ลูกชายอยู่ม. 1 เปิดเทอมมาได้ก็สามอาทิตย์แล้ว บทเรียนยากขึ้น เนื้อหาก็มีมากขึ้น เราถามลูกว่าไปเรียนพิเศษไหม ลูกไม่เอาอยากให้แม่สอน เรามองเนื้อหาก็ว่าไม่ยาก ด้วยความที่แม่ก็เรียนสายวิทย์และจบวิทย์มา ก็พอจะสอนได้ ก็โอเค
แต่เราลืมไปว่า ภาวะอารมณ์เราไม่ได้เยือกเย็นเหมือนครูบาอาจารย์ พอสอนลูกทำแบบฝึกหัดจบ เราตั้งโจทย์ให้เขาลองแก้ โจทย์เหมือนกันเพียงแค่เปลี่ยนตัวเลขเท่านั้น ปรากฏว่าเขางง แก้สมการเองไม่ได้ แต่ถ้าเราไกด์ ถึงจะร้องอ๋อ
พอเป็นแบบนี้บ่อย ๆ เราเริ่มเครียด อารมณืขึ้น มีดุ มีบ่น เขาก็น้ำตาซึมแล้วออกอาการต่อต้าน ปล่อยเป็นแบบนี้ต่อไป ลูกต้องไม่เอาทั้งเราและเรียนแน่
พลอยจะทำให้สัมพันธภาพอันดีของแม่ลูกลดลง
ลูกไม่อยากไปเรียนพิเศษ โดยให้เหตุผลว่าหากเขาไม่เข้าใจ เขาสอบถามเราได้เลย แต่ถ้าอยู่ในคราสก็ต้องรอให้ครูพูดจบแล้วค่อยถาม
ลูกยิ่งพูดแบบนั้น เรายิ่งรู้สึกเสียใจที่ความอดทนไม่มีมากพอ ครั้นจะจ้างครูสอนพิเศษมาตัวต่อตัว ก็ยอมรับค่ะว่าฐานะยังไม่พร้อมขนาดนั้น
เราควรทำยังไงดีคะ หรือใครมีหลักเตือนสติอะไรเรา ช่วยแนะนำทีค่ะ เรากลัวเป็นบ้าก่อนลูกเก่ง
สอนการบ้านลูกยังไง ไม่ให้แม่แปลงร่าง
แต่เราลืมไปว่า ภาวะอารมณ์เราไม่ได้เยือกเย็นเหมือนครูบาอาจารย์ พอสอนลูกทำแบบฝึกหัดจบ เราตั้งโจทย์ให้เขาลองแก้ โจทย์เหมือนกันเพียงแค่เปลี่ยนตัวเลขเท่านั้น ปรากฏว่าเขางง แก้สมการเองไม่ได้ แต่ถ้าเราไกด์ ถึงจะร้องอ๋อ
พอเป็นแบบนี้บ่อย ๆ เราเริ่มเครียด อารมณืขึ้น มีดุ มีบ่น เขาก็น้ำตาซึมแล้วออกอาการต่อต้าน ปล่อยเป็นแบบนี้ต่อไป ลูกต้องไม่เอาทั้งเราและเรียนแน่
พลอยจะทำให้สัมพันธภาพอันดีของแม่ลูกลดลง
ลูกไม่อยากไปเรียนพิเศษ โดยให้เหตุผลว่าหากเขาไม่เข้าใจ เขาสอบถามเราได้เลย แต่ถ้าอยู่ในคราสก็ต้องรอให้ครูพูดจบแล้วค่อยถาม
ลูกยิ่งพูดแบบนั้น เรายิ่งรู้สึกเสียใจที่ความอดทนไม่มีมากพอ ครั้นจะจ้างครูสอนพิเศษมาตัวต่อตัว ก็ยอมรับค่ะว่าฐานะยังไม่พร้อมขนาดนั้น
เราควรทำยังไงดีคะ หรือใครมีหลักเตือนสติอะไรเรา ช่วยแนะนำทีค่ะ เรากลัวเป็นบ้าก่อนลูกเก่ง