6 สัญญาณที่บอกว่าอาจถึงเวลาที่เราจะต้องลาออก

ใครที่กำลังมีความคิดว่าจะลาออก หรือไม่ออกดี กระทู้นี้ JobThai เอาสัญญาณเตือนต่าง ๆ ที่จะเป็นตัวช่วยในการสังเกตหรือเป็นเช็กลิสต์ ถ้าใครที่ตรงหลายข้อนั่นอาจเป็นสัญญาณว่าเราคงจะต้องเริ่มต้นหางานใหม่ได้แล้ว 
 
เบื่อและไม่อยากทำงาน 
ทุกวันนี้การทำงานกลายเป็นสิ่งสุดท้ายที่คิดถึง กว่าจะทำให้งานเสร็จสักชิ้นในแต่ละสัปดาห์กลายเป็นเรื่องที่ยาก หมดความกระตือรือร้นและเบื่อหน่ายอยู่ตลอดเวลา งานที่ได้รับมอบหมายมาถูกปล่อยค้างเอาไว้  
  
รู้สึกว่าอยู่ต่อไปยังไงก็ไม่โต 
ถ้ารู้สึกว่าตัวเองไม่มีโอกาสก้าวหน้าในที่ทำงานเลย ก็ไม่แปลกที่จะนึกถึงเรื่องหางานใหม่ เพราะโอกาสในการก้าวหน้าคือเป้าหมายสำคัญในการทำงานของมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ซึ่งโอกาสในการก้าวหน้าที่หมายถึงอาจไม่ใช่แค่การเลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่มันอาจจะหมายถึงการได้รับโอกาสใหม่ ๆ เช่น การได้รับมอบหมายให้ทำโปรเจกต์ใหม่ ได้ทำสิ่งที่เราไม่เคยทำมาก่อน หรือได้เรียนรู้งานจากระดับหัวหน้างาน ยังไงก็ตามถ้าคุณรู้สึกว่าข้อนี้ตรงกับคุณก่อนที่คุณจะลาออกจากงานด้วยเหตุผลนี้ ลองเข้าไปคุยเรื่องนี้กับหัวหน้างานก่อนจะดีที่สุด แต่ถ้าคุยแล้วยังดูไม่มีโอกาสล่ะก็ อย่ารอช้าที่จะลาออกมาหาที่ที่ให้โอกาสคุณก้าวหน้ามากกว่านี้ 
 
คิดถึงภาพตอนเกษียณ 
ถ้าอยู่ ๆ ก็นึกภาพตัวเองปลดเกษียณ หยุดทำงานและนอนพักผ่อนอยู่บ้าน บางคนถึงกับนับปี นับเดือน นับวันที่จะเกษียณจากงานที่ทำอยู่ตอนนี้เลย เพราะในแต่ละวันนั้นไม่ได้มีแรงจูงใจให้อยากไปถึงที่ทำงาน ไม่ได้มี Passion ที่อยากจะสร้างสรรค์สิ่งที่มีคุณค่าออกมา ชีวิตการทำงานหมดไปกับงานที่ทำแบบส่ง ๆ เท่านั้น ก็อาจจะถึงเวลาที่เราต้องเริ่มมองหาทางใหม่ ๆ ได้แล้ว เพราะการปล่อยเวลาที่ผ่านไปแบบนี้ ไม่สามารถช่วยให้ความหวังที่จะเกษียณเป็นจริงได้แน่นอน 
  
พูดคุยเรื่องงานในแง่ลบให้คนในครอบครัวฟัง 
จากปกติที่เคยพูดคุยเล่าเรื่องราวสนุกสนานในที่ทำงานของเราให้ครอบครัวฟัง กลายเป็นการเล่าเรื่องการถูกตำหนิ และถูกต่อว่าจากที่ทำงาน รวมไปถึงพฤติกรรมที่ไม่ดีของเพื่อนร่วมงานของเราเป็นหัวข้อหลัก แล้วเราเล่าเรื่องเหล่านี้อยู่บ่อย ๆ และมีแนวโน้มว่าจะบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ เราอาจต้องเริ่มพิจารณาถึงงานของเราอย่างจริงจังมากขึ้นแล้ว   
  
ระบบชีวิตพัง 
จากที่เคยเป็นคนนอนหลับง่าย กลายเป็นคนนอนไม่หลับ ตื่นมากลางดึกบ่อย ๆ เพราะต้องเก็บเอาความเครียดจากเรื่องงานไปนอนฝัน นี่คือจุดเริ่มต้นของระบบชีวิตที่แปรปรวน บางคนจากที่เคยสุขภาพแข็งแรงกลับมีอาการป่วยบ่อยขึ้น ซึ่งการป่วยทางกายนี่แหละที่เป็นตัวชี้วัดอย่างหนึ่งได้เช่นกันว่า สุขภาพจิตของเราอาจจะกำลังแย่ไปด้วย นอกจากนี้หากงานรบกวนความคิดจนทำให้ทุก ๆ เย็น ต้องนัดเพื่อนออกไปสังสรรค์เพื่อให้หายเครียด จนเริ่มมีสโลแกนติดปากในหมู่เพื่อนว่า “ดื่มเพื่อให้ลืมงาน” ก็อาจเป็นสัญญาณเตือนครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นแล้วว่างานนี้อาจจะไม่เหมาะกับเราอีกต่อไป 
  
เริ่มมองหางานใหม่ 
ถ้าเว็บที่เราเข้าบ่อย ๆ เริ่มเปลี่ยนเป็นเว็บไซต์หางาน เริ่มพิมพ์คำว่า “หางาน” ลงไปใน Search Engine พร้อมเคาะปุ่มเอ็นเทอร์ นั่นเท่ากับว่าเราผ่านจุดสุดท้ายของความอดทนในงานปัจจุบันไปแล้ว และถ้าทุกวันมีแต่คำว่า “ฉันจะหางานใหม่!” แวบเข้ามาในความคิด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม อาจไม่เป็นการดีที่เราจะใช้ชีวิตด้วยการทนทำงานที่ไม่สร้างความสุขแบบนี้ต่อไป ซึ่งนอกจากจะเป็นผลเสียต่อตัวเองแล้ว ครอบครัว เพื่อนร่วมงาน รวมถึงบริษัทก็ต่างได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกัน 
 
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ ถึงจะรู้สึกว่ามีหลายสัญญาณที่ตรงกับเราแล้วก็อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจลาออกจากงาน ทางที่ดีกว่าคือการเริ่มตรวจสอบตัวเอง พิจารณาว่าเรากำลังเผชิญกับปัญหาอะไร เราแก้ไขให้มันดีขึ้นได้ไหม เพราะหากปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นมีสาเหตุจากตัวเราเอง ไม่ว่าจะเปลี่ยนงานอีกกี่ที่ปัญหานี้ก็ไม่หายไป ค่อย ๆ วางแผนและตัดสินใจอย่างรอบคอบ JobThai เชื่อว่าทุกคนสามารถกลับมามีความสุข สร้างสมดุลทั้งชีวิตและการงานในอนาคตได้อย่างแน่นอน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่