[CR] 10 หนังรัก หนังไทย ที่ดูไม่ว่ากี่รอบ ก็ไม่เบื่อ ตอนที่8/10

กระทู้รีวิว
เรื่องราวความรัก คนมักจะตั้งคำถามว่าจำเป็นต้องอาศัยความโรแมนติกหรือเปล่า สำหรับผมความโรแมนติกบางทีก็คือความไม่โรแมนติก ภรรยาผมมักจะพร่ำบนบอกใครๆที่เธอเกือบถูกผมขอแต่งงาน ตอนอยู่ที่ร้านข้าวมันไก่ ดีที่ตัดบททันแล้วนัดกันที่ร้านไอสครีมในตอนเย็น เพื่อนๆผมมักจะถามว่ามีในโลกด้วยเหรอ คนที่ไม่เคยมีช่วงเวลาที่เรียกได้ว่าเป็นแฟนกัน หรือมีอะไรกันใดๆมาก่อน อยู่ดีๆขอแต่งงานกันเลย ผมบอกไปว่ามีผมนี่แหล่ะ ที่ไม่ได้ให้ความรู้สึกถึงความสำคัญของความโรแมนติก แค่รู้สึกว่าเขาเปิดใจให้ ได้อยู่ใกล้กันตรงนั้นจะโรแมนติกทันที ความโรแมนติกสำหรับผมอยู่ที่ความรู้สึก ไม่ใช่ความสวยงามของสภาพแวดล้อม ความรักของคนควรมาจากตัวตนของเรา ไม่ใช่ชี้วัดกันว่าใครจะเป็นคนโรแมนติกกว่ากัน หนังที่ผมดูได้หลายรอบ ที่สะท้อนให้เห็นเด่นชัดในด้านนี้ คือเรื่องที่
8.ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้


เรื่องราวของครูสาว(เพลง)สอนภาษาอังกฤษ(ติวเตอร์เพลง) ที่ติวให้ลูกศิษย์คายะ(สาวญี่ปุ่น)สอบสัมภาษณ์ผ่านการคัดเลือกไปทำงานสาขาต่างประเทศ ในวันสุดท้ายก่อนที่คายะจะเดินทาง จึงขอช่วยให้เพลงช่วยบอกเลิกแฟนหนุ่ม(ยิม)ให้หน่อย เพราะยิมพูดฟังอังกฤษไม่ได้ จนครูเพลงอดไม่ได้ที่จะถามไปว่าแล้วตลอดเวลาคบกันนั้น คุยกันอย่างไร คายะก็ตอบมาว่ารู้จักคำว่า S.E.X ไหม พร้อมทำเสียงครางเบาๆให้เข้าใจ ครูเพลงส่ายหัวเรื่องแบบนี้ทำไม่ได้หรอก คายะบ่นเสียดายอุตส่าห์ซื้อกระเป๋าวิตตองมาตอบแทน ครูเพลงก็เลยต้องยอมรับงานด้วยอยากได้ พร้อมบอกว่าเลือกได้ดีมาก เมื่อถึงเวลานัด ในร้านกาแฟครูเพลงใส่เสื้อกันหนาวพลาดแขนฟาดไปที่ยิมที่ยืนต่อแถวอยู่ด้านหลัง พร้อมจ้องไปที่ใบหน้า ด้วยความโมโหที่โดดฟาดหน้ายิมจึงตอบกลับไปว่าจ้องมองอะไร หน้าผมเหมือนผัวคุณเหรอ เพลงจึงถามไปว่ายิมหรือเปล่า แล้วบอกว่าคายะฝากเสียงที่บันทึกไว้มาให้ฟัง เพลงเปิดเทปให้ฟังพร้อมแปรได้ใจความว่า ยิมต้องขอโทษด้วยที่ปกปิดเรื่องการสอบสัมภาษณ์ไปต่างประเทศ ฉันรักคุณนะ แต่เราหลายอย่างที่ไม่เหมือนกัน ฉันหวังว่าคุณจะเจอคนที่ใช่ ยิมก็ตะคอกกลับว่าก็..ึงนี่แหล่ะคนที่ใช่(ลูกค้าแทบทั้งร้านหันมามอง) ไม่ฟังแม่งง.. เพลงบอกก็ได้ไม่เป็นไร ยิมลุกเดินพร้อมหันหน้ามาถามว่าคุณใช้ไหมที่สอนภาษาอังกฤษเขา เพลงตอบเสียงสั่น ช...ใช่ ยิมตอบกลับด้วยความโกรธ เพราะคุณไง!.. พร้อมเดินจากไปจนใกล้ถึงถนน แล้วเหมือนยังคิดโกรธ พร้อมเปิดกระเป๋าเป้ ล้วงอะไรบางอย่างออกมา คนในร้านกาแฟต่างคิดว่าระเบิด ยิมขว้างมาในร้าน คนในร้านกระโดดหนีคนละทิศละทาง เพลงวิ่งหนีไปแล้วยังย้อนกลับมาหยิบกระเป๋าวิตตองไปด้วย แท้จริงแล้วที่ขว้างเข้ามาที่ประตูเป็นแค่น้ำซุปข้าวมันไก่

เพลงหลังเลิกงานขณะปิดประตูร้าน มองเห็นโปสเตอร์โฆษณะมีรูปตนเองเป็นพรีเซ็นเตอร์มีร่องรอยเหมือนถูกฟันคอพับ จนรู้สึกสยอง ไม่พอขณะเดินไปลานจอดรถอันเปล่าเปลี่ยว แว่วเสียงเร่งเครื่องมอเตอร์ไซต์มาแต่ไกล จนใกล้เข้ามายิวเลี้ยวเข้ามาหาจนล้อสะบัด ยิมลงจากรถแล้วเดินเข้ามาใกล้พร้อมบอกว่าต้องการสอบสัมภาษณ์เพื่อไปอยู่กับคายะ เพลงตอบกลับว่าเป็นลูกครึ่งไม่ใช่เหรอ ไปเรียนกับพ่อง..สิ ยิมย้อนโดยอารมณ์เฮ้ย..พ่อเป็นฝรั่งเศษ..แม่งงหนีกลับประเทศตั้งแต่ยังเดินไม่ได้ พร้อมขู่ว่าเห็นรูปแล้วยัง จะสอนไหม เพลงตอบสอ...นๆๆ ยิมย้ำตัวต่อตัวนะ เพลงตอบได้..ๆๆ ยิมยัดแบงค์หลายพันในกระเป๋าเพลง พร้อมขู่ว่าถ้าเบี้ยวจะเอาอย่างอื่นคืน เพลงก้มมองเงินในกระเป๋าพร้อมบ่นอุบ ว่ามันจะคุ้มไหมเนี่ย..

ถึงวันเริ่มเรียนวันแรก ยิมเข้ามาในร้านกาแฟ เจอเพลงที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว พร้อมวางกระเป๋าบนกระเป๋าวิตตอง เพลงหยิบออกไปวางให้ห่างออกได้ด้วยอาการรังเกียจ พร้อมรีบเข้าเรื่องแนะนำกฏการเรียนต่างๆเป็นภาษาอังกฤษตบท้ายด้วยคำว่า ดูยู้อันเดอร์สแตน ยิมพยายามอ่านปากแล้วก็ยืนขึ้น เพลงงงถามไปว่ายืนทำไม ยืนนั่นมันสแตนอั๊บ ยิมก็เลยแก้อายโดยการอ้างว่ารู้ดิ้ จะลุกไปซื้อกาแฟแล้วเดินออกไป เพลงบ่นอุบ..งานช้างละงานนี้. หลังจากนั้นเพลงก็เริ่มสอนให้สะกด ABC แล้วทั้งคำศัพท์ แล้วถามคำโน่นนี่ว่ารู้หรือเปล่า ยิมตอบไม่ได้จึงถูกดูถูกว่าคำศัพท์เหล่านี้เด็กประถมยังท่องได้ ยิมก็เลยชี้ไปที่หน้าอกหญิงใส่กอบ-อก แล้วถามว่า วอตอิ้สแดด เพลงพยายามตอบโน่นนี่ก็ไม่ถูก ยิมก็เยาะเย้ยว่าห่วยว่ะ เพลงถามว่าแล้วมันคืออะไร ยิมก็ตอบว่ามะม่วงร่องอก

ฉากตัดมาที่การสอนเนื้อการการสนธนาทางธุรกิจกับเหล่าบรรดาลูกศิษย์รุ่นใหญ่ มีแบบทดสอบให้พูดตามโจทย์ที่ตั้งไว้ มีหนุ่มหล่อโปรไฟล์ดีพูดได้คล่องแคล่ว ด้วยถ่อยคำความหมายกินใจ จนครูเพลงรู้สึกเหมือนไปไม่เป็น เหมือนจะรู้สึกใจอ่อนเข้าให้แล้ว ไม่นานหลังจากนั้นก็รู้ว่าชายน่าหลงใหลผู้นั้นมีชื่อว่าคุณพฤก มาขอเบอร์โทร เพลงแก้เขินด้วยการถามไปว่าแล้วให้ไปทำไมพร้อมเก็บสีหน้าไม่อยู่

วันต่อมาการเรียนก็ดูเหมือนจะดำเนินไปอย่างราบลื่น ยิมช่วยไล่ยุงใต้โต๊ะเมื่อเห็นเพลงตบยุงที่กัดขาเพราะใส่กระโปรงสั้น จนกระทั่งสังเกตุเห็นแสงแฟลชมาจากโทรศัพท์เด็กนร.โต๊ะไกลๆ พร้อมทั้งได้ยินคำพูดว่า มันเปิดแฟลชทำไม เลยมั่นใจว่ามันต้องถ่ายหวอครูเพลงแน่นอน ไม่ลังเลยิมรีบวิ่งไปเบิร์ดกระโหลก แล้วล้วงกกน.ดึงเด็กที่ถ่ายมาแล้ว สั่งให้เอาโทรศัพท์ให้พี่เขาดู เพลงเห็นด้วยความตกใจแล้วรีบลบ ยิมขู่ว่าอย่าให้เจอทำเรื่องแบบนี้อีก พร้อมโยนโทรศัพท์ไป เด็กวิ่งไปโดยที่กกน.ยังติดมือยิมอยู่จนถูกสะบัดขาด เพลงหันหน้าหนีด้วยความรู้สึกหยะแหยง ยังไม่มียังมีขี้ติดอยู่ที่กกน.ด้วย ดูเหมือนเหตุการณ์ที่เหมือนจะเลวร้ายหนนี้ กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างทั้งคู่

หลังจากเลิกเรียนทั้งคู่ไปกินข้าว แล้วเพลงก็ซ้อนท้ายยิมมาที่ลานจอดรถ มีเสียงไลน์ดัง เพลงอ่านแล้วอมยิ้มไป ยิมถามจะนอนอยู่นี่เหรอ แล้วถามต่อว่าวูอี๊สอิด เพลงตอบอยู่มายุ่ง ยิมบอกถามเพราะจะเรียน ไม่ได้อยากเจือกเรื่องส่วนตัว เพลงตอบฮีอีสมายด์บ๊อยเฟรน ยิมย้อนมีแฟนด้วย เพลงตอบไม่ใช่ก็ใกล้แล้วล่ะ รอเวลาโรแมนติกขออยู่ ยิมถาม ตอบทำไมไม่ใช่อยากรู้สักหน่อย หลังจากนั้นเพลงกลับถึงบ้านพิมพ์ข้อความไปหาคุณพฤกเล่นๆไม่คิดจะส่งแต่ดันเผลอทำมือถือหล่น ข้อความว่า ไปเดทกันไหม เลยถูกส่งออกไป คุณพฤกก็เลยโทรกลับมาบอกงั้นจองโต๊ะเลยละกัน เพลงได้ไปงานวันเกิดคุณแม่คุณพฤก จึงรู้ว่าเขาเป็นครอบครัวตระกูลผู้ดีเก่า มีรถหรูรุ่นเก่าหลายคัน คุณพฤกพาเพลงไปนั่งเรือยอร์จหรูเที่ยวทะเล ขณะขึ้นเรือทำส้นรองเท้าหัก ตอนอยู่บนเรือคุณพฤกขอให้เพลงหลับตา แล้วก็ร้องเพลงเพื่อชีวิต ..ความรักเอยงดงาม อย่างนี้ จนชั่วชีวีโหยหาความรักไม่เคยพอ.......(ปู พงษ์สิทธิ์) เพลงถามว่าคุณพฤกชอบเพลงเพื่อชีวิตเหรอคะ คุณพฤกตอบกลับ ผมชอบมีชีวิตเพื่อเพลง เพลงอุทานว่าโรแมนติกจัง..มีมุกด้วย.. วันต่อมาคุณพฤกมาหาเพลงที่ทำงานพร้อมหอบรองเท้ารุ่นเดียวที่เพลงทำหักมานับ10คู่ พร้อมเรียกให้เพลงมาลอง เพลงบอกถ้าจะซื้อมาฝากโทรถามไซด์ก่อนก็ได้ คุณพฤกตอบถ้าโทรถามมันก็ไม่เซอร์ไพรบ์สิครับ ณ.เวลานั้นเพลงเหมือนรู้สึกกดดันอย่างบอกไม่ถูก แล้วก็ตัดสินใจบอกคุณพฤกว่า เรากลับมาเป็นติวเตอร์กับนักเรียนเหมือนเดิมดีไหม เพราะแม่ไปดูดวงมาหมอดูบอกมาว่าปีชงค์ ไม่สามารถเป็นเนื้อคู่กันได้ หลังจากนั้นเพลงก็นัดยิมไปโรงยิมชกมวย ขอช่วยเป็นคู่ซ้อม ยิมโดนชกหน้าหันไปหลายหมัด เพลงบอกมันอัดอั้น อยากเลิกกับแฟน จนยิมชกต่อไม่ไหนรอดเชือกลงจากเวทีเดินโซเซไป พร้อมพรรณาหมัดหนักยังกะปาเกียว

วันต่อมาขณะที่จะถึงเวลานัดเรียน ยิมเดินมาบอกว่าร้านที่นั่งเรียนประจำมีไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้มาเหมา เพลงรีบหลบไม่ให้เห็นพร้อมบอกว่าเค้านี่แหล่ะ ยิมบอกให้บอกๆไปเถอะ มันไม่ตายหรอก เพลงบอกหักอกเขาเหมือนขับรถทับลูกหมาเลยนะ แล้วหนีไปตั้งหลักที่หน้าห้องสอน คุณพฤกตามมาพร้อมกับถุงอาหารชุดใหญ่ประมาณกินได้นับสิบคน เพลงบอกว่าห้องเละ ยิมเดินมาพร้อมแนะนำว่าเป็นผัวเธอ จนเพลงรู้สึกมีสีหน้ารับไม่ได้แต่ก็ต้องยอมตามบทไป

คายะมารู้ว่ายิมกำลังจะสอบสัมภาษณ์เพื่อตามมาง้อ จึงแสดงอาการไม่พอใจขณะที่กำลังคลุกคลีกับแฟนใหม่ ต่อมาเพลงก็เลยนัดพบยิมพร้อมส่งเงินคืนให้ พูดว่าเธอนี่มันโ...ง่..เกินไป ยิมเร่งมอเตอร์ไซต์พร้อมกับขว้างเงินมาที่กระจกหน้ารถแล้วขับหนีออกไป แล้วก็ทำหนังสือการ์ตูนCinderellaที่ยิมพยายามแปลคำศัพท์ในนั้นโดยการเขียนความหมายเป็นภาษาไทยทีละคำ ทำให้เพลงรู้สึกผิดที่ตัดสินใจทิ้งการสอนไปกลางคัน วันต่อมาเพลงตัดสินใจเดินทางไปพบยิมที่โรงงาน ประชาสัมพันธ์ใช้เครื่องขยายเสียงเรียนให้ยิมออกมาพบคุณครูที่ห้อง จนเพื่อนๆต่างรู้สึกงงกันหมด แต่ยิมไม่รู้สึกงง แต่งอน ไหนบอกว่าโง่เกินไป เพลงบอกคนอุตส่าห์จะมาช่วย เพื่อนๆยิมจึงช่วยกับเต็งข้อสอบว่าการสัมภาษณ์เขาน่าจะถามอะไร หลังจากติวเสร็จก็ชวนกันไปกินข้าวที่ดาดฟ้า เล่นเกมส์เต้นรำกันอย่างสนุกสนาน แต่ยิมบอกเขาไม่เต้นงานเล็กๆ

วันต่อมาเพลงมีงานเป็นล่ามที่สถานทูต จึงชวนยิมไปด้วยเพื่อให้ได้พูดคุยกับคน พร้อมตั้งโจทย์ให้คุยกับใครก็ได้อย่างน้อย3คน 2คนแรกผ่านไปอย่างทุรักทุเร มีเด็กฝรั่งหลงมานั่งข้างๆรอแม่ ยิมจึงได้โอกาศถาม สักพักเด็กขอให้เต้นเป็นเพื่อน เพลงหันมามองตามคำชมขอคนข้างๆว่าเด็กเต้นน่ารักจัง เพลงหันมามองแล้วอุทาน เต้นเฉพาะงานใหญ่จริงๆด้วย หลังจากนั้นเพลงได้มานั่งพักพร้อมนำรองเท้าที่มันส้นหัก(อีกแล้ว)มาฝาก แล้วก็ไปทำหน้าที่ต่อ ยิมเหลือบไปมองกริยาอาการเพลงคุยกับบรรดาแขกอย่างน่าเอ็นดู หลังเสร็จภารกิจกลับมายิมยื่นรองเท้าที่ซ่อมเสร็จแล้วให้ โดยการหักส้นอีกข้างออก ซึ่งเพลงก็รู้สึกทึ่งและพอใจเพราะมันก็ดูดีไปอีกแบบ ก่อนเลิกงานทั้งคู่ได้นั่งฟังเพลงฝรั่งอันไพเราะ เพลงถามให้แปลความหมายให้ฟังหรือเปล่า ยิมบอกแค่นี้แปลเองได้ พร้อมทั้งฮึมฮำดำน้ำแปลไปจนเพลงอดไม่ได้ที่จะบอกความหมายที่แท้จริงของเพลง ประมาณว่า...คืนนี้ให้ฉันไปส่งคุณที่บ้านได้ไหม..ยิมบอกบ้านผมหมาดุนะ..หลังเลิกงานเพลงซ้อนท้ายยิมกลับมาลานจอดรถบนตึก ดูเหมือนจะเป็นค่ำคืนแห่งความสุขของทั้งคู่

ยิมกลับมาถึงบ้านรูมเมทถามว่าทำไมกลับมาดึก พรุ่งจะต้องสอบไม่ใช่เหรอ ยิมตกใจว่ามันไม่ใช่เดือนหน้าเหรอ ปรากฏว่าดูปฏิทินผิด เลยรีบโทรไปหาเพลง มาถึงก็รีบให้พิมพ์ใบสัมภาษณ์ที่ต้องกรอกประวัติเป็นภาษาอังกฤษ ยิมสังเกตุเห็นตำราวิชาช่างเล่มหนาจนรู้สึกได้ถึงความตั้งใจทุ่มเทของเพลงเพื่อให้เขาสอบผ่าน ทันใดนั้นคายะก็สไกป์มา บอกว่าเธอเปลี่ยนใจอยากให้ยิมมาหาแล้ว พร้อมทั้งบอกแนวข้อสอบที่สำคัญข้อสุดท้ายที่เขาจะถาม คือคำถามว่าผู้ก่อตั้งบริษัทชื่ออะไร คายะสังเกตุเห็นอาการผิดปรกติของเพลงจึงอุทานว่าเพลงชอบยิม ยิมจะได้ยินคำนี้ ก่อนกลับยิมถามเพลงว่า ครูรักผมเหรอ เพลงก็ถามกลับไปว่าพรุ่งนี้ก็จะสอบไม่ใช่เหรอ แล้วติวเตอร์ธรรมดาอย่างเราจะไปรักศิษย์ได้ยังไง สำหรับเพลงคืนนี้ช่างเป็นค่ำคืนที่อ้างว้างและเดียวดาย

ก่อนสอบสัมภาษณ์เพลงโทรมาบอกเรื่องที่คายะบอก ถึงคำถามที่สำคัญสุดท้าย ขณะสัมภาษณ์ แต่ละคำถามล้วนตรงกับที่เพลงสั่งสอนไว้ จนอดที่ยิมจะรู้สึกคิดถึงเพลงไม่ได้ ภาพเรื่องราวต่างๆอันน่าประทับใจระหว่างกันที่ผ่านมา ต่างผุดขึ้นมาในหัว จนกระทั่งถึงคำถามสุดท้าย ยิมตอบกับไปว่าโดราเอม่อน.. ยิมนัดเพลงมาที่ร้านกาแฟที่นั่งเรียนประจำ พร้อมทั้งเปิดบันทึกเสียงการสัมภาษณ์ พร้อมทั้งสารภาพไปว่าคนพบความรู้สึกที่แท้จริงแล้ว ว่าไม่ได้รักคายะ ที่ผ่านมาเป็นแค่ความรู้สึกโง่ๆเท่านั้น พร้อมทั้งถามว่าจะขอเป็นแฟนกันได้หรือเปล่า..เพลงรู้สึกมีความสุขจนน้ำตาไหล แล้วตอบกับไปว่า I think so.
ชื่อสินค้า:   หนังรัก หนังไทย ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่