The Hunger Games: The Ballad of Songbirds and Snakes ปฐมบทเกมล่าเกม
เรื่องย่อ The Hunger Games: The Ballad of Songbirds and Snakes ปฐมบทเกมล่าเกม
หลายปีก่อนที่เขาจะกลายเป็นประธานาธิบดีจอมเผด็จการแห่งพาเน็ม คอริโอเลนัส สโนว์ ในวัย 18 ปีคือความหวังสุดท้ายของวงศ์ตระกูล ตระกูลที่ครั้งหนึ่งเคยรุ่งเรือง แต่กลับต้องล่มสลายลงหลังจากจบสงครามครั้งก่อน ด้วยการแข่งขัน Hunger Games ครั้งที่ 10 สโนว์ตัดสินใจลงชื่อเป็นพี่เลี้ยงให้กับลูซี่ เกรย์ เบิร์ด เด็กสาวบรรณาการจากเขต 12 อันแสนทุรกันดาร แต่หลังจากที่ลูซี่คว้าใจผู้คนแห่งพาเน็มมาด้วยเสียงร้องเพลงอันแสนไพเราะของเธอในพิธีเก็บเกี่ยว สโนว์ก็มองเห็นหนทางแล้วว่าจะทำยังไงให้โชคเข้าข้างเขา เขาต้องใช้ความสามารถทั้งการจัดการโชว์ตัวและสั่งสมอำนาจทางการเมือง สโนว์และลูซี่ต้องแข่งกับเวลาเพื่อเอาตัวรอด ที่ท้ายที่สุดแล้วจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงว่าใครคือ นกผู้ขับขาน และใครคืออสรพิษ
นำแสดงโดย
ทอม บลายธ์ รับบท คอริโอลานุส สโนว์
เรเชล ซีเกลอร์ รับบท ลูซี เกรย์ แบร์ด
เจสัน ชวาตซ์แมน รับบท ลูเครสติอุส ลัคกี ฟลิกเกอร์แมน
ไวโอลา เดวิส รับบท ดร.โวลูมเนีย กอร์
ปีเตอร์ ดิงค์เลจ รับบท คาสซา ไฮจ์บอตทอม
ฮันเตอร์ สคาเฟอร์ รับบท ทิกริด สโนว์
เบิร์น กอร์แมน รับบท ผบ.ฮอฟ
บอกเลยว่าเป็นแฟนคลับแฟรนไชส์หนังเรื่องนี้มานานมาก และดูทุกภาค ชอบมาตั้งแต่ภาคแรก และติดตามมาตลอด ภาคแรก คือไม่น่าเชื่อว่า หนังจะทำให้เรา อิน และลุ้นไปกับหนังมากๆ เหมือนเราได้เข้าไปลงสนามเอง ตัวหนังทำออกมาดี และจบได้สมบูรณ์ และภาคนี้ ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้น และที่มา ก่อนจะเกิดแคทนิท ก็ไม่พลาดอีกเช่นเคย
ความรู้สึกส่วนตัวหลังดูจบ
โดยรวมถือว่าหนังทำออกมาได้ดี ตามมาตรฐานแฟรนไชส์ แต่ก็ไม่ได้ว้าวหรือรู้สึกว่าดีมาก อะไรขนาดนั้น ถือว่าดูเพลินๆ สนุกใช้ได้เลย
แต่สำหรับใครที่หวังฉากแอคชั่น หรือต่อสู้เดือดๆ อินๆ มีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละคร ภาคนี้น่าจะไม่ค่อยตอบโจทย์ ภาคแรกดีกว่า
ภาคนี้จะมาแนว การเมือง ดนตรี ดราม่า ความรัก ซะส่วนใหญ่
ทำให้เวลาเกิดเหตุการณ์สะเทือนใจ เรายังอินกับหนังได้ไม่มากนัก เพราะเรายังไม่รู้จักตัวละครดีพอ หนังน่าจะใช้แอร์ไทม์ ที่ยาวๆ พาเราปูทาง และได้รู้จักกับตัวละครมากกว่านี้ แต่ก็มีบางฉากอิน และเสียน้ำตาอยู่นะ ต้องไปดูเอง
และสิ่งที่เราคาดหวังจะได้เห็นว่า จุดเริ่มต้นจริงๆ ก่อนจะมีเกมล่าเกม มันเกิดจากอะไร อยากให้หนังได้เล่าย่อๆ พาเราย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นจริงๆ ก่อนจะมาครั้งที่10 และเล่าผ่านแค่มุมมองสโนว์ เพียงมุมมองเดียว
ชอบที่ตัวละคร มีความเป็นมนุษย์สูง เราเห็นการกระทำของเขา แต่ในใจ เราไม่มีทางรู้เลย ว่าจริงๆ แล้วเขาคิดอะไร นี่แหละความเป็นมนุษญ์ ที่หนังต้องการสื่อออกมา มีดี มีชั่ว มีหลายฝั่ง ภายใต้ความโหดร้าย ทุกตัวละคร ล้วนมีที่มาที่ไป และปมในใจ ตัวละครมีหลายมิติดี เราชอบ
โปรดักชั่น งานสร้าง คือทำออกมาได้ดีมากๆ เหมือนเราได้ย้อนเข้าไปอยู่ในสถานที่ และเหตุการณ์ในช่วงนั้นจริงๆ
เสื้อผ้า หน้า ผม องค์ประกอบ ฉากต่างๆ คือได้มาตรฐาน เหมือนเรื่องก่อนๆ และทำออกมาดีมาก
งานภาพสวยมากๆ สวยทุกฉาก ทั้งในแคปปิตอล และพาเน็ม และในป่า โคตรสวย และงานCGเนียน สบายตา
ไม่มีที่ติเลย สำหรับงานภาพ การเซ็ทสถานที่ต่างๆ แสง สี โทน ภาพ คือเนรมิตออกมาได้อย่างงดงาม
ชอบที่หนังสร้างทุกอย่าง เมื่อ64ปีก่อน หนังแคทนิท มันดูดี และดูย้อนยุค แถมสวยด้วย




นักแสดงทุกคนเล่นดีๆ คนเก่าๆ ตัวท็อปๆ อย่างอาจารย์ และดร. คืออันนี้เขาระดับตำนานอยู่แล้ว เล่นดีมากๆ
ส่วนสโนว์และลูซี่ อย่างทอม และราเชล คือ เล่นดีมากๆ
ทำให้เราเชื่อเลย ว่าเขาคือตัวละครตัวนั้นจริงๆ คือ2คนนี้ เขาเหมือนจะมีอะไรอยู่ในใจทั้งคู่ และเราไม่มีทางรู้ แม้กระทั่งดูจบ ก็อ่านใจไม่ออก
และทอม คือเล่นเป็นตัวละครสโนว์ได้ตีบทแตก และถึงบทบาทมาก คือจะมีความสับสน ความใหม่ในความคิดเรื่องนี้ ความที่ต้องเลือกกระทำในสิ่งต่างๆ
เราว่าเขา สื่อสารออกมา ผ่านทางการแสดงได้ดีมากๆ และที่สำคัญ เขาหล่อ หล่อมากกกก หล่อแบบสะกดมุกฉาก ช่างแคสมาจริงๆ

เพลงคือเพราะ และติดหูมากๆ ถึงจะมาดราม่า เกี่ยวกับนางเอก แต่ก็ยอมรับว่า เสียงเขาเพราะมาก สะกดทุกเพลง ทุกฉากที่ร้อง
ได้ข่าวว่าร้องสดทุกฉากด้วย คือแคสมาได้สมบทบาทมาก ความสามารถล้นจริงๆ หนังมีความมิสิคัลแบบเจ้าหญิงดิสนี่ย์อยู่นะ
แต่คนละแบบ ฟังเพลงเพลินๆ ดูจบเพลงยังก้องในหัวไม่หาย
ข้อด้อยและส่วนที่ไม่ชอบ
สิ่งแรกที่โคตรไม่ชอบ คือมุมกล้อง ของหนังเรื่องนี้ ไม่เข้าใจว่าทำไม ต้องถ่ายภาพมุมเสยขึ้น ดูแล้วขัดตามากๆ
รู้ว่าอยากได้ภาพมุมกว้าง แต่เรื่องนี้ การถ่ายภาพมุมนี้ ไม่เหมาะเท่าไหร่ แต่เคยดูเรื่องที่ถ่ายภาพมุมนี้ อย่างA Haunting in Venice อันนี้ถ่ายออกมาแนวนี้ แต่สวย และสบายตา ไม่ดูแล้วแปลกๆแบบเรื่องนี้ น่าจะถ่ายแบบปกติจะดีมากๆ เสียดาย เพราะเรื่องนี้ งานภาพสวยจริง
ส่วนตัวเราไม่ชอบพาร์ท3ของหนัง มีความเนือยๆอยู่เยอะ และช่วงท้ายๆ ค่อนข้างรวบรัดเกินไป
และทิ้งปมไว้ให้คิดเอง และไม่เคลียร์ในตอนท้าย
หนังค่อนข้างยาวมากๆ แต่รู้สึกว่า ใช้เวลาตรงนี้กับการเล่าเรื่อง ไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ เราไม่ได้รู้จักตัวละคร แต่ละตัวมากนัก และส่งผลให้ซีนอารมณ์หรือต่อสู้ต่างๆ เราไม่ค่อยอินมากนัก
ปล. ไม่มี End Credit นะ
สำหรับคะแนนความชอบให้ 7.5/10 คะแนน
ใครที่ไปดูมาแล้ว คิดเห็นอย่างไรกันบ้าง มาแชร์กันได้นะ
https://web.facebook.com/MouthMoyMovie/
The Hunger Games: The Ballad of Songbirds and Snakes ปฐมบทเกมล่าเกม (7.5/10) l ทุกการกระทำ ล้วนมีที่มา.. (สปอยล์)
เรื่องย่อ The Hunger Games: The Ballad of Songbirds and Snakes ปฐมบทเกมล่าเกม
หลายปีก่อนที่เขาจะกลายเป็นประธานาธิบดีจอมเผด็จการแห่งพาเน็ม คอริโอเลนัส สโนว์ ในวัย 18 ปีคือความหวังสุดท้ายของวงศ์ตระกูล ตระกูลที่ครั้งหนึ่งเคยรุ่งเรือง แต่กลับต้องล่มสลายลงหลังจากจบสงครามครั้งก่อน ด้วยการแข่งขัน Hunger Games ครั้งที่ 10 สโนว์ตัดสินใจลงชื่อเป็นพี่เลี้ยงให้กับลูซี่ เกรย์ เบิร์ด เด็กสาวบรรณาการจากเขต 12 อันแสนทุรกันดาร แต่หลังจากที่ลูซี่คว้าใจผู้คนแห่งพาเน็มมาด้วยเสียงร้องเพลงอันแสนไพเราะของเธอในพิธีเก็บเกี่ยว สโนว์ก็มองเห็นหนทางแล้วว่าจะทำยังไงให้โชคเข้าข้างเขา เขาต้องใช้ความสามารถทั้งการจัดการโชว์ตัวและสั่งสมอำนาจทางการเมือง สโนว์และลูซี่ต้องแข่งกับเวลาเพื่อเอาตัวรอด ที่ท้ายที่สุดแล้วจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงว่าใครคือ นกผู้ขับขาน และใครคืออสรพิษ
นำแสดงโดย
ทอม บลายธ์ รับบท คอริโอลานุส สโนว์
เรเชล ซีเกลอร์ รับบท ลูซี เกรย์ แบร์ด
เจสัน ชวาตซ์แมน รับบท ลูเครสติอุส ลัคกี ฟลิกเกอร์แมน
ไวโอลา เดวิส รับบท ดร.โวลูมเนีย กอร์
ปีเตอร์ ดิงค์เลจ รับบท คาสซา ไฮจ์บอตทอม
ฮันเตอร์ สคาเฟอร์ รับบท ทิกริด สโนว์
เบิร์น กอร์แมน รับบท ผบ.ฮอฟ
บอกเลยว่าเป็นแฟนคลับแฟรนไชส์หนังเรื่องนี้มานานมาก และดูทุกภาค ชอบมาตั้งแต่ภาคแรก และติดตามมาตลอด ภาคแรก คือไม่น่าเชื่อว่า หนังจะทำให้เรา อิน และลุ้นไปกับหนังมากๆ เหมือนเราได้เข้าไปลงสนามเอง ตัวหนังทำออกมาดี และจบได้สมบูรณ์ และภาคนี้ ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้น และที่มา ก่อนจะเกิดแคทนิท ก็ไม่พลาดอีกเช่นเคย
ความรู้สึกส่วนตัวหลังดูจบ
โดยรวมถือว่าหนังทำออกมาได้ดี ตามมาตรฐานแฟรนไชส์ แต่ก็ไม่ได้ว้าวหรือรู้สึกว่าดีมาก อะไรขนาดนั้น ถือว่าดูเพลินๆ สนุกใช้ได้เลย
แต่สำหรับใครที่หวังฉากแอคชั่น หรือต่อสู้เดือดๆ อินๆ มีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละคร ภาคนี้น่าจะไม่ค่อยตอบโจทย์ ภาคแรกดีกว่า
ภาคนี้จะมาแนว การเมือง ดนตรี ดราม่า ความรัก ซะส่วนใหญ่
ทำให้เวลาเกิดเหตุการณ์สะเทือนใจ เรายังอินกับหนังได้ไม่มากนัก เพราะเรายังไม่รู้จักตัวละครดีพอ หนังน่าจะใช้แอร์ไทม์ ที่ยาวๆ พาเราปูทาง และได้รู้จักกับตัวละครมากกว่านี้ แต่ก็มีบางฉากอิน และเสียน้ำตาอยู่นะ ต้องไปดูเอง
และสิ่งที่เราคาดหวังจะได้เห็นว่า จุดเริ่มต้นจริงๆ ก่อนจะมีเกมล่าเกม มันเกิดจากอะไร อยากให้หนังได้เล่าย่อๆ พาเราย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นจริงๆ ก่อนจะมาครั้งที่10 และเล่าผ่านแค่มุมมองสโนว์ เพียงมุมมองเดียว
ชอบที่ตัวละคร มีความเป็นมนุษย์สูง เราเห็นการกระทำของเขา แต่ในใจ เราไม่มีทางรู้เลย ว่าจริงๆ แล้วเขาคิดอะไร นี่แหละความเป็นมนุษญ์ ที่หนังต้องการสื่อออกมา มีดี มีชั่ว มีหลายฝั่ง ภายใต้ความโหดร้าย ทุกตัวละคร ล้วนมีที่มาที่ไป และปมในใจ ตัวละครมีหลายมิติดี เราชอบ
โปรดักชั่น งานสร้าง คือทำออกมาได้ดีมากๆ เหมือนเราได้ย้อนเข้าไปอยู่ในสถานที่ และเหตุการณ์ในช่วงนั้นจริงๆ
เสื้อผ้า หน้า ผม องค์ประกอบ ฉากต่างๆ คือได้มาตรฐาน เหมือนเรื่องก่อนๆ และทำออกมาดีมาก
งานภาพสวยมากๆ สวยทุกฉาก ทั้งในแคปปิตอล และพาเน็ม และในป่า โคตรสวย และงานCGเนียน สบายตา
ไม่มีที่ติเลย สำหรับงานภาพ การเซ็ทสถานที่ต่างๆ แสง สี โทน ภาพ คือเนรมิตออกมาได้อย่างงดงาม
ชอบที่หนังสร้างทุกอย่าง เมื่อ64ปีก่อน หนังแคทนิท มันดูดี และดูย้อนยุค แถมสวยด้วย
นักแสดงทุกคนเล่นดีๆ คนเก่าๆ ตัวท็อปๆ อย่างอาจารย์ และดร. คืออันนี้เขาระดับตำนานอยู่แล้ว เล่นดีมากๆ
ส่วนสโนว์และลูซี่ อย่างทอม และราเชล คือ เล่นดีมากๆ
ทำให้เราเชื่อเลย ว่าเขาคือตัวละครตัวนั้นจริงๆ คือ2คนนี้ เขาเหมือนจะมีอะไรอยู่ในใจทั้งคู่ และเราไม่มีทางรู้ แม้กระทั่งดูจบ ก็อ่านใจไม่ออก
และทอม คือเล่นเป็นตัวละครสโนว์ได้ตีบทแตก และถึงบทบาทมาก คือจะมีความสับสน ความใหม่ในความคิดเรื่องนี้ ความที่ต้องเลือกกระทำในสิ่งต่างๆ
เราว่าเขา สื่อสารออกมา ผ่านทางการแสดงได้ดีมากๆ และที่สำคัญ เขาหล่อ หล่อมากกกก หล่อแบบสะกดมุกฉาก ช่างแคสมาจริงๆ
เพลงคือเพราะ และติดหูมากๆ ถึงจะมาดราม่า เกี่ยวกับนางเอก แต่ก็ยอมรับว่า เสียงเขาเพราะมาก สะกดทุกเพลง ทุกฉากที่ร้อง
ได้ข่าวว่าร้องสดทุกฉากด้วย คือแคสมาได้สมบทบาทมาก ความสามารถล้นจริงๆ หนังมีความมิสิคัลแบบเจ้าหญิงดิสนี่ย์อยู่นะ
แต่คนละแบบ ฟังเพลงเพลินๆ ดูจบเพลงยังก้องในหัวไม่หาย
ข้อด้อยและส่วนที่ไม่ชอบ
สิ่งแรกที่โคตรไม่ชอบ คือมุมกล้อง ของหนังเรื่องนี้ ไม่เข้าใจว่าทำไม ต้องถ่ายภาพมุมเสยขึ้น ดูแล้วขัดตามากๆ
รู้ว่าอยากได้ภาพมุมกว้าง แต่เรื่องนี้ การถ่ายภาพมุมนี้ ไม่เหมาะเท่าไหร่ แต่เคยดูเรื่องที่ถ่ายภาพมุมนี้ อย่างA Haunting in Venice อันนี้ถ่ายออกมาแนวนี้ แต่สวย และสบายตา ไม่ดูแล้วแปลกๆแบบเรื่องนี้ น่าจะถ่ายแบบปกติจะดีมากๆ เสียดาย เพราะเรื่องนี้ งานภาพสวยจริง
ส่วนตัวเราไม่ชอบพาร์ท3ของหนัง มีความเนือยๆอยู่เยอะ และช่วงท้ายๆ ค่อนข้างรวบรัดเกินไป
และทิ้งปมไว้ให้คิดเอง และไม่เคลียร์ในตอนท้าย
หนังค่อนข้างยาวมากๆ แต่รู้สึกว่า ใช้เวลาตรงนี้กับการเล่าเรื่อง ไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ เราไม่ได้รู้จักตัวละคร แต่ละตัวมากนัก และส่งผลให้ซีนอารมณ์หรือต่อสู้ต่างๆ เราไม่ค่อยอินมากนัก
ปล. ไม่มี End Credit นะ
สำหรับคะแนนความชอบให้ 7.5/10 คะแนน
ใครที่ไปดูมาแล้ว คิดเห็นอย่างไรกันบ้าง มาแชร์กันได้นะ
https://web.facebook.com/MouthMoyMovie/