เป็นอีกครั้งที่ต้องเสียใจกับเรืองความสัมพันธ์ ทั้งๆที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย เอาจริงๆก็ยังงง กันเหตการณ์วันนั้น ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังงัยกันแน่ เรายังเล่นกันเหมือนทุกๆ วันที่เคยๆ เรามักแกล้งทะเลาะกันเล่นแบบนี้กันอยู่เรื่อยๆ เค้าชอบพูดว่าให้เอานู่นนี่นั่น ทิ้งมั่งบริจาคเสื้อผ้าสัก สามสิบเปอร์เซ้นต์นะ เอาจักรยานกลับไปบ้านอีกหลังบ้าง เราก็ไม่ได้จริงจังอะไรเลย แค่แกล้งบ่นกลับไปว่า มันก็รก ของมันอยู่อย่างนี้ มาตั้งนานแล้ว ยิ่งรกมากตอนมีคุณมาอยู่ด้วยนี่แหล่ะ รกเพราะคนบ่นเก่ง นั่นแหล่ะ แกลังพูดไปงั้นเอง ไม่ได้จริงจังอะไร ไม่ได้โกรธด้วย ขำๆ แต่เค้าก็พูดไม่หยุดเหมือนแกล้ง เราก็เลยบอก หยุดเหอะ พอๆ กำลังกวาดบ้าน หยุด หยุดเหอะ รำคาญแล้วเนี่ยะ
พอเดินผ่านกันก็เลยแกล้งตีตั้งใจจะฟาดมือไปที่ก้น ไม่ได้โมโห หรืออะไรเลยนะ แกล้งตีเฉยๆ ไม่รู้เหมือนกัน พลาดยังงัยมันไปโดนช่วงหลังกับเอว เสียงดังเชียว ก็ตกใจและ พูดขอโทษ ไป
ดูเหมือนไม่มีอะไรเค้าก็ไปนังทำงานที่โต๊ะกินข้าว ปรกติ จู่ๆเค้าก็บอกว่า คุณผมเจ็บอ่ะ
เราก็พูดอีกว่าขอโทษนะ ก็คุณนั่นแหล่ะ ชอบกวนประสาท พูดแบบงอนๆไม่ได้จริงจังอะไร
แต่สิ่งที่เค้าพูดตอบกลับและมีปฏิกิริยา เราถึงกับอึ้ง
เค้าพูดว่า คุณทำร้ายร่างกายผม แล้วยังมาโยนความผิดให้ผม ทำไมมีนิสัยแบบนี้ อย่าไปทำนิสัยแบบนี้กับใครอีกนะ มือขวาเขาจับแก้วน้ำที่เราซื้อให้ และมือเค้า สั่น พูดและมองหน้าเราด้วยสายตา ที่เหมือนเจ็บปวด ไม่ใช่ร่างกาย แต่เหมือนไม่พอใจเรามาก
บอกตรงๆ เราพูดอะไรไม่ออก งงและไม่เข้าใจว่ามันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ยังงัย นี่มันเรื่องอะไรกัน
เค้ากลับไปนั่งทำงาน ต่อหันหลังให้เรา เราถามว่าคุณโกรธหรอคะ เราขอโทษแล้วงัย เราไมไ่ด้ตั้งใจจริงๆนะ
เค้าบอกว่าไม่ได้โกรธ และไม่พูดอะไรอีก แต่เราก็รู้แหล่ะว่าคงโกรธ เลยเงียบๆไปก่อนไม่อยากกวนให้ขุ่นอารมณ์ปล่าวๆแล้วเค้าก็ลุกขึ้นแต่งตัว เราถามว่าจะไป ออฟฟิตหรอ เค้าตอบว่าใช่
เราถามว่าจะไม่กลับมาที่นี่แล้วใช่มั๊ยในความหมายคือเย็นนี้ เค้าตอบว่าใช่ เค้าจะไปบ้านแล้ว เพราะในวันรุ่งขึ้นเค้าจะบินไปต่างจังหวัดบ้านคุณแม่เค้า และมีแผนอยู่ยาวถึงวันอังคารอยู่แล้วพอดี นี่อาจเป็นจังหวะนรกอีกอย่าง
เอาจริงๆ เราก็เซ้นส์ ได้ระดับนึงว่ามันไม่ปกติ ช่วงบ่ายเราส่งขอ้ความไปบอกว่าเสียใจ ขอโทษ
แต่เหมือนเค้าน่าจะลบข้อความ ไม่อ่าน หรือไม่ก็คงบล็อก ไลน์ ข้อความไม่ถูกอ่าน ในที่สุด
เราเสียใจนะ และไม่สบายใจ คิดว่าเค้าน่าจะไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะเคลียร์ หรือฟังอะไร
อีกใจนึงก็คิดนะ มันแย่ขนาดนั้นเลยหรอ อ่ะ รอให้ใจเย็นหน่อยละกันถ้าอ่าจข้อความแล้วจะขอโทษอีก
ครั้งเพราะที่พลาด ตีไปก็แรงอยู่ แต่มันไม่ใช่อย่างที่คิด เค้าไม่อ่าน ไม่สนใจ และไม่ติดต่อ หายไป 5วัน เราเสียใจนะ แต่มันก็ทำให้เราได้คิดอะไรขึ้นมาอาจเศร้าและน้อยใจด้วย และมีคำถามในใจ ตลอดว่าถ้าเค้ามีใจคิดถึงเราสักนิด กับเรื่องนี้ มันจะมีสักแว๊บนึงมั๊ย ที่เค้าจะให้อภัย ทั้งๆที่เราขอโทษไปแล้ว
เค้าคิดจริงๆ หรอว่าการที่เราพูดว่า ก็คุณนั่นแหล่ะ กวนประสาท คือการโยนความผิดให้เค้า
ทั้งๆที่เราแค่พูดแบบ งอนๆ ไม่ได้จริงจังอะไร เค้าคิดจริงๆ ใช่มั๊ยว่าเราคือคนที่นิสัยแย่ชอบโยนความผิดให้คนอื่น ทั้งๆที่เกิดมาเราไม่เคยทำร้ายร่างกายใครเพราะความโกรธ ขนาดเคยโดนนอกใจ ยังบอกให้เลิกรากันดีๆ ทั้งๆที่เจ็บปวดแทบทรุด ระหว่างเราก็ไม่เคยมีใครทำร้ายร่างกายกันและกันมาก่อน เราไม่เคยมีนิสัยทำร้ายร่างกายหรือใช้ความรุนแรงมาก่อนเลย แล้วเหตการณ์วันนี้คือสิ่งที่เค้าตัดสินเรา ตัดสินความเป็นเรา และตัดสินว่าจะจะออกไปจากความสัมพันธ์ระหว่างเรา จบทุกสิ่งทุกอย่าง อะไรกันวะ งง
อันนึงที่เสียใจก็คือไม่น่าปล่อยให้ความสัมพันธ์ของเราสองคนล่วงเลยมาถึงขั้นนี้ ถ้าเรายังเป็นแค่เพื่อนเหตการณ์นี้คงไม่เกิดขึ้น กว่าจะก้าวผ่านความเป็นเพื่อนมาถึงวันนี้ เราใช้เวลาสี่ปี ด้วยกันแต่เหตการณ์วันนี้วันเดียว เค้าตัดสินเราทันที เค้ามักจะมีเหตผลดีๆ ให้กับการกระทำแย่ๆ ของคนอื่นรอบตัวเสมอ แต่กับเรา ไม่สามารถมีเหตุผลดีๆ อะไรมาอธิบาย นอกจากเรานิสัยแย่ มาก และจบความสัมพันธ์
ที่ยังเลี่ยงการติดต่อแบบทางการยังไม่ได้เพราะเราคือ ลูกค้าและเค้าคือซัพพลายเออร์ มันจึงยังต้องคงสถานะเรื่องงาน ต่อไป
กระอักกระอ่วนคือคำที่คิดได้ตอนนี้
ตอนที่เรามีความสัมพันธ์มากกว่าเพื่อนครั้งแรก เราเคยพูดว่าเรากลัวจัง กลัวจะมองหน้ากันไม่ติด นี่สินะแบบนี้สินะ
เหตุการณ์หลายๆเรื่องในชีวิต ความสูญเสียที่ได้เจอ ทำให้เราคิดว่าชีวิตมันสั้นเหลือเกิน ถ้ารู้สึกดีต่อกันก็ปล่อยให้ความสัมพันธ์มันก้าวหน้าไป ตามธรรมชาติของมัน ใช้ชีวิตให้มันมีความสุข เพราะไม่รู้จริงๆ จะมีความสุข หรือมีชีวิต อีกนานแค่ไหน
แต่วันนี้ กลับทำให้รู้สึกว่าคิดผิดหรือปล่าวนะเรา ถ้าไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้น เราคงไม่ต้องเสียใจอีกครั้งแบบนี้เราคงยังเป็นเพื่อนที่มีระยะห่างพอประมาณ ที่จะไม่กระทบกระทั่งกันเอง
ที่จริงมาทบทวนดูดีๆ ก็มีแต่เราที่รู้สึกกับเค้ารึป่าว ไม่เคยได้พูดว่าเราสองคนเป็นอะไรกันเพราะก็ไม่เคยจะอยากจำกัดความ แค่อยู่ด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน ไปเที่ยวด้วยกัน ไม่เอาเปรียบกัน ทำสิ่งดีๆ ให้กัน แต่มาคิดไปคิดมา เห้ย เรารู้สึกคนเดียวป่าววะ คิดไปเองป่าวว่าเค้าก็รู้สึกอย่างเดียวกัน จริงๆมันใช่รึป่าว
คิดทบทวนเรื่องนี้มาหลายวัน รู้สึกว่าตัวเองผิดนะ ที่พลาดตีแรงเลยทักไปถามว่าหายโกรธได้รึยัง เค้าก็ตอบกลับมาว่า ใครโกรธใคร เออมันก็รู้สึกได้เองนะ ว่ามันไม่ปกติ ความปกติระหว่างเราคือทุกๆวันเราคุยกัน ต้องไลน์มาส่งรูปการใชัชีวิต ทุกวัน แต่นี้คือหายไป แล้วจะมาถามว่าใครโกรธใคร
มันไม่ใช่การงอน นิสัยเค้าไม่ใช่คนงอนให้ง้อ อะไรแบบนั้น มันก็ทำให้เรารู้สึก เห้อ แล้วก็ถอนใจไป อีกหลายเฮือก หลายกรุบ อยู่นะ ไปต่อยังงัยดี
คือก็ไม่ใช่เด็กวัยรุ่นที่จะมางอนง้ออะไรกัน อยากพูดกันตรงๆ อยากปรับความเข้าใจมากกว่า แต่เหมือนเค้าไม่น่าจะต้องการแบบที่เราต้องการ
ดูๆ แล้วเค้าน่าจะจงใจถอยความสัมพันธ์กลับไปเหลือแค่งาน มากกว่า ก็เข้าใจได้เหตการณ์ไดๆ คนนึงอาจมองว่ามันไม่ไ้ด้ร้ายแรง แต่อีกคนอาจรับไม่ได้ ถ้ามันแย่มากในความรู้สึกเค้า หรือเราก็คงต้องปล่อยไป ตามสิ่งที่มันจะเป็นไป หลายสิ่งในชีวิต เราก็กำหนดไม่ได้จริงๆ
สิ่งที่ทำได้ตอนนี้ก็คือ พยายามดูแล ใจตัวเองไม่ให้เสียใจมากนัก เจ็บบ่อยๆ หลายๆ ครั้งก็ทำให้มีภูมิต้านทาน มากขึ้นเรื่อยๆ และหวังว่าจะเจ็บน้อยลง รึป่าวนะ แต่มันก็เจ็บปวด ทุกครั้งไปสิน่าใจเราเอ๊ย
ที่จริงแล้วก็นึกมาตลอดว่า ความสัมพันธ์ ครั้งนี้ คงจบลงสักวัน ไม่ช้าก็เร็ว เพราะมันก็เป็นความสัมพันธ์ ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ ตั้งแต่แรกๆ แล้วนะ อายุก็ต่างกัน งานก็ไม่เอื้อให้เลย คนนึงลูกค้าคนนึง ซัพพลายเออร์ ความสัมพันธ์ ที่เปิดเผยไปก็ไม่ดี กับหน้าที่การงาน อายุที่แตกต่างกันจนไม่เคยมองเห็นความสัมพันธ์ ระยะยาว แต่ก็ไม่นึกว่ามันจะจบเร็วขนาดนี้
มันสั้นมากจริงๆ แต่มันเกิดขึ้นแล้ว อาจจะดีก็ได้ จบซะวันนี้ เราจะไ่ด้ไม่ผูกพันธ์มากมาย และคงเสียใจหนักกว่านี้ ไปอีกในวันข้างหน้า จบวันนี้ อาจจะดีแล้วก็ได้นะตัวเรา
ร้องไห้สองวันเฉพาะกลางคืน ก็เพียงพอละ ยังงัยก็ต้องทำงานและต้องผ่านมันไปอีกครั้งให้ได้ ดีนะมีเจลเย็นแช่ช่องฟรีซ ได้มาจาก โรงพยาบาลตอนเป็นไข้หวัดใหญ่ พอร้องไห้ ก่อนนอนก็เอามาโป๊ะ ตาช่วยได้มาก ไม่ให้ตาบวมตอนเช้า พอไปทำงานได้ แต่งหน้ากลบหน่อย ผ่านไปได้เป็นวันๆ ไป
เข้มแข็งเหมือนกันนะตัวเรา เข้มแข็งเข้าไว้ มันก็สอนนะเคยรู้สึกนะว่า กับเค้า คนนี้เราเป็นตัวเองได้มากกว่าทุกครั้งสบายใจ ที่จะพูดทะลึ่ง เล่นกันได้ เค้าเองก็ทำตัวตามสบายกับเรา ต่างจากความสัมพันธ์ คราวก่อนที่เคยผ่านมามาก รู้สึกเป็นตัวเองที่สุดละ
แต่สงสัย คงสบายๆ มากไปหน่อยนะ เลยไม่ได้ระวังคำพูดคำจา ต่อกัน ทำให้ได้บทเรียนในชีวิตอีกบท
ไม่เป็นไรนะเรา หนักกว่านี้ก็เจอมาแล้วนี่นะ จะเท่าไรกันแค่เจ็บอีกรอบนึงเท่านั้นเอง
ท้ายที่สุด ก็เหลือแค่ครอบครัว ที่ไม่ว่าเราจะทำอะไรพลาดไปแค่ไหน เค้าก็พร้อมเข้าใจและอภัยให้เราเสมอ
บันทึกเก็บไว้ ในความทรงจำ อีกช่วงนึงของชีวิต
ในขณะที่การงานก็หนักหนาเหลือเกิน หลายเรื่องเกิดขึ้น เคยคิดจะเล่าให้เค้าฟังอยากให้เค้าเป็นที่พักทางใจบ้างเล็กๆน้อยๆ อยากปรึกษา ว่าจะรับภาระหนักอึ้งของบริษัทดีมั๊ย แต่มันก็ด้วยความที่มันเป็นความลับทางธุรกิจ เราเองก็มีหน้าที่รับผิดชอบก็ต้องหยุดไว้ก่อน แต่ก็คิดเสมอว่าเค้าน่าจะพอไว้ใจได้ในเรื่องงาน และหนักแน่นเรืองงาน เรียกว่าเป็นคนที่ปรึกษาเรืองงานกันได้ถึงเค้าจะอายุน้อยกว่าเรา แต่ก็เป็นผู้ใหญ่มากในเรืองงานการ ทำได้ดีหลายๆ เรืองดีกว่าเราด้วยซ้ำไป
แต่ไม่ได้แล้วสินะ อย่าไปคิดจะพึ่งพาใครเลย พึ่งตัวเองนะเธอเอ๊ย
ขีวิตก็แค่นี้เอง มีผิดหวัง มีสมหวัง มีความสุข และมีความเศร้าเสียใจ ปะปนเสมอ
อัดอั้นอยู่ในใจมาหลายวันใช้สติและสมาธิ ไม่ใช้อารมณ์ มาเขียนเรืองนีออกมาเป็นตัวอักษร จะได้แบ่งเบาความหนักอึ้งในใจลงบ้าง สักนิดนึง
ท้ายที่สุดเธอจะผ่านไปได้ เชื่อแบบนี้นะ เราเอง
กระทู้ที่ไม่ได้ถาม แต่ถ้าใครอยากแสดงความคิดเห็นก็เบาๆหน่อยนะคะ เราเจ็บมันเศร้าอยู่
ความเสียใจในร้อยบรรทัด
พอเดินผ่านกันก็เลยแกล้งตีตั้งใจจะฟาดมือไปที่ก้น ไม่ได้โมโห หรืออะไรเลยนะ แกล้งตีเฉยๆ ไม่รู้เหมือนกัน พลาดยังงัยมันไปโดนช่วงหลังกับเอว เสียงดังเชียว ก็ตกใจและ พูดขอโทษ ไป
ดูเหมือนไม่มีอะไรเค้าก็ไปนังทำงานที่โต๊ะกินข้าว ปรกติ จู่ๆเค้าก็บอกว่า คุณผมเจ็บอ่ะ
เราก็พูดอีกว่าขอโทษนะ ก็คุณนั่นแหล่ะ ชอบกวนประสาท พูดแบบงอนๆไม่ได้จริงจังอะไร
แต่สิ่งที่เค้าพูดตอบกลับและมีปฏิกิริยา เราถึงกับอึ้ง
เค้าพูดว่า คุณทำร้ายร่างกายผม แล้วยังมาโยนความผิดให้ผม ทำไมมีนิสัยแบบนี้ อย่าไปทำนิสัยแบบนี้กับใครอีกนะ มือขวาเขาจับแก้วน้ำที่เราซื้อให้ และมือเค้า สั่น พูดและมองหน้าเราด้วยสายตา ที่เหมือนเจ็บปวด ไม่ใช่ร่างกาย แต่เหมือนไม่พอใจเรามาก
บอกตรงๆ เราพูดอะไรไม่ออก งงและไม่เข้าใจว่ามันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ยังงัย นี่มันเรื่องอะไรกัน
เค้ากลับไปนั่งทำงาน ต่อหันหลังให้เรา เราถามว่าคุณโกรธหรอคะ เราขอโทษแล้วงัย เราไมไ่ด้ตั้งใจจริงๆนะ
เค้าบอกว่าไม่ได้โกรธ และไม่พูดอะไรอีก แต่เราก็รู้แหล่ะว่าคงโกรธ เลยเงียบๆไปก่อนไม่อยากกวนให้ขุ่นอารมณ์ปล่าวๆแล้วเค้าก็ลุกขึ้นแต่งตัว เราถามว่าจะไป ออฟฟิตหรอ เค้าตอบว่าใช่
เราถามว่าจะไม่กลับมาที่นี่แล้วใช่มั๊ยในความหมายคือเย็นนี้ เค้าตอบว่าใช่ เค้าจะไปบ้านแล้ว เพราะในวันรุ่งขึ้นเค้าจะบินไปต่างจังหวัดบ้านคุณแม่เค้า และมีแผนอยู่ยาวถึงวันอังคารอยู่แล้วพอดี นี่อาจเป็นจังหวะนรกอีกอย่าง
เอาจริงๆ เราก็เซ้นส์ ได้ระดับนึงว่ามันไม่ปกติ ช่วงบ่ายเราส่งขอ้ความไปบอกว่าเสียใจ ขอโทษ
แต่เหมือนเค้าน่าจะลบข้อความ ไม่อ่าน หรือไม่ก็คงบล็อก ไลน์ ข้อความไม่ถูกอ่าน ในที่สุด
เราเสียใจนะ และไม่สบายใจ คิดว่าเค้าน่าจะไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะเคลียร์ หรือฟังอะไร
อีกใจนึงก็คิดนะ มันแย่ขนาดนั้นเลยหรอ อ่ะ รอให้ใจเย็นหน่อยละกันถ้าอ่าจข้อความแล้วจะขอโทษอีก
ครั้งเพราะที่พลาด ตีไปก็แรงอยู่ แต่มันไม่ใช่อย่างที่คิด เค้าไม่อ่าน ไม่สนใจ และไม่ติดต่อ หายไป 5วัน เราเสียใจนะ แต่มันก็ทำให้เราได้คิดอะไรขึ้นมาอาจเศร้าและน้อยใจด้วย และมีคำถามในใจ ตลอดว่าถ้าเค้ามีใจคิดถึงเราสักนิด กับเรื่องนี้ มันจะมีสักแว๊บนึงมั๊ย ที่เค้าจะให้อภัย ทั้งๆที่เราขอโทษไปแล้ว
เค้าคิดจริงๆ หรอว่าการที่เราพูดว่า ก็คุณนั่นแหล่ะ กวนประสาท คือการโยนความผิดให้เค้า
ทั้งๆที่เราแค่พูดแบบ งอนๆ ไม่ได้จริงจังอะไร เค้าคิดจริงๆ ใช่มั๊ยว่าเราคือคนที่นิสัยแย่ชอบโยนความผิดให้คนอื่น ทั้งๆที่เกิดมาเราไม่เคยทำร้ายร่างกายใครเพราะความโกรธ ขนาดเคยโดนนอกใจ ยังบอกให้เลิกรากันดีๆ ทั้งๆที่เจ็บปวดแทบทรุด ระหว่างเราก็ไม่เคยมีใครทำร้ายร่างกายกันและกันมาก่อน เราไม่เคยมีนิสัยทำร้ายร่างกายหรือใช้ความรุนแรงมาก่อนเลย แล้วเหตการณ์วันนี้คือสิ่งที่เค้าตัดสินเรา ตัดสินความเป็นเรา และตัดสินว่าจะจะออกไปจากความสัมพันธ์ระหว่างเรา จบทุกสิ่งทุกอย่าง อะไรกันวะ งง
อันนึงที่เสียใจก็คือไม่น่าปล่อยให้ความสัมพันธ์ของเราสองคนล่วงเลยมาถึงขั้นนี้ ถ้าเรายังเป็นแค่เพื่อนเหตการณ์นี้คงไม่เกิดขึ้น กว่าจะก้าวผ่านความเป็นเพื่อนมาถึงวันนี้ เราใช้เวลาสี่ปี ด้วยกันแต่เหตการณ์วันนี้วันเดียว เค้าตัดสินเราทันที เค้ามักจะมีเหตผลดีๆ ให้กับการกระทำแย่ๆ ของคนอื่นรอบตัวเสมอ แต่กับเรา ไม่สามารถมีเหตุผลดีๆ อะไรมาอธิบาย นอกจากเรานิสัยแย่ มาก และจบความสัมพันธ์
ที่ยังเลี่ยงการติดต่อแบบทางการยังไม่ได้เพราะเราคือ ลูกค้าและเค้าคือซัพพลายเออร์ มันจึงยังต้องคงสถานะเรื่องงาน ต่อไป
กระอักกระอ่วนคือคำที่คิดได้ตอนนี้
ตอนที่เรามีความสัมพันธ์มากกว่าเพื่อนครั้งแรก เราเคยพูดว่าเรากลัวจัง กลัวจะมองหน้ากันไม่ติด นี่สินะแบบนี้สินะ
เหตุการณ์หลายๆเรื่องในชีวิต ความสูญเสียที่ได้เจอ ทำให้เราคิดว่าชีวิตมันสั้นเหลือเกิน ถ้ารู้สึกดีต่อกันก็ปล่อยให้ความสัมพันธ์มันก้าวหน้าไป ตามธรรมชาติของมัน ใช้ชีวิตให้มันมีความสุข เพราะไม่รู้จริงๆ จะมีความสุข หรือมีชีวิต อีกนานแค่ไหน
แต่วันนี้ กลับทำให้รู้สึกว่าคิดผิดหรือปล่าวนะเรา ถ้าไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้น เราคงไม่ต้องเสียใจอีกครั้งแบบนี้เราคงยังเป็นเพื่อนที่มีระยะห่างพอประมาณ ที่จะไม่กระทบกระทั่งกันเอง
ที่จริงมาทบทวนดูดีๆ ก็มีแต่เราที่รู้สึกกับเค้ารึป่าว ไม่เคยได้พูดว่าเราสองคนเป็นอะไรกันเพราะก็ไม่เคยจะอยากจำกัดความ แค่อยู่ด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน ไปเที่ยวด้วยกัน ไม่เอาเปรียบกัน ทำสิ่งดีๆ ให้กัน แต่มาคิดไปคิดมา เห้ย เรารู้สึกคนเดียวป่าววะ คิดไปเองป่าวว่าเค้าก็รู้สึกอย่างเดียวกัน จริงๆมันใช่รึป่าว
คิดทบทวนเรื่องนี้มาหลายวัน รู้สึกว่าตัวเองผิดนะ ที่พลาดตีแรงเลยทักไปถามว่าหายโกรธได้รึยัง เค้าก็ตอบกลับมาว่า ใครโกรธใคร เออมันก็รู้สึกได้เองนะ ว่ามันไม่ปกติ ความปกติระหว่างเราคือทุกๆวันเราคุยกัน ต้องไลน์มาส่งรูปการใชัชีวิต ทุกวัน แต่นี้คือหายไป แล้วจะมาถามว่าใครโกรธใคร
มันไม่ใช่การงอน นิสัยเค้าไม่ใช่คนงอนให้ง้อ อะไรแบบนั้น มันก็ทำให้เรารู้สึก เห้อ แล้วก็ถอนใจไป อีกหลายเฮือก หลายกรุบ อยู่นะ ไปต่อยังงัยดี
คือก็ไม่ใช่เด็กวัยรุ่นที่จะมางอนง้ออะไรกัน อยากพูดกันตรงๆ อยากปรับความเข้าใจมากกว่า แต่เหมือนเค้าไม่น่าจะต้องการแบบที่เราต้องการ
ดูๆ แล้วเค้าน่าจะจงใจถอยความสัมพันธ์กลับไปเหลือแค่งาน มากกว่า ก็เข้าใจได้เหตการณ์ไดๆ คนนึงอาจมองว่ามันไม่ไ้ด้ร้ายแรง แต่อีกคนอาจรับไม่ได้ ถ้ามันแย่มากในความรู้สึกเค้า หรือเราก็คงต้องปล่อยไป ตามสิ่งที่มันจะเป็นไป หลายสิ่งในชีวิต เราก็กำหนดไม่ได้จริงๆ
สิ่งที่ทำได้ตอนนี้ก็คือ พยายามดูแล ใจตัวเองไม่ให้เสียใจมากนัก เจ็บบ่อยๆ หลายๆ ครั้งก็ทำให้มีภูมิต้านทาน มากขึ้นเรื่อยๆ และหวังว่าจะเจ็บน้อยลง รึป่าวนะ แต่มันก็เจ็บปวด ทุกครั้งไปสิน่าใจเราเอ๊ย
ที่จริงแล้วก็นึกมาตลอดว่า ความสัมพันธ์ ครั้งนี้ คงจบลงสักวัน ไม่ช้าก็เร็ว เพราะมันก็เป็นความสัมพันธ์ ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ ตั้งแต่แรกๆ แล้วนะ อายุก็ต่างกัน งานก็ไม่เอื้อให้เลย คนนึงลูกค้าคนนึง ซัพพลายเออร์ ความสัมพันธ์ ที่เปิดเผยไปก็ไม่ดี กับหน้าที่การงาน อายุที่แตกต่างกันจนไม่เคยมองเห็นความสัมพันธ์ ระยะยาว แต่ก็ไม่นึกว่ามันจะจบเร็วขนาดนี้
มันสั้นมากจริงๆ แต่มันเกิดขึ้นแล้ว อาจจะดีก็ได้ จบซะวันนี้ เราจะไ่ด้ไม่ผูกพันธ์มากมาย และคงเสียใจหนักกว่านี้ ไปอีกในวันข้างหน้า จบวันนี้ อาจจะดีแล้วก็ได้นะตัวเรา
ร้องไห้สองวันเฉพาะกลางคืน ก็เพียงพอละ ยังงัยก็ต้องทำงานและต้องผ่านมันไปอีกครั้งให้ได้ ดีนะมีเจลเย็นแช่ช่องฟรีซ ได้มาจาก โรงพยาบาลตอนเป็นไข้หวัดใหญ่ พอร้องไห้ ก่อนนอนก็เอามาโป๊ะ ตาช่วยได้มาก ไม่ให้ตาบวมตอนเช้า พอไปทำงานได้ แต่งหน้ากลบหน่อย ผ่านไปได้เป็นวันๆ ไป
เข้มแข็งเหมือนกันนะตัวเรา เข้มแข็งเข้าไว้ มันก็สอนนะเคยรู้สึกนะว่า กับเค้า คนนี้เราเป็นตัวเองได้มากกว่าทุกครั้งสบายใจ ที่จะพูดทะลึ่ง เล่นกันได้ เค้าเองก็ทำตัวตามสบายกับเรา ต่างจากความสัมพันธ์ คราวก่อนที่เคยผ่านมามาก รู้สึกเป็นตัวเองที่สุดละ
แต่สงสัย คงสบายๆ มากไปหน่อยนะ เลยไม่ได้ระวังคำพูดคำจา ต่อกัน ทำให้ได้บทเรียนในชีวิตอีกบท
ไม่เป็นไรนะเรา หนักกว่านี้ก็เจอมาแล้วนี่นะ จะเท่าไรกันแค่เจ็บอีกรอบนึงเท่านั้นเอง
ท้ายที่สุด ก็เหลือแค่ครอบครัว ที่ไม่ว่าเราจะทำอะไรพลาดไปแค่ไหน เค้าก็พร้อมเข้าใจและอภัยให้เราเสมอ
บันทึกเก็บไว้ ในความทรงจำ อีกช่วงนึงของชีวิต
ในขณะที่การงานก็หนักหนาเหลือเกิน หลายเรื่องเกิดขึ้น เคยคิดจะเล่าให้เค้าฟังอยากให้เค้าเป็นที่พักทางใจบ้างเล็กๆน้อยๆ อยากปรึกษา ว่าจะรับภาระหนักอึ้งของบริษัทดีมั๊ย แต่มันก็ด้วยความที่มันเป็นความลับทางธุรกิจ เราเองก็มีหน้าที่รับผิดชอบก็ต้องหยุดไว้ก่อน แต่ก็คิดเสมอว่าเค้าน่าจะพอไว้ใจได้ในเรื่องงาน และหนักแน่นเรืองงาน เรียกว่าเป็นคนที่ปรึกษาเรืองงานกันได้ถึงเค้าจะอายุน้อยกว่าเรา แต่ก็เป็นผู้ใหญ่มากในเรืองงานการ ทำได้ดีหลายๆ เรืองดีกว่าเราด้วยซ้ำไป
แต่ไม่ได้แล้วสินะ อย่าไปคิดจะพึ่งพาใครเลย พึ่งตัวเองนะเธอเอ๊ย
ขีวิตก็แค่นี้เอง มีผิดหวัง มีสมหวัง มีความสุข และมีความเศร้าเสียใจ ปะปนเสมอ
อัดอั้นอยู่ในใจมาหลายวันใช้สติและสมาธิ ไม่ใช้อารมณ์ มาเขียนเรืองนีออกมาเป็นตัวอักษร จะได้แบ่งเบาความหนักอึ้งในใจลงบ้าง สักนิดนึง
ท้ายที่สุดเธอจะผ่านไปได้ เชื่อแบบนี้นะ เราเอง
กระทู้ที่ไม่ได้ถาม แต่ถ้าใครอยากแสดงความคิดเห็นก็เบาๆหน่อยนะคะ เราเจ็บมันเศร้าอยู่