ทูตอิสราเอลยืนยันพร้อมช่วยเหลือแรงงานไทยที่อยากกลับไปอิสราเอล
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/210224
เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทยสรุปสถานการณ์ในอิสราเอลว่า มีความพยายามช่วยเหลือตัวประกันอยู่ และยืนยันว่า อิสราเอลดูแลแรงงานไทยเป็นอย่างดี และพยายามช่วยเหลือตัวประกันชาวไทย ส่วนแรงงานไทยที่กลับมาแล้วมีความเป็นกังวลว่าจะไม่สามารถกลับไปได้ ขอให้อย่ากังวลเพราะพร้อมจะช่วยเหลือ
นาง
ออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย เปิดเผยวันนี้ (13 พ.ย. ) ถึงสถานการณ์ในอิสราเอล และการช่วยเหลือตัวประกัน โดยชี้ว่า สถานการณ์ในกาซาเวลานี้มีความซับซ้อน และสรุปตัวเลขล่าสุดว่า มีแรงงานไทยเสียชีวิต 39 คน บาดเจ็บ 18 คน และถูกจับเป็นตัวประกัน 25 คน
ทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยยืนยันว่า มีความพยายามเจรจาเพื่อช่วยเหลือตัวประกันอยู่ และชี้ว่า นายจ้างชาวอิสราเอลให้การดูแลแรงงานไทยเป็นอย่างดี ให้ค่าจ้างสูง จึงทำให้แรงงานไทยไม่อยากกลับประเทศ เพราะคนไทยจำนวนมากเลือกที่จะอยู่ต่อเอง
เธอยืนยันว่า อิสราเอลดูแลแรงงานไทยเป็นอย่างดี และถ้าหากแรงงานไทยที่เดินทางกลับมาแล้ว ต้องการเดินทางกลับไปทำงานยังอิสราเอลเมื่อสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ ก็ยินดี
ส่วนการเจรจากับกลุ่มฮามาสนั้น ก็มีหลายหน่วยงานดำเนินการอยู่ แต่ไม่อยากให้มองว่า อิหร่านเป็นคนที่พยายามไกล่เกลี่ย ทราบดีว่าไทยมีความสัมพันธ์ทางการทูตที่ดีกับอิหร่าน แต่อิหร่านเป็นประเทศที่ให้การสนับสนุนกลุ่มฮามาส เพราะมีหลักฐานว่าผู้นำกลุ่มฮามาสออกมาขอบคุณอิหร่านที่ให้การสนับสนุนทั้งด้านการเงินและอื่นๆ ดังนั้นเธอมองว่า อิหร่านเป็นประเทศที่อยู่เบื้องหลังสงครามครั้งนี้ และอิหร่านคือคนที่ทำให้แรงงานไทยทั้ง 39 ชีวิตเสียชีวิต
นอกจากนี้ นาง
ซากิฟยังปฏิเสธรายงานข่าวก่อนหน้านี้ที่บอกว่า กองทัพอิสราเอลเกณฑ์แรงงานไทยเข้าร่วมรบด้วย โดยชี้ว่า ไม่มีนโยบายที่จะรับชาวต่างชาติเข้าร่วมรบ ที่เห็นเป็นภาพชาวไทยสวมชุดทหารนั้น แท้จริงแล้ว คนเหล่านั้นได้รับสถานะพลเมืองจากอิสราเอล หรือถือสัญชาติอิสราเอลเพราะเป็นลูกครึ่งไทย-อิสราเอล
ทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยยังบอกด้วยว่า สงครามครั้งนี้น่าจะกินเวลายาวนาน และอ้างว่า กลุ่มฮามาสเป็นกลุ่มติดอาวุธที่มีพฤติกรรมรุนแรง เป็นองค์การก่อการร้าย และไม่ได้มาเพื่อปลดปล่อยปาเลสไตน์เหมือนที่ฝ่ายสนับสนุนปาเลสไตน์คิดกัน ส่วนอิสราเอลไม่ได้ต้องการสงครามครั้งนี้ เพียงแต่ปกป้องตนเองเท่านั้น
รพ.ทางเหนือของกาซาหยุดให้บริการ
https://tna.mcot.net/world-1271789
เยรูซาเล็ม 13 พ.ย. – โรงพยาบาลหลายแห่งในฉนวนกาซาที่กลายเป็นศูนย์กลางของการรบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธฮามาสต้องหยุดให้บริการ ในขณะที่จำนวนคนไข้ที่เสียชีวิตกำลังเพิ่มขึ้น
อิสราเอลระบุว่า นักรบฮามาสสร้างศูนย์บัญชาการในอุโมงต่าง ๆ ภายใต้พื้นที่ของโรงพยาบาลอัล-ชิฟา ในฉนวนกาซา ในขณะที่หน่วยงานสหประชาชาติหลายแห่งและแพทย์ภายในโรงพยาบาลเตือนว่า ผลกระทบจากการสู้รบจะทำให้มีพลเรือนผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น ซึ่งรวมถึงเด็กทารกด้วย กระทรวงสาธารณสุขของกลุ่มฮามาสกล่าววันนี้ว่า ทารกคลอดก่อนกำหนด 1 ราย และคนไข้ 2 ราย เสียชีวิตที่โรงพยาบาลอัล-ชีฟา ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในฉนวนกาซา ทำให้ขณะนี้มีเด็กทารกเสียชีวิตไปแล้ว 6 ราย และคนไข้เสียชีวิต 9 ราย เนื่องจากไม่มีไฟฟ้าใช้ในแผนกผู้ป่วยฉุกเฉิน ในขณะที่โรงพยาบาลหลายแห่งทางภาคเหนือของฉนวนกาซากำลังขาดแคลนพลังงานและทำให้ต้องหยุดให้บริการ สถานการณ์กำลังย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่โรงพยาบาลอัล-ชีฟา ที่มีคนไข้หลายร้อยคนและประชาชนอีกหลายพันคนที่พากันมาหลบภัยที่โรงพยาบาลแห่งนี้
องค์การอนามัยโลกในดินแดนปาเลสไตน์เตือนว่า คนไข้และพนักงานโรงพยาบาลมากถึง 3,000 คน อาศัยอยู่ในโรงพยาบาลโดยไม่มีพลังงาน อาหารและน้ำดื่มเพียงพอ และโรงพยาบาลต้องหยุดให้บริการ.-สำนักข่าวไทย
‘อนุสรณ์’ แนะผ่าตัดประเทศ อยากเห็นดึง ‘ก้าวไกล’ ร่วมรัฐบาลเขี่ยพรรคอื่นออก
https://www.dailynews.co.th/news/2896301/
‘อนุสรณ์’ แนะรัฐบาลผ่าตัดประเทศ จี้แก้ปัญหาโครงสร้างอย่าให้แค่ยาแก้ปวด อยากเห็นดึง ‘ก้าวไกล’ ร่วมรัฐบาลเขี่ยพรรคอื่นออกทลายโครงสร้างได้แน่
เมื่อวันที่ 13 พ.ย. ที่สำนักงานหนังสือพิมพ์ข่าวสด เครือมติชน เดลินิวส์ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ร่วมจัดเวทีสรุปโพล เดลินิวส์xมติชน : รัฐบาลเศรษฐาควรแก้ปัญหาอะไร ? โดยมีการเสวนาในหัวข้อ รัฐบาลเศรษฐาควรแก้ปัญหาอะไร? มีผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วยนาย
อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์ อาจารย์คณะมนุษยศาสตร์ ภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นาย
อนุสรณ์ ธรรมใจ กรรมการวิทยาลัยนานาชาติปรีดีพนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และผอ.ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และนาย
ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการ – คอลัมนิสต์ มติชนสุดสัปดาห์ เข้าร่วม
ทั้งนี้ช่วงหนึ่ง นาย
อนุสรณ์ กล่าวว่า ผลโพลไม่มีอะไรน่าประหลาดใจ ที่ต้องการให้ลดค่าครองชีพ ค่าพลังงาน ค่าน้ำ ค่าไฟ ต้องการรายได้เพิ่มขึ้น ต้องการแก้ปัญหาหนี้สิน แต่ความน่าสนใจอยู่ที่รายละเอียด อยู่ที่กลุ่มคน รายได้ พื้นที่ การศึกษาที่ต่างกัน สิ่งหนึ่งที่สะท้อนให้เห็น คือ ประชาชนมีความตื่นรู้มากขึ้น เกี่ยวกับปัญหาโครงสร้างการเมือง แม้จะไม่ใช่อันดับหนึ่งที่ต้องการให้แก้ปัญหาก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่เริ่มมองเห็นปัญหาเฉพาะหน้าที่มาจากปัญหาโครงสร้างที่มีความเชื่อมโยงกันมากขึ้น ประชาชนเห็นว่า
“
การแก้ปัญหาที่สำคัญ คือ การแก้ระบบกฎหมายและรัฐธรรมนูญ ประเทศนี้ไม่ยุติธรรมเพราะไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้ มีหลายมาตรฐาน ส่วนปัญหาเศรษฐกิจ ที่น้ำมันแพง มีหนี้สิน ไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่ขยัน หรือไม่มีวินัยทางการเมือง แต่ปัญหาที่แท้จริงคือ รัฐบาลต้องทำงานด้านโครงสร้างมากขึ้น จะให้ยาแก้ปวดอย่างเดียวไม่ได้ ต้องผ่าตัด เพราะระบบทุนนิยม ความไม่เท่าเทียม ความเหลื่อมล้ำ อำนาจทุนผูกขาด เป็นที่มาของความไม่ใช่ประชาธิปไตย ดังนั้นจึงต้องแก้โคงรสร้างเศรษฐกิจที่ไม่เป็นธรรม อำนาจผูกขาด แต่ถ้าเราอยู่ในโครงสร้างเศรษฐกิจแบบนี้ ไม่มีทางเป็นประชาธิปไตยได้”
นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่เป็นความหวังของผลโพล คือ ประชาชนตื่นรู้ถึงความสัมพันธ์แบบอุปถัมภ์ ต้องเบาลง แต่ไม่ได้หมดไป การทำงานแบบอุปถัมภ์ไม่สามารถทำงานได้เหมือนเดิม รัฐบาลต้องทำมากกว่าการให้ยาแก้ปวด แต่ก็ต้องให้ ไม่ให้ก็อยู่ลำบาก ส่วนการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท สิ่งสำคัญคือประเมินภาวะเศรษฐกิจ ในมุมของเศรษฐศาสตร์ การกู้เงินมาแจกยิ่งไม่มีความจำเป็น แต่ก็เข้าใจว่าเป็นนโยบายหาเสียงของรัฐบาล หากกู้เงิน 5 แสนล้านบาท หนี้สาธารณะของไทยก็ยังไม่เกิน 70 % ของจีดีพี แต่ถ้าเกิดภาวะเสี่ยงด้านวินัยการคลังก็ต้องนำไปพิจารณา ซึ่งน่าจะขัดกับหลักนิติศาสตร์ ดังนั้นรัฐบาลจึงออกเป็นพ.ร.บ. เพราะต้องผ่านด่านสภา ถ้าทำไม่ได้รัฐบาลก็ลอยตัว เพราะพยายามทำแต่ขัดต่อกฎหมายจึงทำไม่ได้ แต่ถ้าทำได้ก็ต้องระวังความเสี่ยง สิ่งที่ทำได้คือ ลดขนาด พร้อมมีมาตรการเสริม แปลงเป็นการลงทุน การประกอบอาชีพ แบบนี้จะยั่งยืน เพราะตอนนี้เงินที่จะได้ส่วนใหญ่นำไปบริโภค
นาย
อนุสรณ์ กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตามหลักเศรษฐศาสตร์มหภาคจึงไม่จำเป็นมาก แต่ถ้ารัฐบาลอยากทำก็ทำไป เพราะหาเสียงมาแล้ว แต่เมื่อดูภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้เริ่มมีการเติบโตของเศรษฐกิจ นักท่องเที่ยวขยายตัว ส่งออกเริ่มมีสัญญาณเป็นบวก ภาคการลงทุนทยอยฟื้นตัว ในขณะที่ยังมีตัวแปรเกี่ยวกับเศรษฐกิจ เช่น สงครามอิสราเอล ระดับรายได้ประชาชาติ รายจ่ายภาคเอกชน อัตราแลกเปลี่ยน ระดับอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งจุดเปลี่ยนระบบการเงิน ทั้งบทบาทของทองคำ ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ผลของการแตกตัวของโลกาภิวัตน์ เป็นต้น และนี่คือสิ่งสำคัญจากปัญหาระบบใหญ่ที่กระทบกับทุกคน
นาย
อนุสรณ์ กล่าวต่อไปอีกว่า ส่วนตัวอยากให้พรรคก้าวไกลจับมือกับพรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาล แต่ในความเป็นจริงทำไม่ได้เพราะมีเสียงสว. 250 เสียง ทุกคนก็ต้องช่วงชิงกัน แต่ถ้าเป็นพรรคเพื่อไทยก็ควรเอาก้าวไกลเข้าร่วมรัฐบาล ถ้าต้องการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้าง เอาก้าวไกลเข้ามา เอาพรรคอื่นออก เพราะตอนนี้หากดูคนคุมกระทรวงพลังงาน ไม่มีทางปฏิรูปอะไรได้ รวมทั้งกระทรวงกลาโหม แต่พรรคก้าวไกลจะมีพลังในการขับเคลื่อนที่แรงมาก ผลโพลที่ถามประชาชน เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่มีปัญหาโครงสร้างซ่อนอยู่ การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ มันเป็นการตอบโจทย์ความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ แต่ก็อาจมีการชะลอให้นานที่สุด ค่าแรงงานขั้นต่ำ 600 บาทไม่มีทางเป็นไปได้ แต่หากมีการทำอนุสัญญา ILO ฉบับที่87 และ 98 ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคม และสิทธิในการรวมตัวและเจรจาต่อรอง ร่วมนั้น เจ้าของที่มีประชาธิปไตย ต้องชอบ เพราะเรามีปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจเยอะมาก ลูกจ้างไม่มีปากเสียง แต้ถ้ามีอนุสัญญาตัวนี้ ลูกจ้างจะเข้มแข็ง ผู้ประกอบการจะทำแบบเดิมกับลูกจ้างไม่ได้ มิติแรงงานเป็นส่วนหนึ่งของความไม่เป็นธรรมและความเหลื่อมล้ำ
นาย
อนุสรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับบทบาทของกลุ่มเจ้าสัว ตนเคยทำงานกับเจ้าสัว ในช่วงทำงานใหม่ๆ สิ่งที่ตนเห็น คือ เจ้าสัวปรับตัว แม้มีสายสัมพันธกับทาการเมือง แต่เมื่อมีการแข่งขันด้านการตลาด เจ้าสัวกลุ่มนี้จะอยู่รอด แต่มีกลุ่มทุนบางกลุ่มก็อยู่ไม่ได้ เพราะหลายคนไม่ได้มีความเชื่อทางการเมืองที่ชัดเจน กลุ่มชนชั้นสูงของสยามประเทศ ปรับตัวได้ดีที่สุดหากดูในประวัติศาสตร์ สยามหรือประเทศไทย กลุ่มจารีตปรับตัวได้เก่งที่สุด โดยภูมิหลังจะเป็นนักปฏิรูป สยามไม่เคยเปลี่ยนแปลงโครงสร้างที่รุนแรง มีแต่การเปลี่ยนแปลงแบบผ่อน คือ ค่อยๆ ปรับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่แล้วกลุ่มชนชั้นสูงจะลุแก่อำนาจหรือไม่ อย่างไรก็ตามทุกคนควรต่อสู้อยู่ในระบบรัฐสภา ไม่ใช่ท้องถนน กลุ่มอนุนิยมล้าหลังก็ตั้งพรรคการเมืองมาสู้กัน คนส่วนน้อยกุมศาล กุมกองทัพ แต่ประชาชนส่วนใหญ่กุมระบบเลือกตั้ง เพราะผลการเลือกตั้งปี 66 ประชาชนต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับโครงสร้างทางสังคม.
JJNY : 5in1 พร้อมช่วยเหลือแรงงาน│รพ.ทางเหนือกาซาหยุดให้บริการ│‘อนุสรณ์’แนะผ่าตัดปท.│“ศิริกัญญา”แค่ถาม│กอบศักดิ์วิเคราะห์
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/210224
เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทยสรุปสถานการณ์ในอิสราเอลว่า มีความพยายามช่วยเหลือตัวประกันอยู่ และยืนยันว่า อิสราเอลดูแลแรงงานไทยเป็นอย่างดี และพยายามช่วยเหลือตัวประกันชาวไทย ส่วนแรงงานไทยที่กลับมาแล้วมีความเป็นกังวลว่าจะไม่สามารถกลับไปได้ ขอให้อย่ากังวลเพราะพร้อมจะช่วยเหลือ
นางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย เปิดเผยวันนี้ (13 พ.ย. ) ถึงสถานการณ์ในอิสราเอล และการช่วยเหลือตัวประกัน โดยชี้ว่า สถานการณ์ในกาซาเวลานี้มีความซับซ้อน และสรุปตัวเลขล่าสุดว่า มีแรงงานไทยเสียชีวิต 39 คน บาดเจ็บ 18 คน และถูกจับเป็นตัวประกัน 25 คน
ทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยยืนยันว่า มีความพยายามเจรจาเพื่อช่วยเหลือตัวประกันอยู่ และชี้ว่า นายจ้างชาวอิสราเอลให้การดูแลแรงงานไทยเป็นอย่างดี ให้ค่าจ้างสูง จึงทำให้แรงงานไทยไม่อยากกลับประเทศ เพราะคนไทยจำนวนมากเลือกที่จะอยู่ต่อเอง
เธอยืนยันว่า อิสราเอลดูแลแรงงานไทยเป็นอย่างดี และถ้าหากแรงงานไทยที่เดินทางกลับมาแล้ว ต้องการเดินทางกลับไปทำงานยังอิสราเอลเมื่อสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ ก็ยินดี
ส่วนการเจรจากับกลุ่มฮามาสนั้น ก็มีหลายหน่วยงานดำเนินการอยู่ แต่ไม่อยากให้มองว่า อิหร่านเป็นคนที่พยายามไกล่เกลี่ย ทราบดีว่าไทยมีความสัมพันธ์ทางการทูตที่ดีกับอิหร่าน แต่อิหร่านเป็นประเทศที่ให้การสนับสนุนกลุ่มฮามาส เพราะมีหลักฐานว่าผู้นำกลุ่มฮามาสออกมาขอบคุณอิหร่านที่ให้การสนับสนุนทั้งด้านการเงินและอื่นๆ ดังนั้นเธอมองว่า อิหร่านเป็นประเทศที่อยู่เบื้องหลังสงครามครั้งนี้ และอิหร่านคือคนที่ทำให้แรงงานไทยทั้ง 39 ชีวิตเสียชีวิต
นอกจากนี้ นางซากิฟยังปฏิเสธรายงานข่าวก่อนหน้านี้ที่บอกว่า กองทัพอิสราเอลเกณฑ์แรงงานไทยเข้าร่วมรบด้วย โดยชี้ว่า ไม่มีนโยบายที่จะรับชาวต่างชาติเข้าร่วมรบ ที่เห็นเป็นภาพชาวไทยสวมชุดทหารนั้น แท้จริงแล้ว คนเหล่านั้นได้รับสถานะพลเมืองจากอิสราเอล หรือถือสัญชาติอิสราเอลเพราะเป็นลูกครึ่งไทย-อิสราเอล
ทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยยังบอกด้วยว่า สงครามครั้งนี้น่าจะกินเวลายาวนาน และอ้างว่า กลุ่มฮามาสเป็นกลุ่มติดอาวุธที่มีพฤติกรรมรุนแรง เป็นองค์การก่อการร้าย และไม่ได้มาเพื่อปลดปล่อยปาเลสไตน์เหมือนที่ฝ่ายสนับสนุนปาเลสไตน์คิดกัน ส่วนอิสราเอลไม่ได้ต้องการสงครามครั้งนี้ เพียงแต่ปกป้องตนเองเท่านั้น
รพ.ทางเหนือของกาซาหยุดให้บริการ
https://tna.mcot.net/world-1271789
เยรูซาเล็ม 13 พ.ย. – โรงพยาบาลหลายแห่งในฉนวนกาซาที่กลายเป็นศูนย์กลางของการรบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธฮามาสต้องหยุดให้บริการ ในขณะที่จำนวนคนไข้ที่เสียชีวิตกำลังเพิ่มขึ้น
อิสราเอลระบุว่า นักรบฮามาสสร้างศูนย์บัญชาการในอุโมงต่าง ๆ ภายใต้พื้นที่ของโรงพยาบาลอัล-ชิฟา ในฉนวนกาซา ในขณะที่หน่วยงานสหประชาชาติหลายแห่งและแพทย์ภายในโรงพยาบาลเตือนว่า ผลกระทบจากการสู้รบจะทำให้มีพลเรือนผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น ซึ่งรวมถึงเด็กทารกด้วย กระทรวงสาธารณสุขของกลุ่มฮามาสกล่าววันนี้ว่า ทารกคลอดก่อนกำหนด 1 ราย และคนไข้ 2 ราย เสียชีวิตที่โรงพยาบาลอัล-ชีฟา ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในฉนวนกาซา ทำให้ขณะนี้มีเด็กทารกเสียชีวิตไปแล้ว 6 ราย และคนไข้เสียชีวิต 9 ราย เนื่องจากไม่มีไฟฟ้าใช้ในแผนกผู้ป่วยฉุกเฉิน ในขณะที่โรงพยาบาลหลายแห่งทางภาคเหนือของฉนวนกาซากำลังขาดแคลนพลังงานและทำให้ต้องหยุดให้บริการ สถานการณ์กำลังย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่โรงพยาบาลอัล-ชีฟา ที่มีคนไข้หลายร้อยคนและประชาชนอีกหลายพันคนที่พากันมาหลบภัยที่โรงพยาบาลแห่งนี้
องค์การอนามัยโลกในดินแดนปาเลสไตน์เตือนว่า คนไข้และพนักงานโรงพยาบาลมากถึง 3,000 คน อาศัยอยู่ในโรงพยาบาลโดยไม่มีพลังงาน อาหารและน้ำดื่มเพียงพอ และโรงพยาบาลต้องหยุดให้บริการ.-สำนักข่าวไทย
‘อนุสรณ์’ แนะผ่าตัดประเทศ อยากเห็นดึง ‘ก้าวไกล’ ร่วมรัฐบาลเขี่ยพรรคอื่นออก
https://www.dailynews.co.th/news/2896301/
‘อนุสรณ์’ แนะรัฐบาลผ่าตัดประเทศ จี้แก้ปัญหาโครงสร้างอย่าให้แค่ยาแก้ปวด อยากเห็นดึง ‘ก้าวไกล’ ร่วมรัฐบาลเขี่ยพรรคอื่นออกทลายโครงสร้างได้แน่
เมื่อวันที่ 13 พ.ย. ที่สำนักงานหนังสือพิมพ์ข่าวสด เครือมติชน เดลินิวส์ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ร่วมจัดเวทีสรุปโพล เดลินิวส์xมติชน : รัฐบาลเศรษฐาควรแก้ปัญหาอะไร ? โดยมีการเสวนาในหัวข้อ รัฐบาลเศรษฐาควรแก้ปัญหาอะไร? มีผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วยนายอรรถจักร์ สัตยานุรักษ์ อาจารย์คณะมนุษยศาสตร์ ภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นายอนุสรณ์ ธรรมใจ กรรมการวิทยาลัยนานาชาติปรีดีพนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และผอ.ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และนาย ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการ – คอลัมนิสต์ มติชนสุดสัปดาห์ เข้าร่วม
ทั้งนี้ช่วงหนึ่ง นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ผลโพลไม่มีอะไรน่าประหลาดใจ ที่ต้องการให้ลดค่าครองชีพ ค่าพลังงาน ค่าน้ำ ค่าไฟ ต้องการรายได้เพิ่มขึ้น ต้องการแก้ปัญหาหนี้สิน แต่ความน่าสนใจอยู่ที่รายละเอียด อยู่ที่กลุ่มคน รายได้ พื้นที่ การศึกษาที่ต่างกัน สิ่งหนึ่งที่สะท้อนให้เห็น คือ ประชาชนมีความตื่นรู้มากขึ้น เกี่ยวกับปัญหาโครงสร้างการเมือง แม้จะไม่ใช่อันดับหนึ่งที่ต้องการให้แก้ปัญหาก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่เริ่มมองเห็นปัญหาเฉพาะหน้าที่มาจากปัญหาโครงสร้างที่มีความเชื่อมโยงกันมากขึ้น ประชาชนเห็นว่า
“การแก้ปัญหาที่สำคัญ คือ การแก้ระบบกฎหมายและรัฐธรรมนูญ ประเทศนี้ไม่ยุติธรรมเพราะไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้ มีหลายมาตรฐาน ส่วนปัญหาเศรษฐกิจ ที่น้ำมันแพง มีหนี้สิน ไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่ขยัน หรือไม่มีวินัยทางการเมือง แต่ปัญหาที่แท้จริงคือ รัฐบาลต้องทำงานด้านโครงสร้างมากขึ้น จะให้ยาแก้ปวดอย่างเดียวไม่ได้ ต้องผ่าตัด เพราะระบบทุนนิยม ความไม่เท่าเทียม ความเหลื่อมล้ำ อำนาจทุนผูกขาด เป็นที่มาของความไม่ใช่ประชาธิปไตย ดังนั้นจึงต้องแก้โคงรสร้างเศรษฐกิจที่ไม่เป็นธรรม อำนาจผูกขาด แต่ถ้าเราอยู่ในโครงสร้างเศรษฐกิจแบบนี้ ไม่มีทางเป็นประชาธิปไตยได้”
นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่เป็นความหวังของผลโพล คือ ประชาชนตื่นรู้ถึงความสัมพันธ์แบบอุปถัมภ์ ต้องเบาลง แต่ไม่ได้หมดไป การทำงานแบบอุปถัมภ์ไม่สามารถทำงานได้เหมือนเดิม รัฐบาลต้องทำมากกว่าการให้ยาแก้ปวด แต่ก็ต้องให้ ไม่ให้ก็อยู่ลำบาก ส่วนการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท สิ่งสำคัญคือประเมินภาวะเศรษฐกิจ ในมุมของเศรษฐศาสตร์ การกู้เงินมาแจกยิ่งไม่มีความจำเป็น แต่ก็เข้าใจว่าเป็นนโยบายหาเสียงของรัฐบาล หากกู้เงิน 5 แสนล้านบาท หนี้สาธารณะของไทยก็ยังไม่เกิน 70 % ของจีดีพี แต่ถ้าเกิดภาวะเสี่ยงด้านวินัยการคลังก็ต้องนำไปพิจารณา ซึ่งน่าจะขัดกับหลักนิติศาสตร์ ดังนั้นรัฐบาลจึงออกเป็นพ.ร.บ. เพราะต้องผ่านด่านสภา ถ้าทำไม่ได้รัฐบาลก็ลอยตัว เพราะพยายามทำแต่ขัดต่อกฎหมายจึงทำไม่ได้ แต่ถ้าทำได้ก็ต้องระวังความเสี่ยง สิ่งที่ทำได้คือ ลดขนาด พร้อมมีมาตรการเสริม แปลงเป็นการลงทุน การประกอบอาชีพ แบบนี้จะยั่งยืน เพราะตอนนี้เงินที่จะได้ส่วนใหญ่นำไปบริโภค
นายอนุสรณ์ กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตามหลักเศรษฐศาสตร์มหภาคจึงไม่จำเป็นมาก แต่ถ้ารัฐบาลอยากทำก็ทำไป เพราะหาเสียงมาแล้ว แต่เมื่อดูภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้เริ่มมีการเติบโตของเศรษฐกิจ นักท่องเที่ยวขยายตัว ส่งออกเริ่มมีสัญญาณเป็นบวก ภาคการลงทุนทยอยฟื้นตัว ในขณะที่ยังมีตัวแปรเกี่ยวกับเศรษฐกิจ เช่น สงครามอิสราเอล ระดับรายได้ประชาชาติ รายจ่ายภาคเอกชน อัตราแลกเปลี่ยน ระดับอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งจุดเปลี่ยนระบบการเงิน ทั้งบทบาทของทองคำ ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ผลของการแตกตัวของโลกาภิวัตน์ เป็นต้น และนี่คือสิ่งสำคัญจากปัญหาระบบใหญ่ที่กระทบกับทุกคน
นายอนุสรณ์ กล่าวต่อไปอีกว่า ส่วนตัวอยากให้พรรคก้าวไกลจับมือกับพรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาล แต่ในความเป็นจริงทำไม่ได้เพราะมีเสียงสว. 250 เสียง ทุกคนก็ต้องช่วงชิงกัน แต่ถ้าเป็นพรรคเพื่อไทยก็ควรเอาก้าวไกลเข้าร่วมรัฐบาล ถ้าต้องการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้าง เอาก้าวไกลเข้ามา เอาพรรคอื่นออก เพราะตอนนี้หากดูคนคุมกระทรวงพลังงาน ไม่มีทางปฏิรูปอะไรได้ รวมทั้งกระทรวงกลาโหม แต่พรรคก้าวไกลจะมีพลังในการขับเคลื่อนที่แรงมาก ผลโพลที่ถามประชาชน เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่มีปัญหาโครงสร้างซ่อนอยู่ การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ มันเป็นการตอบโจทย์ความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ แต่ก็อาจมีการชะลอให้นานที่สุด ค่าแรงงานขั้นต่ำ 600 บาทไม่มีทางเป็นไปได้ แต่หากมีการทำอนุสัญญา ILO ฉบับที่87 และ 98 ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคม และสิทธิในการรวมตัวและเจรจาต่อรอง ร่วมนั้น เจ้าของที่มีประชาธิปไตย ต้องชอบ เพราะเรามีปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจเยอะมาก ลูกจ้างไม่มีปากเสียง แต้ถ้ามีอนุสัญญาตัวนี้ ลูกจ้างจะเข้มแข็ง ผู้ประกอบการจะทำแบบเดิมกับลูกจ้างไม่ได้ มิติแรงงานเป็นส่วนหนึ่งของความไม่เป็นธรรมและความเหลื่อมล้ำ
นายอนุสรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับบทบาทของกลุ่มเจ้าสัว ตนเคยทำงานกับเจ้าสัว ในช่วงทำงานใหม่ๆ สิ่งที่ตนเห็น คือ เจ้าสัวปรับตัว แม้มีสายสัมพันธกับทาการเมือง แต่เมื่อมีการแข่งขันด้านการตลาด เจ้าสัวกลุ่มนี้จะอยู่รอด แต่มีกลุ่มทุนบางกลุ่มก็อยู่ไม่ได้ เพราะหลายคนไม่ได้มีความเชื่อทางการเมืองที่ชัดเจน กลุ่มชนชั้นสูงของสยามประเทศ ปรับตัวได้ดีที่สุดหากดูในประวัติศาสตร์ สยามหรือประเทศไทย กลุ่มจารีตปรับตัวได้เก่งที่สุด โดยภูมิหลังจะเป็นนักปฏิรูป สยามไม่เคยเปลี่ยนแปลงโครงสร้างที่รุนแรง มีแต่การเปลี่ยนแปลงแบบผ่อน คือ ค่อยๆ ปรับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่แล้วกลุ่มชนชั้นสูงจะลุแก่อำนาจหรือไม่ อย่างไรก็ตามทุกคนควรต่อสู้อยู่ในระบบรัฐสภา ไม่ใช่ท้องถนน กลุ่มอนุนิยมล้าหลังก็ตั้งพรรคการเมืองมาสู้กัน คนส่วนน้อยกุมศาล กุมกองทัพ แต่ประชาชนส่วนใหญ่กุมระบบเลือกตั้ง เพราะผลการเลือกตั้งปี 66 ประชาชนต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับโครงสร้างทางสังคม.