แชร์ประสบการณ์ ทำงานบริษัท "ท่อน้ำเลี้ยงเมียน้อย" เป็นยังไงมาดู!
Disclaimer: บทความนี้ ไม่ได้พาดพิงถึงบุคคลหรือองค์กรใดใดทั้งสิ้น เป็นเพียงเรื่องแต่งจากประสบการณ์เท่านั้น
นิยามคำว่า
บริษัทท่อน้ำเลี้ยงเมียน้อย คือ บริษัทที่คนรวยๆ เปิดให้กับเมียน้อย เพื่อให้เมียน้อยมีรายได้นั่นเอง
จุดสังเกต
1. เมียน้อยจะได้รับแต่งตั้งให้เป็น CEO (แต่บริษัทก็มีแต่ CEO นั่นแหละ ที่เหลือคือพนักงานทั่วไป)
2. Social Media ของเหล่าเมียน้อย จะขึ้นว่า เป็น CEO บริษัท XXX แต่ใน Social Media แทบไม่เคยโพสต์อะไรเกี่ยวกับงานหรือบริษัทที่ตัวเองทำเลย นอกจากลงลูกโชว์นม โชว์กิ๊ เรียกกระแสไปวันๆ หากใครเจอคนลักษณะนี้ ให้พึงนึกไว้ว่า อาจจะอยู่ในรูปแบบ เจ้าของบริษัทท่อน้ำเลี้ยงเมียน้อย
3. ที่เหลือก็ตาม Step คนเป็นเมียน้อยอ่ะ ทำทรงเหมือนจะเรียกเรทติ้ง ทำทรงเหมือนโสด แต่ก็เหมือนไม่โสดจริง เพราะแท้จริงแล้วแสดงตัวไม่ได้
เริ่ม!!
เหตุเกิดจาก เราตกงานช่วงโควิด ช่วงนั้นไม่เลือกงาน จึงได้งานบริษัทแห่งหนึ่ง เราก็ทำงานให้เจ้านายคนนั้นมาเป็นเวลา 1 ปีถ้วน
พอครบปี เจ้านายเราก็พานักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งมาแนะนำให้รู้จัก บอกว่าเป็นแฟน (ตอนแรกเราก็เอ๊ะ..ในใจ แต่ไม่กล้าถาม เพราะเจ้านายเรามีภรรยา มีลูกอยู่แล้ว แต่ก็เรื่องของเจ้านาย เลยปล่อยเบลอไป) ทีนี้เจ้านายก็บอกให้ช่วยสอนงานน้องคนนี้หน่อย ในความพนักงานอ่ะเนาะ เราก็ทำไปตามหน้าที่ โดยระหว่างทางนั้นก็มีภรรยาหลวงมาสอบถาม เจ้านายเราก็บอกห้ามบอกเรื่องน้องคนนี้ ให้บอกว่าเป็นลูกค้า เราก็พูดอะไรไม่ได้ ได้แต่เก็บไว้ในใจ
สักพัก น้องนศ. ก็เรียนจบ เจ้านายเราก็มาบอกว่าอยากทำธุรกิจให้น้องคนนี้ ช่วยคิดให้หน่อย และให้หุ้นส่วนเรา ให้เราช่วยเป็น Co-founder เพราะกลัวน้องทำเองไม่รอด ส่วนเจ้านายออกตัวไม่ได้ ค่อนข้างมีชื่อเสียง และคงไม่อยากให้ใครรู้ว่าเขามีเมียน้อยเป็นน้องคนนี้
หลังจากนั้น ความบรรลัยก็บังเกิด
เพราะเราก็เคยทำงานกับเมียหลวง (บริษัทแรก) และเจ้านายเราดันมาบอกให้เราช่วยงานบริษัทใหม่เมียน้อย ส่วนเราก็แค่พนักงาน ปฏิเสธอะไรไม่ได้
แต่โชคยังดีที่เมียหลวงเขามีวุฒิภาวะ พอเขารู้เขาไม่ลงกับพนักงาน ลูกน้อง เขาไปจัดการกันเอง เราก็ไม่รู้ว่าสุดท้ายจัดการอีท่าไหน สรุปเมียหลวงก็เลยปล่อย ไม่หย่า แต่อยากทำไรทำ คำสุดท้ายที่เมียหลวงเขาพูดกับเราคือ "พี่เข้าใจ น้องเป็นแค่พนักงาน เราก็ต้องทำตามคำสั่ง พี่ไม่เคยโกรธเลยนะ วันไหนรู้สึกว่าไม่ไหว อยากหางานใหม่ พี่แนะนำให้ได้" เชื่อมั้ย เรานับถือน้ำใจพี่เขามากเลย แต่ตอนนั้นเราก็บูชาเงินอ่ะเนอะ เราก็เลยทำที่เดิมไป เพราะเรามีหุ้นด้วย เราคิดว่าถ้าบริษัทโต เราก็จะได้ปันผลหุ้นด้วยไง
ผ่านไป 2 ปี บริษัทนั้นโตขึ้นมากก แต่ปีแรกเราก็ไม่ได้ปันผลหุ้นนะ เขาบอกว่าจ่ายเป็นค่าคอมมิชชั่นแทนแล้ว เราก็เลยไม่อะไร คิดว่าบริษัทเพิ่งโต หยวนๆ ไป
ปีที่สอง บริษัทโตอีก เพราะเทรนด์สินค้าที่ตรงกลถ่มกำลังมาพอดี แต่ปีนี้ เขาขอเราจ่ายเป็นแค่เงินเดือนแบบ fixed rate ละ ไม่จ่ายค่าคอม แล้วบอกว่า ให้เรารอเอาปันผลจากหุ้นปลายปีแทน เพราะบริษัทมันกำไรอยู่แล้ว
แต่! ก็เกิดเหตุขึ้นอีก พอปลายๆ ปี ที่จะต้องได้ปันผล เจ้านายเรา ขอให้เราโอนหุ้นคืนเมียน้อยจ้า บอกเหตุผลว่า อยากจะเลิกกับเมียน้อยคนนี้ และอยากแยกย้าย ยกบริษัทให้เมียน้อยไป ส่วนเราก็ให้ย้ายไปทำบริษัทเขาแทน เราก็โอนคืน เพราะเกรงใจเจ้านาย
และได้ย้ายบริษัทใหม่อีก แต่ทีพีคกว่านั้นคือ เขาขอให้พวกเรากับทีมทั้งหมด เซ็นต์ใบลาออก
พอเซ็นต์เท่านั้นแหละ ไม่ใช่แค่ย้ายบริษัท แต่ย้ายที่ทำงานด้วย ซึ่งไกลมากกก แต่ไม่บอกนะ มาบอกหลังได้ใบลาออก เราเลยกลายเป็นคนโง่ไป
โง่ 1 - โดนให้โอนหุ้นคืน
โง่ 2 - โดนให้เซ็นต์ใบลาออก
โง่ 3 - โดนย้ายที่ทำงานใหม่ ซึ่งเดินทางไกล เหมือนบีบให้ออกกลายๆ
ตอนนี้เราก็พยายามหางานใหม่อยู่ เพราะจากสิ่งที่เจอเราก็ไม่ได้อยากทำงานด้วยแล้ว แต่ชีวิตก็ยังต้องมีเงินเดือน เลยทำไปพลาง หางานใหม่ไปพลาง
สิ่งที่ได้บทเรียนมาคือ
ถ้าใครเจอลักษณะนี้ ให้คิดว่า อย่าไปเชื่อคำพูดคน ทุกอย่างควรมีลายลักษณ์อักษร อันนี้ก็เหมือนเราถูกหลอกให้ปั้นแบรนด์ จนติดตลาด (เมียน้อยไม่ได้ทำอะไรเลย มีชื่อเป็น CEO เฉยๆ) พอแบรนด์ติดตลาดแล้ว ขายได้โดยไม่ต้องปั้นแบรนด์ ทำการตลาดอีก ก็หาทางให้ทีมการตลาดกับฝ่ายขายออก
อันนี้เรามารู้เพราะ หลังจากพวกเราย้ายออก
คุณเมียน้อยก็ไปประกาศรับสมัครคนในเว็บหางานแห่งหนึ่ง โดยให้เงินเดือนน้อยมาก
ฐานเงินเดือน 10K สำหรับตำแหน่ง แอดมิน
ส่วนตำแหน่งเราให้ 25K
เราเลยรู้ว่านี่คือสาเหตุที่บริษัทอจากบีบคนเก่าออกนั่นเอง เพราะเงินเดือนและค่าคอมสูงเกินไป (หลังๆ ยอดขายของแบรนด์นี้สูงมาก)
แต่ในที่สุด เราก็ถือว่าเราหลุดพ้นละ หลุดเร็วก็ดี มันก็ได้เรียนรู้ว่า ต่อไปควรเลือกงานมากกว่านี้ และทำงานบริษัทที่มั่นคง มีลายลักษณ์อักษรชัดเจน
ส่วนบริษัทนี้ น้องในออฟฟิศ แก๊งค์ที่ได้ออกยกทีมแบบเรานี่แหละ ก็ได้ให้นิยามมาว่า นี่เป็นบริษัทท่อน้ำเลี้ยงเมียน้อย ที่เจ้านายไม่คิดจะให้เติบโตอะไร แค่อยู่ได้ไปวันวัน และเมียน้อยมีรายได้ก็พอ
และมันมีอยู่จริง!
แชร์ประสบการณ์ ทำงานบริษัท "ท่อน้ำเลี้ยงเมียน้อย" เป็นยังไงมาดู!
Disclaimer: บทความนี้ ไม่ได้พาดพิงถึงบุคคลหรือองค์กรใดใดทั้งสิ้น เป็นเพียงเรื่องแต่งจากประสบการณ์เท่านั้น
นิยามคำว่า
บริษัทท่อน้ำเลี้ยงเมียน้อย คือ บริษัทที่คนรวยๆ เปิดให้กับเมียน้อย เพื่อให้เมียน้อยมีรายได้นั่นเอง
จุดสังเกต
1. เมียน้อยจะได้รับแต่งตั้งให้เป็น CEO (แต่บริษัทก็มีแต่ CEO นั่นแหละ ที่เหลือคือพนักงานทั่วไป)
2. Social Media ของเหล่าเมียน้อย จะขึ้นว่า เป็น CEO บริษัท XXX แต่ใน Social Media แทบไม่เคยโพสต์อะไรเกี่ยวกับงานหรือบริษัทที่ตัวเองทำเลย นอกจากลงลูกโชว์นม โชว์กิ๊ เรียกกระแสไปวันๆ หากใครเจอคนลักษณะนี้ ให้พึงนึกไว้ว่า อาจจะอยู่ในรูปแบบ เจ้าของบริษัทท่อน้ำเลี้ยงเมียน้อย
3. ที่เหลือก็ตาม Step คนเป็นเมียน้อยอ่ะ ทำทรงเหมือนจะเรียกเรทติ้ง ทำทรงเหมือนโสด แต่ก็เหมือนไม่โสดจริง เพราะแท้จริงแล้วแสดงตัวไม่ได้
เริ่ม!!
เหตุเกิดจาก เราตกงานช่วงโควิด ช่วงนั้นไม่เลือกงาน จึงได้งานบริษัทแห่งหนึ่ง เราก็ทำงานให้เจ้านายคนนั้นมาเป็นเวลา 1 ปีถ้วน
พอครบปี เจ้านายเราก็พานักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งมาแนะนำให้รู้จัก บอกว่าเป็นแฟน (ตอนแรกเราก็เอ๊ะ..ในใจ แต่ไม่กล้าถาม เพราะเจ้านายเรามีภรรยา มีลูกอยู่แล้ว แต่ก็เรื่องของเจ้านาย เลยปล่อยเบลอไป) ทีนี้เจ้านายก็บอกให้ช่วยสอนงานน้องคนนี้หน่อย ในความพนักงานอ่ะเนาะ เราก็ทำไปตามหน้าที่ โดยระหว่างทางนั้นก็มีภรรยาหลวงมาสอบถาม เจ้านายเราก็บอกห้ามบอกเรื่องน้องคนนี้ ให้บอกว่าเป็นลูกค้า เราก็พูดอะไรไม่ได้ ได้แต่เก็บไว้ในใจ
สักพัก น้องนศ. ก็เรียนจบ เจ้านายเราก็มาบอกว่าอยากทำธุรกิจให้น้องคนนี้ ช่วยคิดให้หน่อย และให้หุ้นส่วนเรา ให้เราช่วยเป็น Co-founder เพราะกลัวน้องทำเองไม่รอด ส่วนเจ้านายออกตัวไม่ได้ ค่อนข้างมีชื่อเสียง และคงไม่อยากให้ใครรู้ว่าเขามีเมียน้อยเป็นน้องคนนี้
หลังจากนั้น ความบรรลัยก็บังเกิด
เพราะเราก็เคยทำงานกับเมียหลวง (บริษัทแรก) และเจ้านายเราดันมาบอกให้เราช่วยงานบริษัทใหม่เมียน้อย ส่วนเราก็แค่พนักงาน ปฏิเสธอะไรไม่ได้
แต่โชคยังดีที่เมียหลวงเขามีวุฒิภาวะ พอเขารู้เขาไม่ลงกับพนักงาน ลูกน้อง เขาไปจัดการกันเอง เราก็ไม่รู้ว่าสุดท้ายจัดการอีท่าไหน สรุปเมียหลวงก็เลยปล่อย ไม่หย่า แต่อยากทำไรทำ คำสุดท้ายที่เมียหลวงเขาพูดกับเราคือ "พี่เข้าใจ น้องเป็นแค่พนักงาน เราก็ต้องทำตามคำสั่ง พี่ไม่เคยโกรธเลยนะ วันไหนรู้สึกว่าไม่ไหว อยากหางานใหม่ พี่แนะนำให้ได้" เชื่อมั้ย เรานับถือน้ำใจพี่เขามากเลย แต่ตอนนั้นเราก็บูชาเงินอ่ะเนอะ เราก็เลยทำที่เดิมไป เพราะเรามีหุ้นด้วย เราคิดว่าถ้าบริษัทโต เราก็จะได้ปันผลหุ้นด้วยไง
ผ่านไป 2 ปี บริษัทนั้นโตขึ้นมากก แต่ปีแรกเราก็ไม่ได้ปันผลหุ้นนะ เขาบอกว่าจ่ายเป็นค่าคอมมิชชั่นแทนแล้ว เราก็เลยไม่อะไร คิดว่าบริษัทเพิ่งโต หยวนๆ ไป
ปีที่สอง บริษัทโตอีก เพราะเทรนด์สินค้าที่ตรงกลถ่มกำลังมาพอดี แต่ปีนี้ เขาขอเราจ่ายเป็นแค่เงินเดือนแบบ fixed rate ละ ไม่จ่ายค่าคอม แล้วบอกว่า ให้เรารอเอาปันผลจากหุ้นปลายปีแทน เพราะบริษัทมันกำไรอยู่แล้ว
แต่! ก็เกิดเหตุขึ้นอีก พอปลายๆ ปี ที่จะต้องได้ปันผล เจ้านายเรา ขอให้เราโอนหุ้นคืนเมียน้อยจ้า บอกเหตุผลว่า อยากจะเลิกกับเมียน้อยคนนี้ และอยากแยกย้าย ยกบริษัทให้เมียน้อยไป ส่วนเราก็ให้ย้ายไปทำบริษัทเขาแทน เราก็โอนคืน เพราะเกรงใจเจ้านาย
และได้ย้ายบริษัทใหม่อีก แต่ทีพีคกว่านั้นคือ เขาขอให้พวกเรากับทีมทั้งหมด เซ็นต์ใบลาออก
พอเซ็นต์เท่านั้นแหละ ไม่ใช่แค่ย้ายบริษัท แต่ย้ายที่ทำงานด้วย ซึ่งไกลมากกก แต่ไม่บอกนะ มาบอกหลังได้ใบลาออก เราเลยกลายเป็นคนโง่ไป
โง่ 1 - โดนให้โอนหุ้นคืน
โง่ 2 - โดนให้เซ็นต์ใบลาออก
โง่ 3 - โดนย้ายที่ทำงานใหม่ ซึ่งเดินทางไกล เหมือนบีบให้ออกกลายๆ
ตอนนี้เราก็พยายามหางานใหม่อยู่ เพราะจากสิ่งที่เจอเราก็ไม่ได้อยากทำงานด้วยแล้ว แต่ชีวิตก็ยังต้องมีเงินเดือน เลยทำไปพลาง หางานใหม่ไปพลาง
สิ่งที่ได้บทเรียนมาคือ
ถ้าใครเจอลักษณะนี้ ให้คิดว่า อย่าไปเชื่อคำพูดคน ทุกอย่างควรมีลายลักษณ์อักษร อันนี้ก็เหมือนเราถูกหลอกให้ปั้นแบรนด์ จนติดตลาด (เมียน้อยไม่ได้ทำอะไรเลย มีชื่อเป็น CEO เฉยๆ) พอแบรนด์ติดตลาดแล้ว ขายได้โดยไม่ต้องปั้นแบรนด์ ทำการตลาดอีก ก็หาทางให้ทีมการตลาดกับฝ่ายขายออก
อันนี้เรามารู้เพราะ หลังจากพวกเราย้ายออก
คุณเมียน้อยก็ไปประกาศรับสมัครคนในเว็บหางานแห่งหนึ่ง โดยให้เงินเดือนน้อยมาก
ฐานเงินเดือน 10K สำหรับตำแหน่ง แอดมิน
ส่วนตำแหน่งเราให้ 25K
เราเลยรู้ว่านี่คือสาเหตุที่บริษัทอจากบีบคนเก่าออกนั่นเอง เพราะเงินเดือนและค่าคอมสูงเกินไป (หลังๆ ยอดขายของแบรนด์นี้สูงมาก)
แต่ในที่สุด เราก็ถือว่าเราหลุดพ้นละ หลุดเร็วก็ดี มันก็ได้เรียนรู้ว่า ต่อไปควรเลือกงานมากกว่านี้ และทำงานบริษัทที่มั่นคง มีลายลักษณ์อักษรชัดเจน
ส่วนบริษัทนี้ น้องในออฟฟิศ แก๊งค์ที่ได้ออกยกทีมแบบเรานี่แหละ ก็ได้ให้นิยามมาว่า นี่เป็นบริษัทท่อน้ำเลี้ยงเมียน้อย ที่เจ้านายไม่คิดจะให้เติบโตอะไร แค่อยู่ได้ไปวันวัน และเมียน้อยมีรายได้ก็พอ
และมันมีอยู่จริง!