Long weekend at เชียงใหม่ฮีลใจได้ดีที่สุด ....

[SR] Long weekend at เชียงใหม่ฮีลใจได้ดีที่สุด ....

กระทู้รีวิว

บันทึกนักเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศ ภาพถ่ายจากกล้องโทรศัพท์ เที่ยวไทย Slow Life

Long weekend ครั้งนี้พวกเราตัดสินใจกันว่าจะไปใช้เวลาที่เชียงใหม่กัน 5 วัน 4 คืน แบบเรื่อยๆ ไม่เร่งรีบ ขับรถเก็บความสุขระหว่างทางกันไปจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ .... เริ่มเลอออออ

Day#1
เปิดทริปเชียงใหม่ด้วยการเดินทางไปทานอาหารร้านสุกี้ช้างเผือก เป็นอะไรที่อร่อยมากตัวน้ำจิ้มชูรสได้ดีเยี่ยม 5/5 คะแนนไปเลย

เสร็จแล้วพากันเข้าที่พัก คืนแรกเราพักกันที่ May Flower Grande Hotel ถึงจะเป็นห้องธรรมดาแต่แอร์หนาวมาก หนาวจนสงสัยว่าเราต้องสดใหม่ระดับไหนกันน๊า ตกเย็นพากันออกไปเดินวันนิมมาน เป็นเมืองที่ชิคๆ คูลๆ บรรยากาศดีมากจนประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ผู้คน แสงไฟและเสียงดนตรี เดินกันจนมาจบที่ร้าน "Hachi Grill Bar" อาหารปิ้งย่างที่ไม่แพงเลย เนื้อสดใหม่ ร้านเล็กๆ แต่น่ารัก อิ่มท้อง อิ่มอก อิ่มใจแล้วคืนนี้พากันเข้าที่พัก....

Day#2

เช้านี้เราพากันเดินทางไปที่ "วัดพระธาตุดอยคำ" พากันขอพรและเสี่ยงเซียมซีที่อ่านแล้วแปลไม่ออกเท่าไหร่ เสร็จแล้วพากันไปทานก๋วยเตี๋ยวร้านเก่ง-กิ๊ฟที่เป็นกระแสใน Tiktok บ้านน้อยซอยลึก บรรยากาศดี ราคาปกติ แต่ขนาดและปริมาณเหมือนกลัวลูกค้าจะผอม ให้เยอะจังเลย เส้นลวกได้หนึบหนับมาก (จำไว้ดีๆ ว่าอิ่มกางเกงปริ) เสร็จแล้ว พากันถามว่าไปที่ไหนต่อดีคะ ได้รับคำตอบที่ทำให้ใจสั่นมาว่า ไปคาเฟ่กัน ได้แต่เอามือมาลูบท้องแล้วอุทานว่า เอาที่ไหนยัดก่อน !! แต่ไปมั้ย ก็ไปค๊าา สู้ตายเอาดาบหน้า สถานีต่อไป

"Lamour Cafe"

เป็นร้านที่สวยมาก สีเหลืองเด่น พนักงานหล่อ เอ้ย พนักงานดีงาม ร้านเปิดเพลง Jazz คลอเบาๆ เข้ากับบรรยากาศร้าน ร่มรื่นสุดๆมัวแต่ชื่นชม จนต้องสั่งขนมและน้ำ พี่สาวผู้น่ารักและมั่นใจสั่งกาแฟไป 1 แก้ว แต่พี่พนักงานไม่เข้าใจ เพราะมากัน 3 คน เลยต้องแก้เขินด้วยการสั่งน้ำเปล่าอีก 1 แบบยิ้มแห้งๆ พร้อมกับไปเลือกเค้กกัน 2 อย่าง พนักงานเอาขนมมาเสิร์ฟพร้อมกาแฟ บอกเลยว่าจัดมาสวยอลังสุดๆ กาแฟอร่อยมาก ขนมก็ดีไม่แพ้กัน พากันเซลฟี่อีกนิดหน่อย (ไม่นิดหรอกเดินรอบร้านเลย) พากันชื่นชอบสุดๆ ถ่ายรูปเก็บกันสนุกสนาน ใช้เวลาอยู่ประมาณเกือบสองชั่วโมงได้เวลาต้องออกจากร้านแล้วละ

แต่สิ่งหนึ่งที่เรามองตาก็คิดตรงกันคือ อิ่มไม่ไหว ไปต่อจะไหวหรอ แต่ไปมั้ย ก็ไปค่าไป พากันขึ้นรถวางแผนว่า คาเฟ่ต่อไปเราสั่งน้ำแก้วเดียวเนอะ มาถึง ณ "NO 39 Cafe & Eatery" เป็นคาเฟ่ชิคๆ มีสระน้ำอยู่กลางร้าน และมีโชว์ร้องเพลงสดให้ลูกค้าได้นั่งฟัง ซึ่งมันเป็นบรรยากาศที่ดี คาเฟ่สวย แต่ดิฉันผู้ถอดใจส่งพี่สาวเดินเข้าไป และเรานั่งแหมะหน้าทางเข้าเพราะอิ่มไม่ไหวแบบยกธงขาว ร้านนี้เลยผ่านไปแบบแค่ชมบรรยากาศ (รอดไป 1) และต่อไปพากันขับรถไปคาเฟ่สุดท้ายของวัน

"Fleur Cafe"

เป็นคาเฟ่ที่ใหญ่และสวยมากกก กอไก่สิบตัว+ร่มรื่น เพลินตาและสวยงาม พากันเซลฟี่รอบร้านสนุกสนานประทับใจสุดๆ เสร็จแล้วพากันไปเช็คอินที่พักกันดีกว่า

"SIB-SAN RESORT & SPA"

เป็นที่พักที่ดีมาก พนักงานบริการดี ชอบ wellcome drink น้ำตะไคร้ที่นำมาเสิร์ฟระหว่างรอเช็คอิน มันหอมมากเลย เสร็จแล้วมีรถกอล์ฟมาพา 3 สาวไปห้องพัก ระหว่างทาง พนักงานจะขับแนะนำภายในรีสอร์ทไปด้วย มาถึงห้องพักเป็นห้องใหญ่และสวยมาก บรรยากาศที่มองผ่านกระจก จะเห็นสระน้ำของทางรีสอร์ทเต็มๆ ตา เลยไปนอนมองแล้วมีคนแอบถ่ายรูปตูดน้องไปหนึ่งกรุบพร้อมขำใส่ เก็บสัมภาระแล้วเลยพากันไปเดินเล่น และเลือกจักรยานปั่นชมบรรยากาศ กินเข้าไปเยอะ ได้เวลาผอมละ ปั่นชมนกชมไม้ และเซลฟี่กันตลอดเส้นทาง บอกเลยว่ารีสอร์ทสวยมากก กอไก่+ร้อยตัว

Day#3

ตอนเช้าออกมาทานอาหารเช้ากันที่ริมสระน้ำ มีนักท่องเที่ยวต่างชาตินั่งรับประทานกันพอสมควร แต่ไม่วุ่นวาย ทุกคนดูมีความสุขมากเลย เป็นรีสอร์ทที่มองออกไปแล้วสบายตา สบายใจ มองไม่เบื่อเลยกับบรรยากาศดีๆ นี้ ทานเสร็จพากันเช็คอินออก ขับรถไปกันที่เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลส๊วยยอีกแล้ว แวะกันแปบๆ ก็พากันไปต่อที่

"วัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกน"

เป็นวัดที่สวยมากๆ เสียดายที่ตอนไปแดดร้อนจนไม่อาจเดินชมได้นาน เสร็จแล้วพากันมาที่คาเฟ่ "Jungle De Cafe" เป็นคาเฟ่สไตล์ในป่า สวยบรรยากาศดีไม่แพ้ที่อื่น สั่งน้ำปั่นกับกาแฟพักเหนื่อยกันสักหน่อย นั่งชมวิวกันเพลิน ก่อนกลับเดินเซลฟี่สักนิดแล้วไปเช็คอินที่พักต่อไปกัน

ที่พักคืนนี้ คือ "บ้านธารกล่อม"

เป็นที่พักอยู่ในธรรมชาติสุดๆ มีน้ำตกไหลผ่านให้ได้นอนฟังกันตลอดคืน ตัวบ้านพักก็น่ารัก เป็นบ้านไม้ไผ่ ไม่มีแอร์ มีพัดลมไอเย็นไว้ให้ ก็ตื่นเต้นดี พากันเก็บของออกไปเดินสำรวจกะเล่นน้ำตกกันเต็มที่ พากันเดินเลาะลงไปเห็นบ้านพักแต่ละหลัง น่ารักๆ ทั้งนั้นเลย ระหว่างทางเจอน้องแมวนอนกันในกรงใหญ่ เราก็พร้อมจะเข้าไปกวนเอานิ้วไปจิ้มๆ ผ่านกรง น้อนมิตอบสนองใดๆ ประมาณว่าเรากำลังพักผ่อนอยู่ มารยาทพกไว้มั้ย !! หลังจากเจอสายตาพิฆาตแมวเลยพากันเดินไปต่อ ตรงจุดสะพานไม้ข้ามน้ำตก นั่งชมกันสักแปบพากันเดินลงไปที่น้ำตกพากันเอาเท้าจุ่มน้ำแล้วร้องออกมาว่า โอ๊ยเย็น !!!

แล้วเปลี่ยนใจในทันทีว่าไม่เล่นค่ะ ลงไปขึ้นมาตัวเขียวปากเขียวแน่แท้ พากันเดินกลับบ้านพักไปชมวิวตรงบ้านดีก่า ระหว่างยืนชม เดินเซลฟี่นั้นก็ได้พบเจอเด็กเอนเตอร์เทรน 1 อัตรา ส่งเสียงเรียกเบาๆ พร้อมกับเดินเข้ามาน้วยแบบ 1000% เดินตามประกบสุดๆ ขนสีดำสลับขาวนุ่มนิ่มคลอเคลียไม่ห่าง นุดไปไหนเราไปด้วยปานจะสิงเรา หันมาอีกทีคุณพี่สาวผู้ไม่อินกับแงวหนีเข้าที่พักตอนไหนหนอ งงจัง (อิอิ)

ชมบรรยากาศพอแล้วพากันไปนอนกลิ้งรออาหารเย็นที่สั่งไว้ ชุดอาหารเหนือกับหมูกะทะ ที่ทานข้าวอยู่ข้างบ้านหลังเป็นศาลาเล็กๆ มองวิวสวยๆ แต่แล้วพรมลิขิตบันดาลชักพา ยุงตัวใหญ่มาก กัดทีจะตายมั้ย ยากันยุงก็ไม่ช่วย แต่พอของกินมาก็สู้ตายเช่นเดิม กินไปรบกับยุงไป ช่วยกันตบ ตบกันเองก็มี สนุกจังเล้ยยย กินไม่ทันเสร็จดีก็ลงความเห็นว่า หนีไปกินในห้องกันดีกว่า ของคาวหมดแล้ว เหลือเพียงน้ำเก๊กฮวยที่เมาได้ และโค้กคู่ใจของฉัน กับขนมนิดหน่อย หนีตายจากยุงกันดีกว่า พากันเข้าห้องมาก็พึ่งระลึกได้ว่า บ้านทั้งหลังมันมีเพียงมุ้งที่ขวางกั้นจากทุกสรรพสิ่ง หนึ่งคำที่เอ่ยขึ้นมาแบบไม่ต้องคิดเลยคือ จากนักท่องเที่ยวสู่ผู้ประสบภัยค่ะ 55555 ระหว่างอาบน้ำยังเจอสัตว์โลกน่ารักแวะทักทายไม่ซ้ำหน้า ลุ้นระทึกใจตามๆ กัน กลางคืนก็มีแมลงมานอนบนหมอนด้วยกลัวจะเหงาแหละ แต่อากาศเย็นมาก เย็นจากธรรมชาติของจริง