บทความนี้เขียนโดย Admin DK เพื่อนร่วมงานเราค่ะ เห็นว่าน่าสนใจเลยเอามาเเชร์
วันนี้ผมอยากจะแชร์บทสนทนาและบทสัมภาษณ์จาก podcast ของ JJ Redick ครับ (The Old man and the Three) ผมติดตามรับฟัง podcast นี้อยู่เป็นประจำ แต่ episode นี้นั้นพิเศษมากกว่าปกติ คือแขกรับเชิญคือ Adam Silver commisioner คนปัจจุบันของ NBA ต้องชม JJ และน่าทึ่งมากที่สามารถเอาเขามาเป็นแขกรับเชิญได้
ผมฟังทั้ง episode แล้วรู้สึกว่าแฟนบาสโชคดีมากที่ลีก NBA ได้มีผู้นำที่เก่ง ใจกว้าง กล้าตัดสินใจ กล้าลองสิ่งใหม่ๆ และที่สำคัญคือมีความรักต่อเกมส์บาสเกตบอลอย่างแท้จริง
podcast ม้วนนี้มีจุดน่าสนใจหลายอย่าง ผมจะแปลคร่าวๆ นะครับ ใน podcast จริงๆ มีการพูดสลับประเด็นไปมา แต่ที่แปลข้างล่างนี้ ผมได้รวบรวมประเด็นเดียวๆกันมาให้อยู่ในหัวข้อเดียวกันเลย
------------------------------------------------------------
Q: อะไรคือเป้าหมายหลักในอาชีพ ณ ตำแหน่งนี้และอะไรคือแรงผลักดันตัว Adam ในแต่ละวัน
A: เป้าหมายหลักของ Adam คือการทำให้เกมส์บาสโตขึ้นทุกๆวัน ให้เกมส์มีการพัฒนาหลักๆในด้านคุณภาพและความนิยม สิ่งที่เป็นรางวัลที่สำคัญสำหรับเขาคือการที่เด็กๆทั่วโลกเล่นบาสมากขึ้น การทำงาน ณ ตำแหน่งนี้ บางครั้งต้องตัดสินใจให้มีผลประโยชน์ทางธุรกิจ ทำให้บางครั้งตัวเขาเองก็ลืมไป ว่าแท้จริงๆแล้ว เป้าหมายเขาคือเป็นตัวแทนของเกมส์บาสเกตบอล
....
Q: พลังและความสำคัญ Social media ต่อลีก NBA
A: มีความสำคัญและส่งผลกระทบมากๆทั้งต่อลีกและตัวเขาเอง social media คือสิ่งสำคัญในงานเค้าไปแล้ว
Adam ติดตาม twitter และข่าว viral ทุกอย่างที่เกี่ยวกับ NBA เพราะบางครั้งมีการแชร์ข่าวใน twitter ซึ่งเป็นข่าวไม่จริง แม้บางครั้งมันจะดูไม่ใช่เรื่องจริงแต่มันก็ทำให้เขาต้องเสียเวลาไปตรวจสอบและบางครั้งเขาต้องตามแก้ข่าวและประกาศบอกสิ่งที่ถูกต้อง
หัวข้อ sport คือสิ่งที่ผู้คน interact ด้วยเยอะที่สุดใน twitter และเขาก็อยากใช้มันให้เป็นประโยชน์ นักกีฬาบางคนถูกผลกระทบจาก social media อย่างมาก นักกีฬาบางคนถึงขั้นนั่งเช็ค social media ตอนพักครึ่งว่ามีการพูดถึงตัวเองอย่างไร แทนที่จะมีสมาธิต่อเกมส์
ความเห็นของแฟนๆ นั้นสำคัญ และ social media คือช่องทางที่พวกเขาสามารถใช้สื่อสารถึงลีกได้ แต่ต้องคิดไว้เสมอว่าโพสใน social media ที่สุดโต่งก็มักมาจากแฟนๆที่สุดโต่งเกินไป ไม่ใช่แฟนบาสของลีกส่วนมาก จึงต้องพยายามอย่าให้ความเห็นของกลุ่มนี้มาชักจูงการตัดสินใจที่จะมีผลใหญ่ๆต่อลีก
Adam อยากให้ media มีการเพิ่มความสนใจและการพูดคุยถึงรายละเอียดของเกมส์บาสมากขึ้น พูดถึงเนื้อหาตัวเกมส์มากขึ้น เช่นวิเคราะห์รูปแบบการเล่นเกมส์รุก หรือเกมส์รับ แผนการเล่น มันดูน่าสนใจมากกว่าแค่พูดถึงแค่ทีมนี้ “เล่นดี” หรือ "ทุ่มเทมากกว่า" เลยชนะ ง่ายๆแค่นั้น
ถ้ามีแฟนๆที่เข้าใจเกมส์บาสอย่างลึกซึ้งมากขึ้น ก็อาจจะมีแฟนๆที่ตามดูบาสรอบ playoffs, final เพราะอยากดูบาสระดับสูงมากขึ้น มากกว่าที่จะตามดูเพราะทีมมีชื่อเสียง
....
Q: ความเห็นต่อ Load management
A: Load management ได้รับคำวิจารณ์แง่ลบมากมายจากหลายๆฝ่าย ซึ่งการริเริ่มมันมาจากทั้งผู้เล่นเอง เทรนเนอร์ที่มีหน้าที่คอยดูแลร่างกายนักฬา มีการใช้คอมพิวเตอร์และสมการมากมายที่มาคอยระบุว่าผู้เล่นคนนี้ใช้งาน "มากเกินไป" และต้อง "พัก"
Adam จัดประชุมเพื่อพูดคุยเรื่องนี้มากมายหลายครั้งกับคนหลายกลุ่มสุดท้ายก็ได้ข้อสรุปเป็นเอกฉันท์ว่าลีกต้องจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยพื้นฐานเขาคิดว่า load management นั้นเดิมทีมีจุดประสงค์หลักคือป้องกันการเจ็บของนักกีฬา แต่เขาคิดว่าข้อมูลเรื่องการป้องกันการเจ็บโดยเล่นให้น้อยลงนั้นไม่ชัดเจน
ปัจจุบันนักกีฬาพักมากมาย แข่งจำนวนเกมส์น้อยลง ผู้เล่นโดยเฉลี่ยมีจำนวนนาทีน้อยลงแต่ก็ยังไม่พบว่าอัตราการเจ็บของนักกีฬาน้อยลง มีความคิดอีกกระแสด้วยซ้ำว่ายิ่งพักบ่อยๆ อาจจะทำการเสี่ยงบาดเจ็บมากขึ้นเพราะร่างกายพักนานแล้วทำให้เลิกเคยชินกับบรรยากาศการแข่ง
ในขณะเดียวกัน เวลา star player ไม่เล่นนั้นส่งผลลบต่อธุรกิจชัดเจน ตัวเลขลดลงอย่างมาก ทั้งเรตติ้งทีวี จำนวนตั๋ว จำนวนผู้ชมออนไลน์ ฉะนั้นข้อสรุปที่เขาและทางลีกตัดสินคือถ้าผู้เล่นไม่ได้เจ็บจะต้องเล่นทั้ง 82 เกมส์ต่อไป
....
Q: ความเห็นและความคาดหวังต่อ In-season tournament
A: Adam อยากให้มีแฟนๆให้ความสนใจเกมส์มากขึ้นในช่วงต้นของฤดูกาล และอยากให้ผู้เล่นมีความตื่นเต้นต่อเกมส์มากขึ้น ดึงความต้องการอยากชนะกลับมา
Play-in ช่วงท้ายฤดูกาลนั้นได้ผลตอบรับที่ดีเกินเขาคาดไว้มากโดยตัวเขาอยากให้ tournament นี้ได้รับผลตอบรับแบบเดียวกัน และถือเป็นวัฒนธรรมอันใหม่ของลีกเลย โดยลีกจะมีการตกแต่งสนามให้ดูพิเศษต่างจากเกมปกติ มียูนิฟอร์มใหม่โดยเฉพาะ
ทางลีกมีประชุมโดยละเอียดแล้วถึงรางวัลของผู้ชนะ tournament รวมไปถึงรางวัลที่จะเกี่ยวกับตำแหน่ง playoffs แต่หลังจากระดมความคิดอย่างถี่ถ้วนแล้วก็ได้ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ให้มีผลใดๆ ต่อ playoffs position โดยให้นับเป็น regular season game ไปก็พอเพราะทุกคนก็อยากชนะ regular season อยู่แล้วเพื่อให้ record ดี
รวมไปถึงการจัดรอบสี่ทีมและรอบชิงใน Vegas เพียงเท่านี้ Adam ก็คิดว่า tournament น่าจะเพิ่มความตื่นเต้นของเกมส์ให้มากกว่า regular season ทั่วไปเพียงพอแล้ว
ในบาสระดับมหาวิทยาลัย NCAA ก็คล้ายๆ กัน ที่แม้ถ้วยที่ใหญ่ที่สุดคือ national championship แต่ก็ยังมีถ้วยเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างฤดูกาล
จากที่เขาได้คุยกับผู้เล่นหลายคนก็พบว่ามีผู้เล่นหลายคนเกินคาดที่ตื่นเต้นอยากเล่นมาก บางทีมนั้นมุ่งมั่นอยากชนะ tournament เลยทีเดียวโดยเฉพาะกลุ่ม international player ที่คุ้นเคยกับระบบบาสถ้วยดี
....
Q: ประเด็นใหญ่หลังจากรับตำแหน่งได้ไม่นาน เรื่อง Donald Sterling อดีตเจ้าของ Clippers
A: เป็นเรื่องที่ท้าทายมาก เพราะเขาเพิ่งจะเข้ามารับตำแหน่งได้แค่สองเดือน
เรื่องนี้ละเอียดอ่อนและเขาได้คุยกับผู้คนมากมายตั้งแต่ผู้เล่น ผู้จัดการทีม เจ้าของทีม, David Stern, และรวมไปถึงคนระดับ CEO บริษัทอื่นๆ (American Express, Disney) แต่เขาดีใจที่ทุกคนไม่มีใครบังคับเขาเลย ไม่มีใครขู่หรือยื่นคำขาดว่าถ้าไม่ทำตามคำขอจะบอยคอตเกมส์ ทุกคนให้คำแนะนำดีมากๆ หลักๆ คือแนะนำแค่ว่าควรจะทำไปตามระบบที่มี นี่ไม่ใช่ปัญหาที่ผู้เล่นหรือโค้ชจะต้องมานั่งแก้ปัญหา และทุกคนเชื่อว่า Adam จะจัดการปัญหาได้
นี่เป็นบทเรียนที่ทำให้เขาเรียนรู้มากเหมือนกัน เสมือนตัวทดสอบว่าตัวเขามีบทบาทและอำนาจในลีกแค่ไหน เขาพบว่าเขามีอำนาจในการแบน Sterling จากลีกชั่วชีวิต แต่กลับไม่มีอำนาจในการบังคับให้เขาขายทีม
Adam อยากจะใช้เคสนี้แสดงให้เป็นตัวอย่างว่าลีกจะไม่ทนพฤติกรรมเช่นนี้ เทปบทสนทนาของ Sterling หลุดมาวันเสาร์ เขาใช้เวลาตัดสินใจแค่สามวันก็ประกาศว่าจะแบน Sterling และสุดท้ายภรรยาของ Sterling ก็ขายทีม
....
Q: โปรเจคหรือการเปลี่ยนแปลงที่ตั้งใจจะทำต่อไป
A: จุดต่อไปที่ Adam ตั้งใจจะแก้ไขคืออยากให้เกมส์ All-Star คือนอกจากจะกลับมาแบ่งฝั่งตะวันตกและตะวันออกแล้ว เขาอยากให้มันกลับมาตื่นเต้นน่าดูอีกครั้ง
โดยเขาได้มีพูดคุยกับผู้เล่นแล้ว ผู้เล่นก็มีการตอบสนองที่ดีและมีความอยากกลับไปเล่นเกมส์ที่ตื่นเต้นแบบช่วงปี 2000 ที่ All-Star เกมส์นั้นสูสีและทำให้แฟนๆต้องลุ้นตัวโก่งถึงนาทีสุดท้ายโดยผู้เล่นขอไว้ว่าถ้าอยากให้พวกเขาเล่นได้แบบปกติ ก็อยากให้มีการจัดการดูแลให้มันเป็นเหมือนเกมส์ปกติเช่นไม่ใช่ให้วอร์มอัพแล้วยืนรอ 20 นาทีตอนประกาศชื่อ พักครึ่งตามปกติไม่อยากให้นานเพราะรอโชว์พักครึ่ง
Adam เห็นด้วยว่าถ้าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเกมส์บาส พวกเราก็ควรจะให้กลับมาให้ความสนใจเกมส์มากขึ้นเหมือนก่อนมากกว่าโชว์คั่นเวลา
Credit: The Old Man and the Three
🏀 Silver พูดเรื่องประเด็นต่างๆ ใน NBA
วันนี้ผมอยากจะแชร์บทสนทนาและบทสัมภาษณ์จาก podcast ของ JJ Redick ครับ (The Old man and the Three) ผมติดตามรับฟัง podcast นี้อยู่เป็นประจำ แต่ episode นี้นั้นพิเศษมากกว่าปกติ คือแขกรับเชิญคือ Adam Silver commisioner คนปัจจุบันของ NBA ต้องชม JJ และน่าทึ่งมากที่สามารถเอาเขามาเป็นแขกรับเชิญได้
ผมฟังทั้ง episode แล้วรู้สึกว่าแฟนบาสโชคดีมากที่ลีก NBA ได้มีผู้นำที่เก่ง ใจกว้าง กล้าตัดสินใจ กล้าลองสิ่งใหม่ๆ และที่สำคัญคือมีความรักต่อเกมส์บาสเกตบอลอย่างแท้จริง
podcast ม้วนนี้มีจุดน่าสนใจหลายอย่าง ผมจะแปลคร่าวๆ นะครับ ใน podcast จริงๆ มีการพูดสลับประเด็นไปมา แต่ที่แปลข้างล่างนี้ ผมได้รวบรวมประเด็นเดียวๆกันมาให้อยู่ในหัวข้อเดียวกันเลย
------------------------------------------------------------
Q: อะไรคือเป้าหมายหลักในอาชีพ ณ ตำแหน่งนี้และอะไรคือแรงผลักดันตัว Adam ในแต่ละวัน
A: เป้าหมายหลักของ Adam คือการทำให้เกมส์บาสโตขึ้นทุกๆวัน ให้เกมส์มีการพัฒนาหลักๆในด้านคุณภาพและความนิยม สิ่งที่เป็นรางวัลที่สำคัญสำหรับเขาคือการที่เด็กๆทั่วโลกเล่นบาสมากขึ้น การทำงาน ณ ตำแหน่งนี้ บางครั้งต้องตัดสินใจให้มีผลประโยชน์ทางธุรกิจ ทำให้บางครั้งตัวเขาเองก็ลืมไป ว่าแท้จริงๆแล้ว เป้าหมายเขาคือเป็นตัวแทนของเกมส์บาสเกตบอล
....
Q: พลังและความสำคัญ Social media ต่อลีก NBA
A: มีความสำคัญและส่งผลกระทบมากๆทั้งต่อลีกและตัวเขาเอง social media คือสิ่งสำคัญในงานเค้าไปแล้ว
Adam ติดตาม twitter และข่าว viral ทุกอย่างที่เกี่ยวกับ NBA เพราะบางครั้งมีการแชร์ข่าวใน twitter ซึ่งเป็นข่าวไม่จริง แม้บางครั้งมันจะดูไม่ใช่เรื่องจริงแต่มันก็ทำให้เขาต้องเสียเวลาไปตรวจสอบและบางครั้งเขาต้องตามแก้ข่าวและประกาศบอกสิ่งที่ถูกต้อง
หัวข้อ sport คือสิ่งที่ผู้คน interact ด้วยเยอะที่สุดใน twitter และเขาก็อยากใช้มันให้เป็นประโยชน์ นักกีฬาบางคนถูกผลกระทบจาก social media อย่างมาก นักกีฬาบางคนถึงขั้นนั่งเช็ค social media ตอนพักครึ่งว่ามีการพูดถึงตัวเองอย่างไร แทนที่จะมีสมาธิต่อเกมส์
ความเห็นของแฟนๆ นั้นสำคัญ และ social media คือช่องทางที่พวกเขาสามารถใช้สื่อสารถึงลีกได้ แต่ต้องคิดไว้เสมอว่าโพสใน social media ที่สุดโต่งก็มักมาจากแฟนๆที่สุดโต่งเกินไป ไม่ใช่แฟนบาสของลีกส่วนมาก จึงต้องพยายามอย่าให้ความเห็นของกลุ่มนี้มาชักจูงการตัดสินใจที่จะมีผลใหญ่ๆต่อลีก
Adam อยากให้ media มีการเพิ่มความสนใจและการพูดคุยถึงรายละเอียดของเกมส์บาสมากขึ้น พูดถึงเนื้อหาตัวเกมส์มากขึ้น เช่นวิเคราะห์รูปแบบการเล่นเกมส์รุก หรือเกมส์รับ แผนการเล่น มันดูน่าสนใจมากกว่าแค่พูดถึงแค่ทีมนี้ “เล่นดี” หรือ "ทุ่มเทมากกว่า" เลยชนะ ง่ายๆแค่นั้น
ถ้ามีแฟนๆที่เข้าใจเกมส์บาสอย่างลึกซึ้งมากขึ้น ก็อาจจะมีแฟนๆที่ตามดูบาสรอบ playoffs, final เพราะอยากดูบาสระดับสูงมากขึ้น มากกว่าที่จะตามดูเพราะทีมมีชื่อเสียง
....
Q: ความเห็นต่อ Load management
A: Load management ได้รับคำวิจารณ์แง่ลบมากมายจากหลายๆฝ่าย ซึ่งการริเริ่มมันมาจากทั้งผู้เล่นเอง เทรนเนอร์ที่มีหน้าที่คอยดูแลร่างกายนักฬา มีการใช้คอมพิวเตอร์และสมการมากมายที่มาคอยระบุว่าผู้เล่นคนนี้ใช้งาน "มากเกินไป" และต้อง "พัก"
Adam จัดประชุมเพื่อพูดคุยเรื่องนี้มากมายหลายครั้งกับคนหลายกลุ่มสุดท้ายก็ได้ข้อสรุปเป็นเอกฉันท์ว่าลีกต้องจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยพื้นฐานเขาคิดว่า load management นั้นเดิมทีมีจุดประสงค์หลักคือป้องกันการเจ็บของนักกีฬา แต่เขาคิดว่าข้อมูลเรื่องการป้องกันการเจ็บโดยเล่นให้น้อยลงนั้นไม่ชัดเจน
ปัจจุบันนักกีฬาพักมากมาย แข่งจำนวนเกมส์น้อยลง ผู้เล่นโดยเฉลี่ยมีจำนวนนาทีน้อยลงแต่ก็ยังไม่พบว่าอัตราการเจ็บของนักกีฬาน้อยลง มีความคิดอีกกระแสด้วยซ้ำว่ายิ่งพักบ่อยๆ อาจจะทำการเสี่ยงบาดเจ็บมากขึ้นเพราะร่างกายพักนานแล้วทำให้เลิกเคยชินกับบรรยากาศการแข่ง
ในขณะเดียวกัน เวลา star player ไม่เล่นนั้นส่งผลลบต่อธุรกิจชัดเจน ตัวเลขลดลงอย่างมาก ทั้งเรตติ้งทีวี จำนวนตั๋ว จำนวนผู้ชมออนไลน์ ฉะนั้นข้อสรุปที่เขาและทางลีกตัดสินคือถ้าผู้เล่นไม่ได้เจ็บจะต้องเล่นทั้ง 82 เกมส์ต่อไป
....
Q: ความเห็นและความคาดหวังต่อ In-season tournament
A: Adam อยากให้มีแฟนๆให้ความสนใจเกมส์มากขึ้นในช่วงต้นของฤดูกาล และอยากให้ผู้เล่นมีความตื่นเต้นต่อเกมส์มากขึ้น ดึงความต้องการอยากชนะกลับมา
Play-in ช่วงท้ายฤดูกาลนั้นได้ผลตอบรับที่ดีเกินเขาคาดไว้มากโดยตัวเขาอยากให้ tournament นี้ได้รับผลตอบรับแบบเดียวกัน และถือเป็นวัฒนธรรมอันใหม่ของลีกเลย โดยลีกจะมีการตกแต่งสนามให้ดูพิเศษต่างจากเกมปกติ มียูนิฟอร์มใหม่โดยเฉพาะ
ทางลีกมีประชุมโดยละเอียดแล้วถึงรางวัลของผู้ชนะ tournament รวมไปถึงรางวัลที่จะเกี่ยวกับตำแหน่ง playoffs แต่หลังจากระดมความคิดอย่างถี่ถ้วนแล้วก็ได้ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ให้มีผลใดๆ ต่อ playoffs position โดยให้นับเป็น regular season game ไปก็พอเพราะทุกคนก็อยากชนะ regular season อยู่แล้วเพื่อให้ record ดี
รวมไปถึงการจัดรอบสี่ทีมและรอบชิงใน Vegas เพียงเท่านี้ Adam ก็คิดว่า tournament น่าจะเพิ่มความตื่นเต้นของเกมส์ให้มากกว่า regular season ทั่วไปเพียงพอแล้ว
ในบาสระดับมหาวิทยาลัย NCAA ก็คล้ายๆ กัน ที่แม้ถ้วยที่ใหญ่ที่สุดคือ national championship แต่ก็ยังมีถ้วยเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างฤดูกาล
จากที่เขาได้คุยกับผู้เล่นหลายคนก็พบว่ามีผู้เล่นหลายคนเกินคาดที่ตื่นเต้นอยากเล่นมาก บางทีมนั้นมุ่งมั่นอยากชนะ tournament เลยทีเดียวโดยเฉพาะกลุ่ม international player ที่คุ้นเคยกับระบบบาสถ้วยดี
....
Q: ประเด็นใหญ่หลังจากรับตำแหน่งได้ไม่นาน เรื่อง Donald Sterling อดีตเจ้าของ Clippers
A: เป็นเรื่องที่ท้าทายมาก เพราะเขาเพิ่งจะเข้ามารับตำแหน่งได้แค่สองเดือน
เรื่องนี้ละเอียดอ่อนและเขาได้คุยกับผู้คนมากมายตั้งแต่ผู้เล่น ผู้จัดการทีม เจ้าของทีม, David Stern, และรวมไปถึงคนระดับ CEO บริษัทอื่นๆ (American Express, Disney) แต่เขาดีใจที่ทุกคนไม่มีใครบังคับเขาเลย ไม่มีใครขู่หรือยื่นคำขาดว่าถ้าไม่ทำตามคำขอจะบอยคอตเกมส์ ทุกคนให้คำแนะนำดีมากๆ หลักๆ คือแนะนำแค่ว่าควรจะทำไปตามระบบที่มี นี่ไม่ใช่ปัญหาที่ผู้เล่นหรือโค้ชจะต้องมานั่งแก้ปัญหา และทุกคนเชื่อว่า Adam จะจัดการปัญหาได้
นี่เป็นบทเรียนที่ทำให้เขาเรียนรู้มากเหมือนกัน เสมือนตัวทดสอบว่าตัวเขามีบทบาทและอำนาจในลีกแค่ไหน เขาพบว่าเขามีอำนาจในการแบน Sterling จากลีกชั่วชีวิต แต่กลับไม่มีอำนาจในการบังคับให้เขาขายทีม
Adam อยากจะใช้เคสนี้แสดงให้เป็นตัวอย่างว่าลีกจะไม่ทนพฤติกรรมเช่นนี้ เทปบทสนทนาของ Sterling หลุดมาวันเสาร์ เขาใช้เวลาตัดสินใจแค่สามวันก็ประกาศว่าจะแบน Sterling และสุดท้ายภรรยาของ Sterling ก็ขายทีม
....
Q: โปรเจคหรือการเปลี่ยนแปลงที่ตั้งใจจะทำต่อไป
A: จุดต่อไปที่ Adam ตั้งใจจะแก้ไขคืออยากให้เกมส์ All-Star คือนอกจากจะกลับมาแบ่งฝั่งตะวันตกและตะวันออกแล้ว เขาอยากให้มันกลับมาตื่นเต้นน่าดูอีกครั้ง
โดยเขาได้มีพูดคุยกับผู้เล่นแล้ว ผู้เล่นก็มีการตอบสนองที่ดีและมีความอยากกลับไปเล่นเกมส์ที่ตื่นเต้นแบบช่วงปี 2000 ที่ All-Star เกมส์นั้นสูสีและทำให้แฟนๆต้องลุ้นตัวโก่งถึงนาทีสุดท้ายโดยผู้เล่นขอไว้ว่าถ้าอยากให้พวกเขาเล่นได้แบบปกติ ก็อยากให้มีการจัดการดูแลให้มันเป็นเหมือนเกมส์ปกติเช่นไม่ใช่ให้วอร์มอัพแล้วยืนรอ 20 นาทีตอนประกาศชื่อ พักครึ่งตามปกติไม่อยากให้นานเพราะรอโชว์พักครึ่ง
Adam เห็นด้วยว่าถ้าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเกมส์บาส พวกเราก็ควรจะให้กลับมาให้ความสนใจเกมส์มากขึ้นเหมือนก่อนมากกว่าโชว์คั่นเวลา
Credit: The Old Man and the Three