มีการวิพากษ์กันมากว่า “ดิจิทัล วอลเลต” เป็นเงินทิพย์ ลงไม่ถึงรากหญ้า ผู้มีรายได้น้อย

แต่ข้อเท็จจริง เมื่อพิจารณาคุณสมบัติผู้ได้รับสิทธิ์ที่ต้องมีอายุ 16 ปีขึ้นไป มีรายได้หรือเงินเดือนไม่เกิน 7 หมื่นบาท และมีเงินฝากรวมทุกบัญชีไม่เกิน 5 แสนบาทนั้น

ประชาชนที่ได้รับสิทธิ์ส่วนนี้มีมากกว่า 50 ล้านคน

ขณะที่ผู้ไม่ได้รับสิทธิ์ในโครงการนี้ รัฐยังมีโครงการ e-Refund ลดภาษีเงินได้จากการซื้อสินค้าและบริการแล้วนำมาหักลดหย่อนภาษีวงเงินไม่เกิน 5 หมื่นบาทเช่นกัน(ได้มากกว่าเสียอีก)

ส่วนเกณฑ์เงื่อนไขการใช้จ่ายที่กำหนดในการซื้อสินค้า บริการเป็นการทั่วไปนั้น บรรดาร้านค้า ร้านรวงโดยทั่วไปที่เข้าร่วมไม่ว่า จะขึ้นทะเบียนจด VAT หรือไม่ก็สามารถเข้าร่วมโครงการได้ แต่ร้านค้าที่จะขึ้นเงินจำเป็นต้องอยู่ในระบบภาษี

ด้วยเหตุที่โครงการนี้ต้องการให้สิทธิ์การใช้จ่ายนั้นหมุนวนอยู่ในระบบ เป็นลูกบอลที่หมุนต่อๆ กันไป ไม่ใช่การกดเงินสดไปใช้หนี้ใช้สินแล้วจบแค่นั้น

ทำให้โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจในโครงการดิจิทัล วอลเลต 10,000 บาท ครอบคลุมทั้งระบบแบบ “ฝนตกทั่วฟ้า”