เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันอังคาร เราเป็นคนขับแท็กซี่รถได้เกิดดับกลางทางด่วนพระราม 9 เราวิ่งอยู่เลนขวาสุด รถแก๊สตัดกลายเป็นน้ำมัน ตอนนั้นฝนตกหนักมาก รถทุกคันวิ่งมาด้วยความเร็ว เพราะรถตัดน้ำมันได้ไม่ถึง 3 วิรถก็ดับ พวงมาลัยแข็งบังคับไม่ได้ เราเปิดไฟผ่าหมากทันที แล้วพูดกับผู้โดยสารว่าพวงมาลัยล็อค เราเปิดไฟเลี้ยวซ้ายหักซ้ายสุดกำลังเท่าที่ มีเพราะพวงมาลัยมันแข็ง รถทุกคันที่วิ่งมาด้วยความเร็วกับเบรค ให้เราเข้าซ้าย ซึ่งตอนนั้นเรางงกับเหตุการณ์นั้นมาก เราโทร 1644 เพื่อแจ้งให้ทางด่วนรับทราบว่ารถเราเสียอยู่ข้างบน ระหว่างนั้นผู้โดยสารก็พูดขึ้นมาว่า จริงๆเราไม่น่ารอดเราน่าจะถูกชนอยู่กลางถนนแล้วด้วยซ้ำ ซึ่งเราก็คิดแบบผู้โดยสารนั่นแหละ เราเปิดไฟผ่าหมากอยู่ตรงนั้นนานเป็นชั่วโมง กว่ารถรากจะมาหาเรา รถก็เริ่มติดซึ่งตอนนั้น เราคิดว่ามันน่าจะดวงจริงๆอีกนั่นแหละเพราะพอรถเริ่มติด ไฟผ่าหมากเรามันก็ริบหรี่ ซึ่งมันค่ำแล้ว รถทุกคันขับมาเปิดไฟสาดใส่เรา เพราะเขาคงจะตกใจ ไม่คิดว่าจะมีรถเสีย เพราะไม่มีสัญญาณเตือนเลย ไฟผ่าหมากดับ เพราะแบตมันหมดไปแล้ว เพราะรถติดทางลงพระราม 9 จึงทำให้เรารอดไม่โดนชน รออีกพักใหญ่รถลากก็มา เขาลากเรามาไว้ตรงสี่แยกไฟแดง เป็นทางขึ้นทางด่วน อสมท เราก็นั่งรอช่างของเรา เพราะช่างที่เรามาทำประจำอยู่ตรงศูนย์วัฒนธรรม เรารออยู่ชั่วโมงกว่าในระหว่างที่เรารอ ใจเราก็อยากกลับบ้าน เพราะเราเหนื่อยมากๆเลยอีกใจนึง เราก็เป็นห่วงรถ เพราะว่ารถแบตมันหมดแล้วมันก็จอดอยู่เหมือนสวนเลนกัน แต่พอเรามองไปที่รถ เรากับเห็นภาพช่างของเรา เขาไปยืนอยู่ตรงรถแล้วไฟรถ เรามันก็สว่างขึ้น ซึ่งเราก็งงมากเลยว่ามัน เป็นไปได้ยังไง มันไม่ใช่ความฝัน เพราะเรานั่งอยู่ตรงเกาะกลาง ซึ่งมีรถวิ่งผ่านไปมา ไม่ได้หลับ 100%แต่เราเห็นตรงหน้า แล้วภาพนั้นก็หายไป เราก็เลยบอกกับตัวเองว่าเราต้องรอ พอช่างมาก็เป็นเหมือนในภาพที่เราเห็นเลย ช่างเอาแบต ที่เตรียมมาด้วยลองมาเปลี่ยนใส่ดู แล้วไปสตาร์ทไฟก็สว่าง เหมือนในภาพเหมือนที่เราเห็นทุกอย่าง เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่กี่วัน แต่เป็นเหตุการณ์เหตุการณ์นึง ที่ทำให้เราเห็นหลายๆอย่างในครั้งนั้น ไม่ว่ามันจะเป็นปาฏิหาริย์ ดวงหรือบุญ แต่เราคิดว่าวันนั้น ที่เรารอดมาได้คือเป็นอะไรที่สุดยอดมาก
จะเรียกมันว่าอะไรดี