** ปรัชญาในความเลือน (๒) **
๏ จงเก็บแสงไว้ในความสว่าง
อย่าอวดอ้างสว่างท่ามกระแส
เก็บมืดไว้ให้อันธการแล
ล้างคราบเลือดรอยแผลแห่งนิรันดร์…
๏ จง เมฆจรหลุดพ้น จักรพาล
เก็บ คลื่นเสียงกวีศานต์ แทรกรุ้ง
แสง เงาที่เศร้างาน โปรดหยุด
ไว้ ก่อนเมฆสะดุ้ง ด่ำรุ้งกวีศานต์ ฯ
๏ ใน ความมืดแห่งฟ้า ราตรี
ความ เงียบงันสดุดี หกหล้า
สว่าง แสงหิ่งห้อยฉวี วิบวับ
อย่า อย่าเหินลาฟ้า เหว่ว้าฟากสวรรค์ ฯ
๏ อวด ดาวลูกไก่ร้อง หงส์เหิน
อ้าง หมื่นดาราเมิล ไก่เต้น
สว่าง ไกลและสว่างเกิน ไกทิพ
ท่าม เขตดาราเร้น ซ่อนห้องอสงไขย ฯ
๏ กระ บะเทพซิ่งรุ้ง มโหรี
แส ศุกร์อัปสรศรี ซิ่งพร้อม
เก็บ ตกกาพย์โคลงกวี ใส่ไหล่ รุ้งเทอญ
มืด ยิ่งมืดห้อมล้อม อย่าล้าตามกระแส ฯ
๏ ไว้ ลายอักขระร้อย ปาฏิหาริย์
ให้ ก่อนจะรับกานท์ เก็จแก้ว
อันธการ ใช่อันตรธาน ยังสว่าง ไสวนอ
แล ชั่วครู่ไป่แคล้ว ครึกครื้นโคลงสวรรค์ ฯ
๏ ล้าง ใจในเมฆแม้น หม่นหมอง
คราบ หมอกเมิลใจตรอง ตริสู้
เลือด ศิลป์เร่งตอบสนอง เหนือเมฆ
รอย กาพย์กลอนโคลงกระทู้ รับรู้นิรันดร ฯ
๏ แผล จินต์จงอย่าเรื้อ ใจนาน
แห่ง สุขเซิ้งทุกข์ประสาน ศาสตร์แพร้ว
นิรันดร์ ร่วมขับขาน กวีโลกย์
เทอญ กล่อมวิญญาณแก้ว ปลุกแกล้วกวีตน ๛
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ขอขอบคุณภาพศิลป์ จากกูเกิ้ล ครับ... ^_^
** ปรัชญาในความเลือน **... ภาค ๒