นางพิสมัย ลิขิตอำนวย รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ. เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป (JKN) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าหลังจากที่ศาลรับคำร้องแผนการฟื้นฟูกิจการของบริษัทคาดว่าจะใช้ระยะเวลาในกระบวนการพิจารณาของศาล 1 ปี จากวันที่ศาลรับคำร้องฟื้นฟูกิจการของบริษัทตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย. 66 และหลังจากนั้นคาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการ รวมทั้งการปรับโครงสร้างหนี้และการทยอยชำระคืนหนี้แก่เจ้าหนี้ภายในระยะเวลา 5-8 ปี หลังเริ่มดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการในช่วงม.ค. 68
“การเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการเป็นทางออกที่เหมาะสมที่สุด และเป็นวิธีการแก้ปัญหาเพียงช่องทางเดียวที่บริษัทมีในเวลานี้ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อบริษัทและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย” นางพิสมัย กล่าว
ด้านการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น JKN ในช่วง 10 วันทำการที่ผ่านมา ยอมรับว่ามีการพบความผิดปกติอย่างมากในด้านวอลลุ่มการซื้อขายของ JKN ซึ่งบริษัทมีข้อสงสัยว่ามีโอกาสถูกซื้อกิจการ หรือ Hostile Take Over จากนักลงทุนบางกลุ่มหรือไม่
โดยที่ในช่วงปลายเดือนก.ย. 66 ที่ผ่านมา บริษัทได้มีการเจรจากับนักลงทุน 3 กลุ่ม เพื่อเพิ่มทุน ขายสินทรัพย์ที่ไม่มีตัวตน และหาแนวทางในการทำธุรกิจต่างๆ แต่ไม่สามารถหาข้อสรุปกับนักลงทุนทั้ง 3 กลุ่มได้ จึงยุติการเจรจาไปในช่วงสิ้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ราคาหุ้น JKN พุ่งขึ้น 180% ในช่วง 8 วันที่ผ่านมา (17- 28 พ.ย.) ล่าสุด JKN อยู่ที่ 0.70 บาท +0.04 บาท (+6.06%) จาก 0.25 บาทเมื่อวันที่ 16 พ.ย. โดยวันที่ 20-22,27 พ.ย.ราคาชนซิลลิ่ง
นางนรินธร อนุเคราะห์ธนาพงษ์ รองกรรมการผู้จัดการสายงานการเงินและบัญชี JKN ชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นการนำเงิน 856 ล้านบาท ไปใช้ซื้อคอนเทนท์ในไตรมาส 3/66 แทนที่จะนำมาใช้สำรองไว้ชำระคืนหนี้หุ้นกู้ ซึ่งบริษัทชี้แจงว่าการนำเงินไปซื้อคอนเทนท์เป็นช่วงที่เกิดขึ้นต่อเนื่องในเดือนก.ค. ส.ค. และก.ย. 66 ก่อนที่จะเกิดการผิดนัดชำระคืนหนี้หุ้นกู้เกิดขึ้น
โดยจำนวนเงิน 856 ล้านบาท แยกออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1. การกลับรายการทางบัญชีที่จ่ายล่วงหน้าไปมาเป็นต้นทุนคอนเทนท์กว่า 300 ล้านบาท 2. การซื้อคอนเทนท์ใหม่เข้ามา ซึ่งเป็นคอนเทนท์ที่บริษัทมีการดีลและตกลงกับลูกค้าไว้ 47 ล้านบาท และธุรกิจที่เป็นลักษณะบาร์เทอร์คอนเทนท์กันราว 500 ล้านบาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 พ.ย. 66)
https://www.infoquest.co.th/2023/355152
ชาวสวนระวังให้ดี เค้าหลอกมากี่ครั้งแล้ว
JKN ปูดอาจถูกเทกอย่างไม่เป็นมิตรหลังวอลุ่มซื้อขายสูงผิดปกติ
“การเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการเป็นทางออกที่เหมาะสมที่สุด และเป็นวิธีการแก้ปัญหาเพียงช่องทางเดียวที่บริษัทมีในเวลานี้ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อบริษัทและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย” นางพิสมัย กล่าว
ด้านการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น JKN ในช่วง 10 วันทำการที่ผ่านมา ยอมรับว่ามีการพบความผิดปกติอย่างมากในด้านวอลลุ่มการซื้อขายของ JKN ซึ่งบริษัทมีข้อสงสัยว่ามีโอกาสถูกซื้อกิจการ หรือ Hostile Take Over จากนักลงทุนบางกลุ่มหรือไม่
โดยที่ในช่วงปลายเดือนก.ย. 66 ที่ผ่านมา บริษัทได้มีการเจรจากับนักลงทุน 3 กลุ่ม เพื่อเพิ่มทุน ขายสินทรัพย์ที่ไม่มีตัวตน และหาแนวทางในการทำธุรกิจต่างๆ แต่ไม่สามารถหาข้อสรุปกับนักลงทุนทั้ง 3 กลุ่มได้ จึงยุติการเจรจาไปในช่วงสิ้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ราคาหุ้น JKN พุ่งขึ้น 180% ในช่วง 8 วันที่ผ่านมา (17- 28 พ.ย.) ล่าสุด JKN อยู่ที่ 0.70 บาท +0.04 บาท (+6.06%) จาก 0.25 บาทเมื่อวันที่ 16 พ.ย. โดยวันที่ 20-22,27 พ.ย.ราคาชนซิลลิ่ง
นางนรินธร อนุเคราะห์ธนาพงษ์ รองกรรมการผู้จัดการสายงานการเงินและบัญชี JKN ชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นการนำเงิน 856 ล้านบาท ไปใช้ซื้อคอนเทนท์ในไตรมาส 3/66 แทนที่จะนำมาใช้สำรองไว้ชำระคืนหนี้หุ้นกู้ ซึ่งบริษัทชี้แจงว่าการนำเงินไปซื้อคอนเทนท์เป็นช่วงที่เกิดขึ้นต่อเนื่องในเดือนก.ค. ส.ค. และก.ย. 66 ก่อนที่จะเกิดการผิดนัดชำระคืนหนี้หุ้นกู้เกิดขึ้น
โดยจำนวนเงิน 856 ล้านบาท แยกออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1. การกลับรายการทางบัญชีที่จ่ายล่วงหน้าไปมาเป็นต้นทุนคอนเทนท์กว่า 300 ล้านบาท 2. การซื้อคอนเทนท์ใหม่เข้ามา ซึ่งเป็นคอนเทนท์ที่บริษัทมีการดีลและตกลงกับลูกค้าไว้ 47 ล้านบาท และธุรกิจที่เป็นลักษณะบาร์เทอร์คอนเทนท์กันราว 500 ล้านบาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 พ.ย. 66)
https://www.infoquest.co.th/2023/355152
ชาวสวนระวังให้ดี เค้าหลอกมากี่ครั้งแล้ว