เหตุผลที่ทำให้ตัดแว่นโปรเกรสซีฟมาแล้วใส่ไม่ได้  เกิดขึ้นได้หลายสาเหตุค่ะ ดังนี้

     1. วัดค่าสายตาผิด 
           เพียงแต่วัดสายตาไม่ตรงไม่ถูกต้อง ก็ทำให้มองภาพไม่ชัด ต่อให้ตัดแว่นโปรเกรสซีฟรุ่นสูงๆ ราคาแพงๆ โครงสร้างดีเท่าไรภาพก็ไม่ชัด และใส่ไม่ได้อยู่ดีค่ะ 

      2. เลือกเลนส์ผิดรุ่น ผิดยี่ห้อ 
            เลนส์แต่ละยี่ห้อก็มีคาแรตเตอร์ที่ไม่เหมือนกัน บางยี่ห้อออกแบบเลนส์ออกมาแบบนุ่มนวล บางยี่ห้อ ก็เน้นเรื่องความคมชัด ซึ่งแต่ละคนก็จะชอบคาแรกเตอร์ของเลนส์ที่แตกต่างกัน ถ้าเราเลือกรุ่นหรือยี่ห้อเลนส์ที่ผิด เราใส่ใช้งานแล้วจะรู้สึกไม่ชอบ ใส่แล้วไม่สบายตา ใส่ไม่ได้อยู่ดี

      3. เราวัดค่าพารามิเตอร์ของเลนส์ไม่ถูกต้อง
            การวัดค่าพารามิเตอร์ เช่น จุดโฟกัส ความเท ความโค้ง หน้าแว่น เป็นเรื่องที่สำคัญหมดเลยค่ะ โดยเฉพาะการตัดเลนส์ที่เป็นรุ่นสูง ๆ ยิ่งต้องแม่นยำในเรื่องนี่ค่ะ ถ้าวัดค่าพารามิเตอร์ผิดก็จะทำให้เราใส่แว่นแล้วรู้สึกไม่สบายตา หรืออาจจะมองเห็นภาพไม่คมชัด ทำให้ใส่แว่นโปรเกรสซีฟไม่ได้ในที่สุด

       4. ทำทุกอย่างมาดีหมดแล้ว แต่เลือกกรอบแว่นผิด 
             ต้องไม่เล็ก ไม่ใหญ่ และไม่โค้งจนเกินไป และแป้นจมูกต้องสามารถปรับดัดได้ เปลี่ยนได้ เพื่อให้แว่นเราสามารถปรับตัดแว่นให้หาจุดโฟกัสที่ดีที่สุด เพื่อที่จะได้ภาพที่คมชัดที่สุดนั้นเอง

        5. การใช้งานที่ไม่ถูกต้อง
            บางท่านยังใช้งานโปรเกรสซีฟยังไม่ถูกต้อง ต้องฝึกใช้งานโปรเกรสซีฟให้ถูกและชำนาญค่ะ การฝึกให้คุ้นชินกับแว่นโปรเกรสซีฟเป็นเรื่องสำคัญมากๆ  บางท่านอาจโชคร้ายฝึกเยอะมากๆ แต่ก็ยังใช้งานไม่ได้ แสดงว่าไม่เหมาะกับการใช้งานแว่นโปรเกรสซีฟจริงๆ ค่ะ คนกลุ่มนี้ อาจจะเป็นต้องเปลี่ยนชนิดแว่น เป็นใช้งานเลนส์ชนิดอื่นแทนค่ะ เช่น เลนส์เฉพาะทาง เลนส์ 2 ชั้น หรืออาจเปลี่ยนเป็นเลนส์ชั้นเดียวแยกแว่นไปเลยค่ะ 

             และนี่คือ 5 สาเหตุที่ทำให้ตัดแว่นตาโปรเกรสซีฟมาแล้วใส่ไม่ได้ เราต้องเลือกร้านตัดแว่นโปรเกรสซีฟกับผู้ที่เชี่ยวชาญเรื่องโปรเกรสซีฟเป็นอย่างดี เพื่อจะได้ลดโอกาสการตัดแว่นโปรเกรสซีฟมาแล้วใส่ใช้งานไม่ได้ค่ะ