จากกรณีศาลอาญา นัดไต่สวนคำร้องขอประกันตัวปล่อยตัวชั่วคราวอดีตนักร้องดัง ใบเตย-สุธีวัน กุญชร จำเลยที่ 3 คดีแชร์ Forex-3D โดย “ลุกซ์-ชาญวิทย์ ทวีสิน” น้องชาย พร้อมทนายได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด จำนวน 5 ล้านบาท เพื่อขอปล่อยตัว “ใบเตย” ชั่วคราวเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมานั้น
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ใบเตย อาร์สยาม ได้ไปไลฟ์เปิดใจตอนหนึ่งว่า
ใบเตยขอบคุณทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิต และขอบคุณทุกกำลังใจที่ให้กันมาตลอด ในวันที่ใบเตยออกมาไม่คิดว่าจะมีการต้อนรับที่ดีขนาดนี้
ที่ผ่านมา จะคุยกับครอบครัวตลอดว่าวันนึงถ้าได้ออกมาสู่โลกภายนอก เราก็อยากหยุดพักทุกอย่างเลย เราอยากจะขออยู่กับลูก เพราะ ณ วันนั้น สิ่งที่ทำให้รู้สึกแย่มากที่สุด คือ พลัดพรากจากลูก พอได้ออกมาแล้ว
สิ่งที่ห่วงมากที่สุดคือ น้องลุกซ์ กับเวทมนตร์ และอยากจะขอโทษทั้ง 2 คน ที่ไม่ใช่ได้ช่วยดูแล ร่ายกาย หัวใจ หรือทุกๆอย่าง ที่ผ่านมาชีวิตใบเตย 35 ปี เรารับผิดชอบทุกอย่างของครอบครัวมาได้อย่างดีทั้งหมด สิ่งที่ตนเป็นห่วงมากที่สุดในชีวิต คือ ครอบครัว และลูก
2 ปี ตั้งแต่โควิด-19 เราเป็นศิลปิน เราไม่มีเงินเลย เรามาท้องด้วย และเราต้องหาทุกอย่างที่ทำให้เรามีกำลัง มีเงิน มีทุกอย่างเพื่อให้เราได้เลี้ยงลูกในช่วงเวลาที่แย่ที่สุดของโลก
เราเลยรู้สึกว่า สิ่งที่แย่มากๆ เราไม่ได้ทำหน้าที่ดูแลครอบครัวในระยะเวลาหนึ่ง กังวลทุกอย่างว่าลูกจะอยู่อย่างไร พอมารู้ข่าวแฟนน้องเสียชีวิต วันนั้น คือรู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น 3 เดือนแรก มีแค่วิญญาณเลยที่หล่อเลี้ยง และหล่อหล่อมให้เราตื่นขึ้นมาได้ในแต่ละวัน
ทุกคนในนั้นพูดตลอดว่า “นึกถึงหน้าลูกไว้นะ แม่ใบนึกถึงหน้าลูกไว้นะ อย่าเป็นอะไรไปเด็ดขาด” ห้ามคิดอะไรที่แย่ๆ คิดอย่างเดียวว่าต้องออกไปเจอหน้าลูกให้ได้ พอเราเห็นน้องมาเยี่ยมตลอด เราต้องสู้ คนข้างน้องสู้แค่ไหน พี่เตยต้องสู้มากกว่าเขาให้มากที่สุด เพื่อวันนี้
เครดิตจาก. มติชน..
https://www.matichon.co.th/entertainment/thai-entertainment/news_4294385
ใบเตย’ ร่ำไห้เปิดใจครั้งแรก ....เผย 3 เดือนแรกเหมือนตายทั้งเป็น
ที่ผ่านมา จะคุยกับครอบครัวตลอดว่าวันนึงถ้าได้ออกมาสู่โลกภายนอก เราก็อยากหยุดพักทุกอย่างเลย เราอยากจะขออยู่กับลูก เพราะ ณ วันนั้น สิ่งที่ทำให้รู้สึกแย่มากที่สุด คือ พลัดพรากจากลูก พอได้ออกมาแล้ว
สิ่งที่ห่วงมากที่สุดคือ น้องลุกซ์ กับเวทมนตร์ และอยากจะขอโทษทั้ง 2 คน ที่ไม่ใช่ได้ช่วยดูแล ร่ายกาย หัวใจ หรือทุกๆอย่าง ที่ผ่านมาชีวิตใบเตย 35 ปี เรารับผิดชอบทุกอย่างของครอบครัวมาได้อย่างดีทั้งหมด สิ่งที่ตนเป็นห่วงมากที่สุดในชีวิต คือ ครอบครัว และลูก
2 ปี ตั้งแต่โควิด-19 เราเป็นศิลปิน เราไม่มีเงินเลย เรามาท้องด้วย และเราต้องหาทุกอย่างที่ทำให้เรามีกำลัง มีเงิน มีทุกอย่างเพื่อให้เราได้เลี้ยงลูกในช่วงเวลาที่แย่ที่สุดของโลก
เราเลยรู้สึกว่า สิ่งที่แย่มากๆ เราไม่ได้ทำหน้าที่ดูแลครอบครัวในระยะเวลาหนึ่ง กังวลทุกอย่างว่าลูกจะอยู่อย่างไร พอมารู้ข่าวแฟนน้องเสียชีวิต วันนั้น คือรู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น 3 เดือนแรก มีแค่วิญญาณเลยที่หล่อเลี้ยง และหล่อหล่อมให้เราตื่นขึ้นมาได้ในแต่ละวัน
ทุกคนในนั้นพูดตลอดว่า “นึกถึงหน้าลูกไว้นะ แม่ใบนึกถึงหน้าลูกไว้นะ อย่าเป็นอะไรไปเด็ดขาด” ห้ามคิดอะไรที่แย่ๆ คิดอย่างเดียวว่าต้องออกไปเจอหน้าลูกให้ได้ พอเราเห็นน้องมาเยี่ยมตลอด เราต้องสู้ คนข้างน้องสู้แค่ไหน พี่เตยต้องสู้มากกว่าเขาให้มากที่สุด เพื่อวันนี้
เครดิตจาก. มติชน..https://www.matichon.co.th/entertainment/thai-entertainment/news_4294385