ประสบการณ์การทำงานที่Uniqlo Thailand (central world)

กระทู้สนทนา
สวัสดี วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ ในการทำงานในร้านยูนิโคล่ บริษัทและแบลนด์ชั้นนำของประเทศ เราคิดนานมากๆว่าจะมาแชร์ประสบการณ์นี้ดีไหม เพราะมันอาจจะกระทบบริษัทหรือสิ่งอื่นๆที่ตามมา แต่เมื่อได้เข้าไปอ่านทบทวนสัญญาว่าจ้าง เราไม่มีเจตนาที่จะมาเปิดเผยข้อมูลของบริษัท หรือหาผลประโยชน์ส่วนตนใดๆ เพียงแต่มาแชร์ประสบการณ์ที่ตนได้เจอมาตลอดระยะเวลา3เดือน 

เราเป็นพนักงานPT สัญญาจ้าง3เดือน เข้ามาทำเป็น Night ship ตามที่บริษัทประกาศรับสมัครกับเพื่อนๆอีกจำนวนหนึ่ง ในเดือนแรก ตามสัญญาก็เหมือนสัญญาทั่วไป เหมือนบริษัทอื่นๆ รวมถึงการแจ้งเวลาทำงานอย่างชัดเจน แต่ในเดือนแรก เราดันเข้ามาทำงานในช่วงเวลากลางวันหรือช่วงบ่าย ซึ่งทั่งนี้มันก็ผิดกับที่บริษัท ได้ตกลงกับเราในตอนแรกที่เซ็นสัญญากันแล้ว ส่วนตัวคิดว่า หากจะปรับเปลี่ยนเวลาการทำงาน บริษัทควรจะแจ้ง หรือควรสอบถามพนักงานก่อนที่จะโยกย้ายกะ กันแบบนี้ เพราะในสัญญา และตอนที่ประกาศรับสมัคร รวมไปถึงวันที่เซ็นสัญญา ท่านเป็นคนแจ้งเองว่าจะต้องทำในช่วงกลางคืนที่ร้านปิดแล้ว เหตุนี้จึงทำให้พนักงานส่วนนึง ต้องลาออกเนื่องจากเราต้องการทำเฉพาะตอนกลางคืน ตามที่เปิดรับสมัครและได้พูดคุยกันก่อนหน้านี้เท่านั้น ทำให้หลายคนต้องลาออก เพราะท่านไม่ได้แจ้งหรือเกริ่นไว้ก่อนว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเวลาทำงาน หลายๆคนอาจจะไม่มาเสียเวลาสัมภาษณ์และเซ็นสัญญาหรอก

ในส่วนการทำงาน ส่วนตัวงานไม่ได้หนักเพราะเราผ่านงานมาค่อนข้างเยอะ หากแต่ยูนิโคล่ ค่อนข้างจะLimitเวลาไว้อย่างพอดี วางแผนงานให้กับพนักงานแต่ละคนโดยแต่ละวัน แต่ละคน จะทำหน้าที่ไม่ซ้ำ แต่ในสถานะการจริงๆนั้น ทุกอย่างย่อมเปลี่ยนแปลงได้เสมอ เรายอมรับว่าเราค่อนข้างทำงานตัวเองเร็วแต่จะทำไม่ค่อยเรียบร้อย ทุกคนน่าจะทราบว่ายูนิโคล่ พับผ้า เรียงสินค้าค่อนข้างสวย นั่นคือจุดด้อยของเรา ก่อนที่จะเริ่มทำงาน เราพยายามฝึกเพื่อไม่ให้คนอื่นต้องมาคอยช่วย สาขาที่เราทำ พนักงานเก่าแก่หรือพนักงานที่ทำประจำที่นี่ ค่อนข้างจะเข้าถึงยาก อัธยาศัยค่อนข้างแปลก ไม่ค่อยสอนงาน รวมไปถึงการใช้คำพูดกับเพื่อนร่วมงานค่อนข้างจะแย่(เฉพาะบางคนนะ แต่80%จะเป็นแบบนั้น) ช่วงแรกๆไปก็พกenergyไปเยอะมาก ปกติเป็นคนร่าเริงและพูดเก่งอยู่แล้ว พอเข้ามาทำที่นี่ช่วงอาทิตย์แรกๆ บอกตรงๆว่าลำบากมาก อึดอัด ถามอะไรไปก็ไม่มีใครบอกอะไรเลย สิ่งที่แย่ที่สุดในสัปดาห์แรกคือ เราถามพนักงานหญิงคนนึง ว่าต้องการให้เราช่วยอะไรไหม (เนื่องจากช่วงแรกๆตารางงานของเรากับเพื่อนๆยังไม่มี พี่ๆเลยให้มาช่วยพนักงานประจำกันก่อน) สิ่งที่เราได้รับคือ การมองเราด้วยสาขาที่มองหัวจรดเท้า และสิ่งที่ไม่มีมารยาทที่สุดคือ ไม่ตอบคำถามและเดินหนี (นี่คือคนแรกและครั้งแรกที่เคยเจอตั้งแต่ทำงานในกรุงเทพมา) แล้วมันก็เป็นแบบนี้หลายคน จนเรากับเพื่อนต้องมานั่งคุยกัน แชร์กัน ว่าพวกเราทำอะไรไม่ดีหรือเปล่า หรือเขารังเกียจหรืออะไร ตอนนั้นเอาตรงๆใจเสีย เพราะมันบวกกับเป็นช่วงที่ร้านใกล้จะเปิด ความกดดัน การใช้คำพูดแย่ๆของหัวหน้า การพูดจากดขี่ลูกน้อง มันทำเรากดดันตาม แม้ว่าพี่ๆอาจจะไม่ได้หมายถึงพวกเราที่เป็นNigth shipก็ได้  ขนกระทั่ง1เดือนผ่านไป เป็น1เดือนที่มีอะไรเยอะแยะมากมาย เกิดขึ้น ไม่รู้จะพิมพ์ออกมายังไงให้มันหมด เพราะประสบการณ์ที่นี่เลวร้ายมาก😂 พวกเราที่เป็น NS โดนทุกวัน โดนทุกเรื่อง โดนตั้งแต่การแต่งตัว รวมไปถึงการทำงาน งานบางอย่าง เราเองก็ไม่ได้เป็นคนก่อ แต่ขึ้นชื่อ NSตอนนั้น เหมือนเป็นที่รองรับอารมณ์ของทุกคนเลย เรากับเพื่อนได้แค่พูดว่าขอโทษ จนได้ขึ้นมาทำกะกลางคืนอย่างที่ตั้งใจไว้ 

การทำงานช่วงเวลานี้มันทำให้เรารู้สึกดี ได้ทำงานจริงๆจังๆ สื่อสารกับเพื่อนๆในเรื่องงานค่อนข้างดี พวกเราค่อนข้างsupport กันได้ดี ทุกครั้งที่มีใครคนนึงโดนต่อว่า แน่นอนว่าพวกเราทำได้แค่ปลอบ เพราะเรื่องบางเรื่องเราก็ผิดจริงๆ บางเรื่องก็ไม่รู้ ไม่ได้ถาม ไม่ได้รายงาน บางคนป่วย แค่ลาป่วย ต้องโทรหาผู้จัดการ2-3คน จะลาป่วยแต่ละครั้ง ต้องโดนติ โดนว่า แถมต้องเอาหลักฐานการป่วยมารับรองด้วย แม้กระทั่งผู้หญิงเป็นประจำเดือน ก็ต้องไปหาหมอแล้วขอใบรับรองมา เอาตรงๆ ถ้าต้องทำขนาดนั้น ลากสังขารมาทำงานไม่ง่ายกว่าหรอ ก็นั่นแหละ เขาไม่มีทางเข้าใจเรื่องอะไรแบบนี้หรอก เพราะเขาไม่ได้อยู่ในตำแหน่งและหน้าที่ที่จะต้องมาฟังเหตุผลพนักงานอย่างพวกเรานี่นา 

1เดือนของการอยู่กะดึก พวกเราก็โดนเยอะเหมือนกันแหละ ทั้งเรื่องการเก็บของ การวางของ การเก็บป้าย การย้ายlayout (ย้ายสินค้าไปอีกฝั่ง หรือย้ายโซน) พวกเราค่อนข้างโดนว่าบ่อย แต่จริงๆแล้ว เราไม่เคยคิดจะลักไก่หรืออะไรใดๆเลย เพราะรู้ว่าการหาของมันยาก การวางของมันก็ไม่ได้ยากเพราะทุกๆวันก่อนจะหมดเวลาทำงาน หัวหน้าต้องมีการเช็คสต็อกก่อนอยู่แล้ว เพื่อนๆรวมถึงเราพยายามจะfeedbackเรื่องการจัดเก็บสินค้าของกะที่ส่งมาให้เรา ว่าไม่เคยเรียบร้อยเลย ของบางอย่างก็รวมกันไปหมด บางกล่องก็ใช้วิธีซุก/ยัด ใส่กล่องแทนที่จะพับดีๆ สินค้าบางประเภทเก็บผิดวิธี แต่ตามนั้นเลย หัวหน้าเลือกที่จะไม่รับฟังค่ะ 😊 เขาปฏิเสธต่อหน้าเราและเพื่อนอีกหลายชีวิตว่าไม่รับเรื่องนะ และไล่พวกเราclock timeออกงาน !  ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ไม่ว่าประตูพังเพราะลูกค้ากระชาก หรือเพราะหัวหน้าเดินชน เขาต้องโทษเราก่อน เมื่อรีกล้องจึงทราบว่าไม่ใช่เรา ไม่มีการขอโทษ ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้ จะให้พนักงานซื้อสินค้าของแบลนด์ใส่ แต่ไม่ให้discount ให้ซื้อจำนวนเต็ม เอาตรงๆ สินค้าไม่ได้แพงก็จริง แต่มันไม่ยุติธรรมหรือเปล่า พนักงานคนอื่นได้ส่วนลด แต่NSไม่มีส่วนลดใดๆให้ แถมยังไล่ไปซื้อสินค้าในราคาเต็ม เพื่อจะใส่ ให้เป็นการโปรโมทสินค้า พวกคุณคิดอะไรกันอยู่ 

หลายครั้งที่เราโดนพนักงานประจำของที่นี่พูดจาแย่ๆใส่ หลายครั้งที่เราโดนหัวหน้าพูดจาดูถูก หลายครั้ง... ที่เราโดนfeedbackต่อหน้าพนักงานหลายๆคน หลายครั้งที่หัวหน้าวิจารณ์เรื่องการแต่งตัวของเรา สายตา ท่าทางคำพูดของคนที่นี่ มันทำให้เราเปลี่ยนไป (โดยที่ไม่รู้ตัว) จากที่เคยมีenergy ในการทำงาน วันนี้กลับเป็นคนที่เงียบ ไม่กล้าทำอะไร ไม่กล้าพูดอะไร ไม่กล้าตัดสินใจรวมไปถึงไม่กล้าสบตากับคนรอบข้าง เมื่อเข้าสู่เดือนที่3

เราก็ต้องเซ็นสัญญาฉบับใหม่ เพราะหลังจากผ่านไป2เดือน เขาก็ได้ยกเลิกกะดึก เพื่อนๆหลายๆคนก็ลาออก จะเหลือเพียงไม่กี่คนที่ทนทำงานต่อ เพราะเราไม่รู้ว่าวันนึงจะได้ร่วมงานกับที่น่าอีกไหม หากออกกลางคัน อาจจะเสียประวัติ หรืออะไรก็ตามที่จะตามมาทีหลัง สุดท้าย เราก็ต้องลาออกทั้งที่ไม่ครบสัญญา เป็นครั้งแรกที่เราออกจากงานที่ไม่ค่อยดีนัก เราโดนมาค่อนข้างเยอะ ทั้งโดนตะคอกใส่ ต่อว่า โดนจับผิด แต่ขอไปเข้าห้องน้ำ เราก็ยังโดนจับเวลาเลย 55555 มันโคตรจะปัญญาอ่อน และใช่ คนอื่นไม่เคยโดน เราโดนคนเดียวมาโดยตลอด ปกติเราไม่เคยเข้าห้องน้ำระหว่างทำงานจนกว่าจะพักเบรค เพราะคิดว่ามันเสียเวลา งานก็ล้นมือ แถมห้องน้ำในห้างอ่ะเนาะ มันก็ไกลอ่ะ เลยทนทำไปแบบนั้น ใครจะไปคิดว่าพนักงานกว่า200คน จะมานั่งจับผิดเราคนเดียว 😂 

สุดท้ายนี้เราเชื่อว่าจะต้องมีใครสักคนในนั้น เข้ามาอ่านหรือผ่านมาเห็น เราเชื่อว่าหลายๆคนที่จะหันหน้ามาเอาดีกับบริษัทนี้ ต้องหาข้อมูล เราพร้อมกับสิ่งที่จะรับมือกับสิ่งที่จะตามมาทีหลัง และเราเชื่อว่าเราไม่ใช่คนแรกที่เจอแบบนี้  บอกตรงๆนะ ตั้งแต่ทำงานส่งตัวเองเรียนมาจนใกล้จะจบ ไม่เคยทำงานที่ไหนแล้วรู้สึกไร้เกียรติไร้ศักดิ์ศรีขนาดนี้ การใช้คำพูด ในที่ทำงานกับเพื่อนร่วมงานกับลูกน้อง มันสำคัญมากนะ คุณจะเป็นคนแบบไหนในมุมมองลูกน้อง มันก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมและคำพูดคุณ เราสามารถคุยกันดีๆได้ สามารถfeedback ดีๆกันได้ โดยไม่ใช้การตะคอก ใช้การประจาน หรืออะไรก็ตามที่ทำให้พนักงานอับอาย คนมีการศึกษาเขาไม่ทำกันแบบนี้หรอกนะ พนักงานแต่ละคนก็จบปริญญาตรีกันทั้งนั้นเท่าที่ทราบมา รวมไปถึงแบรนด์ชั้นนำแบบนี้ แต่ดันมีหัวหน้างานที่ทำพฤติกรรมแย่ๆแบบนี้ เอาตรงๆ ไม่มีใครทนทำงานด้วยได้หรอก ยอมรับเลยนะว่าเงินเยอะ แต่การที่พวกคุณมาใช้คำพูดบั่นทอนพนักงาน มากดขี่ มาวิจารณ์นั่นนี่ มาจะคอกใส่กันแบบนี้ คนมีสติดีๆที่ไหนเขาทำกัน ถ้าป่วยก็ไปรักษา อย่าเอาพลังลบๆไปใส่คนอื่น สมัครงานมาเป็นพนักงาน มาขายของ มาทำยอด แต่เข้างานมา ประเดิมโดยการได้ยินหัวหน้าด่านี่อัปมงคลนะ วันทั้งวันจะเอาแรงที่ไหนมาทำยอดให้อ่ะ คิดว่าพนักงานออกทุกเดือนเพราะอะไรกันอ่ะ เงินเดือนก็โคตรจะเยอะ แต่ดันไม่มีใครทนได้สักคน ต้องพิจารณาแล้วไหมอ่ะ อายุเยอะ=สอนไม่ได้แล้วสินะ อายุเยอะ=ไม่ฟังลูกน้อง ไม่รับความคิดเห็นสินะ 

ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ คาดว่าคงไม่ได้ร่วมงานกันอีกแล้วล่ะ ใครจะคิดว่าแบรนด์ชั้นนำระดับโลก หลังบ้านมันจะเน่าขนาดนี้ ขอให้โลกนี้ไม่มีวันใจดีกับคนอย่างพวกคุณ จริงๆ👍🏻
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่