ขอคำปรึกษาทุกท่านชาวพันทิปหน่อยค่ะ หากมีผู้มีความรู้หรือประสบการณ์ด้านเด็ก รบกวนหน่อยนะคะ
พอดีแม่เป็นพยาบาลแผนกเด็กอ่อนกำลังจะเกษียณค่ะ แล้วมีแรงงานต่างชาติที่เข้ามาทำงานแบบผิดกฎหมายมาคลอดลูก แล้วไม่สามารถรับน้องกลับไปได้เนื่องจากกระบวนการทางกฎหมาย และอาชีพสภาพความเป็นอยู่ของแม่เด็กด้วย ระหว่างที่เด็กรอทำเรื่องก่อนส่งไปสถานสงเคราะห์ น้องต้องอยูในการดูแลของรพ. ซึ่งจะมีแม่ และลูกน้องพยาบาลในแผนกช่วยกันดูแล จนตอนนี้น้องเกือบ 2 ขวบแล้วค่ะ แม่เลยค่อนข้างผูกพันธ์กับน้องมาก คอยไปหาตลอด แม้กระทั่งเสาร์อาทิตย์ ซึ่งแม่ก็จะพูดกับคนในครอบครัวตลอดว่าอยากรับน้องมาเลี้ยง จนตอนนี้เริ่มพูดบ่อยขึ้นกว่าเดิม พี่สาวของเราก็อยากรับมาดูแลเหมือนกัน ส่วนคุณพ่อก็ไม่ได้ยินดียินร้ายอะไรค่ะ
แต่ในความคิดส่วนตัวของเรา ไม่อยากให้รับมาเพราะเหตุผลดังนี้ค่ะ
1. คุณพ่อเกษียณแล้ว บำนาญหักค่าใช้จ่ายตกเงินเก็บ 30k) กับคุณแม่กำลังจะเกษียณ (คาดเดาบำนาญประมาณ 30k) ฟังดูเหมือนจะเยอะใช่มั้ยคะ แต่เงินบำนาญของพ่อ ต้องโอนเก็บเพื่อสร้างบ้าน ตอนนี้ได้2M ซึ่งการตัดสินใจเรื่องสร้างบ้านขึ้นอยู่กับแม่ แต่แม่ไม่ก้ไม่มีวี่แววจะจริงจังกับเรื่องนี้ ไม่สามารถตัดสินใจเด็ดขาดได้เรื่องแบบเรื่องงบ หรือแม่แต่ความต้องการของตัวเอง ทำให้ปัจจุบันเรายังเช่าบ้านอยู่ และไม่รู้ว่าบ้านจะได้สร้างจริงมั้ย แต่ไม่ค่อยมีหวัง ***สำคัญมากว่ายังไม่มีบ้านของตัวเองเลย แล้วจะรับเด็กมาเลี้ยงได้ไง
เราเลยอยากให้เงินบำนาญมันเก็บไว้ซื้อความสุขของพ่อแม่ เช่นไปเที่ยวตปท. ไปดูคอนเสิร์ต และเก็บไว้ยามฉุกเฉินตอนแก่
2. พี่สาวเราอายุ 30+ แต่ไม่มีงานประจำ มีวุฒิม.6 ในมุมมองของคนในบ้าน เขายังไม่สามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ ค่าใช้จ่ายบางอย่างพ่อแม่เป็นคนรับผิดชอบให้ แต่ยังไม่มีเป้าหมายจริงจังว่าจะหารายได้จากอาชีพในมาเลี้ยงตัวเอง
3. เราเองมีงานประจำ เงินเดือน 25k-50k แล้วแต่เดือน แต่สำหรับคนทำงานในยุคปัจจุบัน เราว่ามันก็ไม่ได้ถือว่ามีความมั่นคง เพราะมีค่าใช้จ่าย หนี้สินส่วนตัว เช่นค่ารักษาตา ค่าผ่อนรถ ความไม่มั่นคงของงานและเงินเดือน และสุขภาพจิตก็ทำให้เราอยากลาออกทุกวัน สำหรับการรับผิดชอบชีวิตตัวเอง เรายังให้คะแนนว่าไม่ดีเท่าที่ควร
เราเลยลองมองไกลๆ ว่าการจะเลี้ยง 1 ชีวิตให้โตมามีคุณภาพ และมีความสุข*** สำคัญมาก เราต้องคิดถึงการส่งเสียคนคนนึงจนเรียนจบปริญญา จนสามารถทำงานเลี้ยงดูตัวเองได้ มันก็คง 22 ปีอย่างต่ำ ตอนนั้นพ่อแม่คง 80+ แล้ว ซึ่งพ่อเองก็กังวลเรื่องนี้ ว่าถ้าอยู่ไม่ถึง แล้วใครจะดูแลส่งเสียน้องต่อ ถ้าวันนั้นเรามีครอบครัวของตัวเองต้องรับผิดชอบ พี่สาวเราก็คง 50+ ไม่น่าจะสามารถดูแลน้องได้ เราไม่อยากให้เขารู้สึกว่าเขาไม่เหลือใคร จะเติบโตได้ ปัจจัยที่จำเป็นต้องมี ต้องได้รับการศึกษา ต้องได้มีความสุข ได้ไปเที่ยว ได้ในสิ่งที่เขาอยากได้ ภาษีสังคมก็ต้องได้บ้าง ทุกอย่างมันต้องใช้เงินหมดเลย ถ้าเอาเงินบำนาญพ่อกับแม่มา แล้วเกิดวันนึงมีอะไรฉุกเฉิน จะยังมีเงินมั้ย เราอาจจะแบกรับภาระไม่ไหว แล้วคนในครอบครัวจะเป็นยังไง
อีกอย่าง เราก็พูดได้เลยว่าครอบครัวเราไม่ใช่ครอบครัวที่อบอุ่น แม่เป็นคนที่ค่อนข้าง toxic มาก เคยพูดกับเราว่า “เราไม่ได้รักเขาหรอก เราแค่อยากได้เงินเขาแค่นั้น” เราไม่ยากให้เด็กคนนี้เติบโตมาแบบที่เราเจอ ถ้าวันนึงที่เขาดื้อรั้นต่อต้านตามวัย แล้วแม่เราเกิดพูดประโยคนี้ออกไป หรือพูดทวงบุญคุณอะไรแบบนั้น ความที่ไม่ใช่สายเลือดแท้ๆ เด็กอาจจะเก็บไปคิดน้อยใจจนอาจจะมีปัญหา เราเป็นห่วงเขาในเรื่องนี้มาก
จากเรื่องราว และ เหตุผลที่เล่ามา อยากขอคำปรึกษาทุกท่านหน่อยค่ะ ว่ามีความคิดเห็นยังไงบ้าง ควรรับอุปการะน้องมั้ย แล้วถ้าไม่ควร ควรคุยกับทางบ้านว่ายังไงได้บ้างคะ หากท่านไหนมีความรู้ ประสบการณ์หรือเหตุผลอื่นๆ สามารถเสริมได้เลยนะคะ🥹🙏🏻
ขอบคุณมากค่ะ
แม่อายุ 60 ต้องการรับอุปการะเด็ก แต่เราไม่เห็นด้วย ควรทำไงดี?
พอดีแม่เป็นพยาบาลแผนกเด็กอ่อนกำลังจะเกษียณค่ะ แล้วมีแรงงานต่างชาติที่เข้ามาทำงานแบบผิดกฎหมายมาคลอดลูก แล้วไม่สามารถรับน้องกลับไปได้เนื่องจากกระบวนการทางกฎหมาย และอาชีพสภาพความเป็นอยู่ของแม่เด็กด้วย ระหว่างที่เด็กรอทำเรื่องก่อนส่งไปสถานสงเคราะห์ น้องต้องอยูในการดูแลของรพ. ซึ่งจะมีแม่ และลูกน้องพยาบาลในแผนกช่วยกันดูแล จนตอนนี้น้องเกือบ 2 ขวบแล้วค่ะ แม่เลยค่อนข้างผูกพันธ์กับน้องมาก คอยไปหาตลอด แม้กระทั่งเสาร์อาทิตย์ ซึ่งแม่ก็จะพูดกับคนในครอบครัวตลอดว่าอยากรับน้องมาเลี้ยง จนตอนนี้เริ่มพูดบ่อยขึ้นกว่าเดิม พี่สาวของเราก็อยากรับมาดูแลเหมือนกัน ส่วนคุณพ่อก็ไม่ได้ยินดียินร้ายอะไรค่ะ
แต่ในความคิดส่วนตัวของเรา ไม่อยากให้รับมาเพราะเหตุผลดังนี้ค่ะ
1. คุณพ่อเกษียณแล้ว บำนาญหักค่าใช้จ่ายตกเงินเก็บ 30k) กับคุณแม่กำลังจะเกษียณ (คาดเดาบำนาญประมาณ 30k) ฟังดูเหมือนจะเยอะใช่มั้ยคะ แต่เงินบำนาญของพ่อ ต้องโอนเก็บเพื่อสร้างบ้าน ตอนนี้ได้2M ซึ่งการตัดสินใจเรื่องสร้างบ้านขึ้นอยู่กับแม่ แต่แม่ไม่ก้ไม่มีวี่แววจะจริงจังกับเรื่องนี้ ไม่สามารถตัดสินใจเด็ดขาดได้เรื่องแบบเรื่องงบ หรือแม่แต่ความต้องการของตัวเอง ทำให้ปัจจุบันเรายังเช่าบ้านอยู่ และไม่รู้ว่าบ้านจะได้สร้างจริงมั้ย แต่ไม่ค่อยมีหวัง ***สำคัญมากว่ายังไม่มีบ้านของตัวเองเลย แล้วจะรับเด็กมาเลี้ยงได้ไง
เราเลยอยากให้เงินบำนาญมันเก็บไว้ซื้อความสุขของพ่อแม่ เช่นไปเที่ยวตปท. ไปดูคอนเสิร์ต และเก็บไว้ยามฉุกเฉินตอนแก่
2. พี่สาวเราอายุ 30+ แต่ไม่มีงานประจำ มีวุฒิม.6 ในมุมมองของคนในบ้าน เขายังไม่สามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ ค่าใช้จ่ายบางอย่างพ่อแม่เป็นคนรับผิดชอบให้ แต่ยังไม่มีเป้าหมายจริงจังว่าจะหารายได้จากอาชีพในมาเลี้ยงตัวเอง
3. เราเองมีงานประจำ เงินเดือน 25k-50k แล้วแต่เดือน แต่สำหรับคนทำงานในยุคปัจจุบัน เราว่ามันก็ไม่ได้ถือว่ามีความมั่นคง เพราะมีค่าใช้จ่าย หนี้สินส่วนตัว เช่นค่ารักษาตา ค่าผ่อนรถ ความไม่มั่นคงของงานและเงินเดือน และสุขภาพจิตก็ทำให้เราอยากลาออกทุกวัน สำหรับการรับผิดชอบชีวิตตัวเอง เรายังให้คะแนนว่าไม่ดีเท่าที่ควร
เราเลยลองมองไกลๆ ว่าการจะเลี้ยง 1 ชีวิตให้โตมามีคุณภาพ และมีความสุข*** สำคัญมาก เราต้องคิดถึงการส่งเสียคนคนนึงจนเรียนจบปริญญา จนสามารถทำงานเลี้ยงดูตัวเองได้ มันก็คง 22 ปีอย่างต่ำ ตอนนั้นพ่อแม่คง 80+ แล้ว ซึ่งพ่อเองก็กังวลเรื่องนี้ ว่าถ้าอยู่ไม่ถึง แล้วใครจะดูแลส่งเสียน้องต่อ ถ้าวันนั้นเรามีครอบครัวของตัวเองต้องรับผิดชอบ พี่สาวเราก็คง 50+ ไม่น่าจะสามารถดูแลน้องได้ เราไม่อยากให้เขารู้สึกว่าเขาไม่เหลือใคร จะเติบโตได้ ปัจจัยที่จำเป็นต้องมี ต้องได้รับการศึกษา ต้องได้มีความสุข ได้ไปเที่ยว ได้ในสิ่งที่เขาอยากได้ ภาษีสังคมก็ต้องได้บ้าง ทุกอย่างมันต้องใช้เงินหมดเลย ถ้าเอาเงินบำนาญพ่อกับแม่มา แล้วเกิดวันนึงมีอะไรฉุกเฉิน จะยังมีเงินมั้ย เราอาจจะแบกรับภาระไม่ไหว แล้วคนในครอบครัวจะเป็นยังไง
อีกอย่าง เราก็พูดได้เลยว่าครอบครัวเราไม่ใช่ครอบครัวที่อบอุ่น แม่เป็นคนที่ค่อนข้าง toxic มาก เคยพูดกับเราว่า “เราไม่ได้รักเขาหรอก เราแค่อยากได้เงินเขาแค่นั้น” เราไม่ยากให้เด็กคนนี้เติบโตมาแบบที่เราเจอ ถ้าวันนึงที่เขาดื้อรั้นต่อต้านตามวัย แล้วแม่เราเกิดพูดประโยคนี้ออกไป หรือพูดทวงบุญคุณอะไรแบบนั้น ความที่ไม่ใช่สายเลือดแท้ๆ เด็กอาจจะเก็บไปคิดน้อยใจจนอาจจะมีปัญหา เราเป็นห่วงเขาในเรื่องนี้มาก
จากเรื่องราว และ เหตุผลที่เล่ามา อยากขอคำปรึกษาทุกท่านหน่อยค่ะ ว่ามีความคิดเห็นยังไงบ้าง ควรรับอุปการะน้องมั้ย แล้วถ้าไม่ควร ควรคุยกับทางบ้านว่ายังไงได้บ้างคะ หากท่านไหนมีความรู้ ประสบการณ์หรือเหตุผลอื่นๆ สามารถเสริมได้เลยนะคะ🥹🙏🏻
ขอบคุณมากค่ะ