเหมารวมทุกอย่างว่าเป็นค่าเทรนให้ผม ยังจะมาให้ผมเลิกยุ่งเพราะจะบอกพ่อให้แจ้งความผม เฮ้อออโดนบล๊อกไปอีก
ผมควรทำใจเรื่องเงินแล้วสินะ เสียความรู้สึกจริงๆฮะ
โดนเบี้ยวค่าเทรนออกกำลังกาย
…..
เริ่มจากผมได้เทรนผญ.คนนึงที่รู้จักกัน ช่วงแรกก็ไม่ได้มีอะไรก็ให้ค่าเทรนผมปกติสัปดาห์ต่อสัปดาห์ และชอบเลี้ยงข้าวผมหลังเทรนเสร็จ บางวันไม่มีเวลาไปกินข้าวด้วยก็จะเอาเงิน300฿ยัดใส่มือผมทั้งๆที่ผมก็บอกไม่เป็นไรและปฏิเสธไปหลายครั้ง
จนมาถึงช่วงนึง เขาเกิดมีปัญหาด้านการเงินเนื่องจากมีคดีเมียน้อย เมียหลวงของพ่อเขา (ผญ.เป็นลูกเมียน้อย) แพ้คดีเลยต้องทำงานใช้หนี้ให้เมียหลวง เลยทำให้ไม่มีเงินมาพอจ่ายค่าเทรนให้ผม ผมตอนแรกก็โอเคไม่มีอะไร แต่เห็น“ความตั้งใจและความพยายาม” ของผญ.คนนี้ที่จะออกกำลังกายและมาเทรนกับผม….ทำให้ผมบอกไปว่า “อยากมาเทรนไหม อยากมาเทรนก่อนก็ได้นะ ส่วนเรื่องค่าเทรนมีเมื่อไร ค่อยเอามาให้ผมก็ได้ เรื่องเงินไม่เป็นไรหรอก” ผมไว้ใจเพราะคิดว่าเขาคงไม่ใช่คนแบบจะเบี้ยวหรือโกง…
ก็เทรนไปเรื่อยๆทุกอาทิตย์ อาทิตย์ละครั้ง บางทีเขาก็ซื้อของให้ ซื้อรองเท้าให้ ผมไม่เคยจะมาเรียกร้องอะไร ผมก็ผมถือว่าเป็นสินน้ำใจและความรู้สึกที่ดีต่อกัน ผมก็ทุ่มกับงานเทรนดูแลอย่างดี บางครั้งเขามีปัญหาอะไรก็จะช่วยเขาเสมอ อยากไปที่นั่นที่นี้ อยากไปดูคลีนิคความงามแล้วไปไม่ถูกก็ช่วยอาสาชับรถพาไปให้ หรือ อยากไปชลบุรีก็พาไปให้ ไม่เคยเรียกร้องอะไรเลยแค่คิดเพียงว่า ใครดีกับเราเราก็ดีกลับหมด อยากจะให้ก็คือให้ คิดแค่นี้จริงๆ
พอเข้าสู่ปีที่3 เรื่องเงินค่าเทรนก็ไม่ได้ให้เสียที ผมก็ไม่อะไรแล้วจริงๆ ได้แต่คิดว่าเขาคงไม่มีให้เราตอนนี้ และคงมีค่าใช้จ่ายเยอะไปหมด เราคงให้เพียงแต่กำลังใจ และเทรนเขาให้ดีที่สุด ได้เมื่อไรก็เมื่อนั้น
ถ้าถามว่าสรุปคบกันเป็นแฟนไหม? ผมขอตอบเลยว่า ไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลย ผมมองแค่เป็นคนรู้จักที่มาเทรน และเขาดีกับเราเราก็ดีกลับ ผมเห็นความตั้งใจและเชื่อใจเขามากด้วยแหละ ซื้อของมาฝากผมก็ขอบคุณเสมอและไม่เคยเรียกร้องสิ่งใดๆจากเขาเลยด้วยซ้ำ แต่มาช่วงหลังๆที่เขาให้ผมพาไปชลบุรีเพราะอยากไปสักคิ้ว ผมก็พาไป เขากลับมาบอกว่าผมเป็นแฟนเขา ผมก็งงเลย ที่ผ่านมาเห็นบอกแค่ว่าผมเป็นแค่คนเทรน ไม่ก็พี่ที่รู้จัก ผมงงกับอะไรหลายๆอย่าง เลยคิดว่าอาจจะลองเปิดใจดูดีไหม แต่ก็ยังไม่ได้เปิดมากเพราะมันมีแผลในใจเยอะ
ผมเห็นเขาทำงานหนักเลยว่าจะส่งดอกไม้ไปให้ พอส่งไปก็โดนด่ากลับมาแบบงงๆ ประมาณว่า ”ช่วงนี้งานหนักสินะ เงียบไปเลย ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ อยากเจอเร็วๆเหมือนกัน“ นั่นแหละโดนด่ากลับมาหาว่า ไม่เข้าใจหรือไง เจอแต่คนไม่ดีในที่ทำงาน วิปริต…..บลาๆๆ~~ ไม่ต้องเอาอะไรให้อีกแล้วนะ
ผมก็เลยจากคิดว่าจะเปิดใจกลับกลายเป็นโอเคไม่เอาละ เทรนตามหน้าที่เราไป
สักพักเขาก็บล๊อคไลน์บล๊อคเฟส บล๊อคเบอร์ผมแบบงงๆ ติดต่อไม่ได้ โทรไปไม่รับ ในใจก็คิดว่า ทำผิดไรหว่า… ทำไมไม่พูดกันดีๆแบบโตๆกัน ผมเลยพิมพ์ส่งไปในเฟสสำรองของเขาไว้ ผมก็พอเดาออกละว่าค่าเทรนผมก็คงไม่ได้ละ หลักแสนบาท(รวม3ปี) แต่ที่งงๆคือมีอะไรทำไมไม่พูดกันดีๆมาบล๊อคดื้อโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย และเขาก็ไม่เคยมาตอบจนผ่านมา1ปี เฮ้อ…..
จนมาเมื่อเช้า พิมพ์ส่งมาด่าผม เทรนทุกครั้งจ่ายทุกครั้งเป็นการเลี้ยงข้าว ซื้อของให้ และหาว่าผมเกาะเขากินไม่เคยออก…และก็มาบอกว่าไม่ได้ติดหนี้บุญคุณอะไร ผมได้อ่านแล้วช๊อกเลย ตอนตกลงค่าเทรนเราตกลงกันอย่างนึง มีเมือไรก็เอามาให้ได้ พอมาตอนนี้แบบกลับกลอกมากๆ และมาเหมารวมทุกอย่างว่าเป็นค่าเทรนให้ผม ยังจะมาให้ผมเลิกยุ่งเพราะจะบอกพ่อให้แจ้งความผม เฮ้อออโดนบล๊อกไปอีก
ผมควรทำใจเรื่องเงินแล้วสินะ เสียความรู้สึกจริงๆฮะ